“ชัยวัฒน์” งัดหลักฐานโต้กลับ “ปมทุจริต”สร้างหน่วยพิทักษ์

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีต ผอ.สำนักอุทยาน งัดข้อมูลโต้กลับกระแสข่าวแรง ปมถูกไล่ออก ฐานทุจริต ฮั้วประมูลสร้างหน่วยพิทักษ์อุทยาน “ห้วยคมกฤต” และยังต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาลอาญาคดีทุจริต!

ชัยวัฒน์งัดหลักฐานโต้กลับปม
“ทุจริต” จนถึงขั้น ”ไล่ออก“ ราชการ ชี้ 1,000,000 ไม่ใช่ของผม..

ล่าสุด 17 มีนาคม 2568 เพจเฟสบุ๊ก นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตผู้อำนวนการสำนักอุทยาน เผยข้อมูล กรณีกระแสข่าวทุจริตปมฮั้วสร้างหน่วยพิทักษ์อุทยานห้วยคมกฤต

โดยระบุข้อมูลว่า ..
เพื่อให้ได้รับข้อมูลและข้อเท็จจริง
ตรงกัน ไม่เบียงเบนไปตาม เอกสารของ อ.ก.พ. กระทรวงทรัพย์ฯในเอกสารมีข้อความว่า “เช็คเงินสด..ให้กับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร“ นั้น ”ไม่เป็นความจริง“ ตามหนังสือไล่ออก ! ฉะนั้น..เรื่องนี้ ก็ยังต้องต่อสู้ในชั้นศาลอาญาทุจริต แต่ที่กระทรวงฯ + การเมือง เล่นเกมส์ แบบนี้..ก็ไม่ว่ากัน

และยังยกตัวอย่างว่า

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร รู้จักนายดวง นายดวง ไปรับเงินจาก บริษัท ไปดำเนินการ ต่ออย่างไรนั้น จะไปจ่ายค่าแรง หรือ ค่าจ้างเหมารถที่ต้องขนวัสดุ ขึ้นไปที่หน่วยคมกฤต นั้น

แล้วกล่าวหา ว่านายดวง เอาเงินมาให้ นายชัยวัฒน์ ในการตรวจสอบ ไม่มีชื่อนายดวง หรือ นายดวงโอนหรือเอาเงินสด มาให้ ผมสักบาทหนึ่งเลย แบบนี้ยังกล่าวหาได้

งั้น..กรณีนี้ กรณี ที่ อดีตอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติฯ ถูก ป.ป.ป. ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. ที่ผมนำสืบ เรื่อง การเรียกรับเงิน และ ค้นเจอเงินสด ห้าล้านบาท นั้น!

แบบนี้ ก็กล่าวหา ปลัดจตุพร หรือ รมว.ทส ได้ซิ ครับ เพราะ..ชัดยิ่งกว่าชัด เพราะ..ท่านแต่งตั้ง มอบอำนาจให้กับมือ ไม่เลวร้ายยิ่งกว่าหรือ ???

และก็ได้ฝากเตือนไปยัง ปลัด ทส. ปมเอกสารไล่ออกราชการหลุด ทั้งที่ตนเองยังไม่เห็นหนังสือ (ลับ) ลั่นต้องไปชี้แจงในศาลโดย ระบุว่า “เตือน! ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผมเป็นผู้ถูกกระทำ ผมยังไม่เห็นหนังสือ(ลับ) ที่ อกพ.กระทรวงฯ ลงมติเลย แต่มีสื่อโซเซียลได้ไป นำไปออกโชว์ในสื่อ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยปลัดกระทรวงฯ ก็ต้องไปชี้แจงที่ศาลนะ ท่าน…ตัดสินตามระเบียบได้ แต่…ปล่อยเอกสารทุกหน้า หลุดออกมาแบบนี้ ไม่ได้! “มันผิดกฏหมายอาญา”

ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ออกมาย้ำ ถึงนาย “ชัยวัฒน์”ว่า ยังมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ และหากอุทธรณ์แล้วผิดจริง ก็จะถูกตัดสิทธิ์บำเหน็จบำนาญที่เคยรับ และต้องส่งคืนหลวงพร้อมย้ำ พฤหัส ที่ 19 มิถุนายน นี้ จะออกมาชี้แจงข้อมูลทั้งหมดผ่าน Live ในเฟสบุ๊กส่วนตัว


นายจตุพร ให้สัมภาษณ์ว่า นายชัยวัฒน์ ยังมีสิทธิ์ฟ้องโต้แย้งคำสั่งดังกล่าวต่อศาลปกครองภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ถูกลงโทษ หรือทำหนังสืออุทธรณ์ถึงประธาน ก.พ.ค. ภายใน 30 วันนับแต่วันทราบคำสั่งนี้ ซึ่ง นายชัยวัฒน์ ต้องเลือกอุทธรณ์แค่เพียงช่องทางเดียว…

“จริงๆ เรื่องนี้มันเกิดขึ้นนานมากแล้ว ตั้งแต่สมัย นายชัยวัฒน์ ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าอุทยานฯ แก่งกระจาน น่าจะเป็นสิบปีแล้ว และเรื่องนี้เคยอุทธรณ์ไปแล้ว แต่ทาง ป.ป.ช. ยังคงยืนคำสั่งดังกล่าวเหมือนเดิม”

ส่วนขั้นตอนต่อไปทาง นายชัยวัฒน์ ต้องไปยื่นอุทธรณ์ต่อ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาในบางคดีศาลปกครอง ก็เคยตัดสินเห็นต่างกับทาง ป.ป.ช. ส่วนเรื่องนี้ก็ต้องปล่อยไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

ปลัด ทส. ระบุว่า ทั้งนี้หากยื่นอุทธรณ์แล้ว และตัดสินว่า นายชัยวัฒน์ มีความผิดตามที่ ป.ป.ช.ระบุมา ก็ต้องตัดสิทธิทางราชการทั้งหมด เช่น บำเหน็จบำนาญ ซึ่งขณะนี้ นายชัยวัฒน์ ได้เกษียณไปแล้ว ส่วนเงินบำเหน็จบำนาญที่ นายชัยวัฒน์ เคยได้รับไปแล้ว ก็ต้องส่งคืนให้หลวง…