
ถือว่าเป็นข่าวดีที่ประเทสไทยจะได้มีการแข่งขันรถสูตร 1 ระดับโลก แต่ก็ยังมีคำถามหลาย ๆ คำถามที่พุ่งเข้ามาอยู่ในหัวว่า สถานที่จัดแข่งขันจะใช้สถานที่ไหน ประเทศไทยจะมีความพร้อมแล้วหรือไม่? หรือการเอา F1 เข้ามาแข่งที่ประเทศไทยจะเสี่ยงหรือจะคุ้มในด้านเศรษฐกิจ
ล่าสุดวันที่ 17 มิ.ย. 68 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เผยผลประชุม ครม. ที่มีมติเห็นชอบให้ ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่ง (F1) ระยะเวลา 5 ปี (เริ่มปี 2571) โดยใช้งบประมาณรวมกว่า 40,000 ล้านบาท เบื้องต้นจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษารายละเอียดเชิงลึกเพิ่มเติม และต้องเสนองบประมาณเป็นรายปีให้ ครม.อนุมัติในแต่ละปีต่อไป

ประเด็นที่น่าสนใจ F1 = เครื่องจักรปั๊มเงินระดับโลกจริงหรอ?
การแข่งขัน F1 ขึ้นชื่อว่าเป็นอีเวนต์กีฬา ที่ทำเงินสูงที่สุดในโลก ประเทศที่จัดการแข่งขันจะได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่พร้อมจ่ายค่าตั๋ว ค่าที่พัก ราคาแพง , กระแสการตลาดและภาพลักษณ์ประเทศ สร้างชื่อบนเวทีโลก , โครงสร้างพื้นฐานใหม่ ทั้งสนามแข่ง ระบบขนส่ง และสิ่งอำนวยความสะดวก
แต่ประเทศไทยพร้อมหรือไม่?
การลงทุน 4 หมื่นล้านบาทไม่ใช่ตัวเลขน้อย ๆ เลย ต้องตอบให้ได้ว่า สนามแข่งจะอยู่ที่ไหน? กรุงเทพ? พัทยา? หรือจังหวัดอื่น? จะสร้างสนามถาวรหรือสนามชั่วคราวแบบสิงคโปร์? ไทยมีระบบขนส่งรองรับหรือยัง? เพราะ F1 ต้องการการบริหารจัดการคนจำนวนมากในเวลาจำกัด สิงคโปร์ ใช้สนามแบบ Street Circuit (แข่งบนถนนในเมือง) ใช้งบประมาณสูงในช่วงแรก แต่ตอนนี้กลายเป็น “ตู้ ATM ประเทศ” เวียดนาม เคยวางแผนจัด F1 ที่ฮานอย แต่ยกเลิกเพราะปัญหาการเมืองและการเงิน
แต่ใช่ว่าจะมีแต่ข้อกังวลนะครับ เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องของขณะ ครม. เมื่อได้ข้อสรุปอย่างไร ตู๋ลิ่วล้อจะรีบรายงานให้ทราบทันทีทันใดครับ มาดูข้อดีกันบ้างว่าถ้าการแข่งขัน F1 จัดขึ้นที่ประเทศไทยจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง? กระตุ้นการท่องเที่ยว-เศรษฐกิจอย่างแรง , ดึงนักลงทุนระดับโลก , สร้างอาชีพในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
การเสนอตัวจัด F1 คือโอกาสใหญ่ของไทย แต่ต้องถามให้ชัดว่า “เราได้อะไร?” กับ “เราเสียอะไร?” หากทำอย่างมืออาชีพ วางแผนดีเหมือนสิงคโปร์ ไทยอาจมีโอกาสพลิกเศรษฐกิจได้จริง แต่ถ้าไม่มีวิสัยทัศน์ การจัด F1 อาจกลายเป็นเพียง “สนามแข่งที่ไม่มีคนดู” และ “สนามซ้อมการใช้เงิน” เท่านั้น