จากกรณีพ่อแม่ร้องปวีณา ช่วยลูกสาววัย 16 ปี ถูกเพื่อนหลอกไป ค้าประเวณี ที่ เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา
มูลนิธิปวีณา ประสานมายังหน่วยงานในพื้นที่ จนสามารถช่วยเหลือเด็กสาวรายนี้กลับไทยได้ในที่สุด
นางปวีณา และพ่อแม่เหยื่อไม่รอช้า เดินทางจากกรุงเทพฯ มาจังหวัดตากตั้งแต่เมื่อวานนี้ (6 ก.ย. 65)
ในที่สุด ลูกสาวได้กลับสู่อ้อมอกพ่อแม่อีกครั้ง
เด็กสาววัย 16 ปี เหยื่อค้ามนุษย์ ได้กลับสู่อ้อมอกพ่อแม่แล้ววันนี้ (7 ก.ย. 65) เวลาประมาณ 10.00 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางเข้าพบ พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 (ผบ.ฉก. ร.14) และ พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ แก้วอ่อน ผกก.สภ.แม่สอด เพื่อประชุมอธิบายขั้นตอนการช่วยเหลือ น้องอุ้ม (นามสมมุติ) วัย 16 ปี ที่ตกเป็น เหยื่อค้ามนุษย์
ทาง พ.อ.ณรงค์ชัย ได้อธิบายถึงในส่วนของการวางแผนเข้าช่วย น้องอุ้ม หลังได้รับการประสานงานจากมูลนิธิปวีณาฯ ว่า ได้ประสานไปยัง TBC ชายแดนไทย-เมียนมา หลังได้รับแจ้งชื่อร้านคาราโอเกะที่น้องอุ้มโดนหลอกไปค้ากาม
คืนวันที่ 5 ก.ย. 65 น้องอุ้มได้รับการช่วยเหลือโดยทหารไทย เข้ารับตัวออกมาจากร้านคาราโอเกะดังกล่าว ขึ้นเรือข้ามฟากกลับไทยผ่านแม่น้ำเมยในกลางดึกนั้นทันที
จากพฤติการณ์ดังกล่าว ถือเป็นความผิดฐาน ค้ามนุษย์ เนื่องจากคดีของน้องอุ้มนั้น มีผู้เป็นธุระจัดหา แสวงหาผลประโยชน์จากการค้าแระเวณีเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ มาตรา 6, 9, 11, 52
ทั้งนี้ ยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้เป็นธุระจัดหา หรือเพื่อนที่หลอกน้องอุ้มไปค้ากามได้ เนื่องจากยังไม่ได้สอบปากคำน้องอุ้มถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ด้วยสภาพจิตใจของเหยื่อที่ยังไม่พร้อม และยังคงหวาดผวากับเรื่องราวที่เจอ
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคดีนี้อยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.กระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ต้องมีการนำตัวเหยื่อไปสอบปากคำที่ สภ.กระสังก่อน หลังจากนั้นถึงจะมีการแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำความผิด
แต่เนื่องจากตัวของน้องอุ้มนั้นได้ข้ามชายเเดนไปอย่างผิดกฎหมาย จึงถือว่ามีความผิด เพราะรู้อยู่แล้วว่าฝั่งนั้นไม่ใช่ชายแดนไทย ในส่วนนี้จะมีการแจ้งข้อกล่าวกับตัวน้องอุ้ม ผู้เป็นเหยื่อหรือไม่ หรือจะมีแนวทางในการช่วยเหลืออย่างไร
ติดตามต่อได้ที่อีจัน
คลิปอีจันแนะนำ
สูญ 3 ชีวิต สังเวยทาสยานรก!