
คืบหน้ากรณีแก๊งเสือปุ่นใช้อาวุธปืนและมีดปล้นเงิน 3.4 ล้านบาท ซื้อสกุลเงินคริปโตฯ ที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างดังย่านลาดพร้าว เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา ก่อนจะตามล่าผู้ต้องหาได้ 4 ราย ยังเหลืออีก 3 ราย
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (3 ก.ค.68) ที่ สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายเฌอพัชญ์หรือหนาว และน.ส.นานา 2 ผู้ต้องหาที่จับได้ก่อนหน้านี้ ไปขออำนาจศาลอาญาเพื่อฝากขังผัดแรก โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวท้ายคำร้อง เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง และเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี
ระหว่างควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ขึ้นรถผู้ต้องขังเพื่อส่งฝากขัง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 คนอีกครั้ง คราวนี้นายหนาวเปิดใจอย่างละเอียดกับผู้สื่อข่าวว่า นายเต้ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย บอกกับตนว่านำเงินจำนวนนี้มาจากพวกสีเทาแล้วมารับฟอก ส่วนที่มีการซื้อขายเงินกันในวันเกิดเหตุนั้น ผู้เสียหายให้เงินเปอร์เซ็นต์ตนแค่ 0.5 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบว่ากลุ่มเสือปุ่นมาได้อย่างไร เพราะตนคุยกับนายเต้เพียงคนเดียว ตนไม่รู้เห็นถึงแผนการปล้นดังกล่าว ก่อนที่ น.ส.นานา จะพูดเสริมว่า วันนั้นแค่ไปรับเงินอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน รู้จักกับเสือปุ่นได้อย่างไร นายหนาวปฏิเสธบอกว่าไม่ทราบ
เมื่อผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ถูกนำตัวขึ้นรถคุมขัง ผู้สื่อข่าวสอบถามย้ำอีกครั้งว่า จากข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นให้การปฏิเสธหรือสารภาพ น.ส.นานา และนายหนาว บอกผู้สื่อข่าวว่า ให้การปฏิเสธ เพราะทั้งคู่ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับการปล้นครั้งนี้
โดย น.ส.นานา อธิบายเพิ่มว่า วันนั้นเพื่อนก็คือนายหนาว แค่ชวนให้ตนไปรับเงินด้วยเฉยๆ ส่วนภายในห้องควบคุมผู้ต้องหา ตนไม่ได้พูดคุยอะไรกับนายไอซ์ และนายสอง ผู้ต้องหาที่ได้ตัวเมื่อวานนี้ แค่พูดคุยชวนกินข้าวกันทั่วไป ไม่ได้มีการพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งไม่ได้บอกว่าผู้ต้องหาที่อยู่ในระหว่างการหลบหนีอยู่ที่ไหน

ผู้สื่อข่าวสอบถามทิ้งท้ายว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปจะไปที่ห้างหรืออยู่ในเหตุการณ์หรือไม่ นายหนาวตอบว่า ตอนนั้นตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าร่วมมือกันหรือเปล่า เพราะนายเต้แค่แจ้งให้พวกตนไปรับเงินที่มาจากการฟอกของนายเต้ แต่สุดท้ายนายเต้ก็กลับมาแจ้งกล่าวหาว่าพวกตนไปจี้เขา ซึ่งตนไม่ทราบว่าเหตุการณ์ในวันนั้นว่าต้องถึงขั้นไปจี้เอาเงินมาหรือไม่
นอกจากนี้มีรายงานว่า เมื่อวานนี้ (2 มิ.ย.68) ตำรวจได้จับกุมเพิ่มเติม 2 ราย คือ นายอนันต์ชัย หรือไอซ์ และนายนนทวัฒน์ หรือสอง ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ยังควบคุมตัวไว้เพื่อสอบปากคำ โดยจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจสิบเวรคุมหน้าห้องขัง ทราบว่าทั้งสองคนไม่มีอาการเครียดหรือวิตกกังวลแต่อย่างใด ยังคงกินนอนได้ตามปกติ คาดว่าจะนำตัวส่งฝากขังศาลอาญาวันพรุ่งนี้ (4 ก.ค.68)
จากการสอบถามตำรวจเบื้องต้น ทราบว่าจากการที่ผู้ต้องหาให้การอ้างว่าเงินของกลาง 3.4 ล้านบาท ที่ปล้นมาเป็นเงินที่ผู้เสียหายได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย ทำให้ทางตำรวจจะต้องเรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อชี้แจงที่มาของเงินดังกล่าวว่ามาจากสีเทาผิดกฎหมายจริงหรือไม่ ส่วนจากการเข้าจับกุมนายสองที่บ้านเมื่อวานนี้ ยังไม่พบว่านายสองครอบครองอาวุธปืนแต่อย่างใด

สำหรับคดีปล้นเงิน 3.4 ล้านบาท กลางห้างย่านลาดพร้าว ยังคงเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 3 ราย ที่ยังอยู่ในระหว่างการไล่ล่าจับกุม คือ นายวรวัฒน์ หรือเสือปุ่น นายบอล และนายรุ่งนิรันดร์ หรือโบ้ ซึ่งทางเป็นตำรวจยังคงไล่ล่าติดตามตัวมาดำเนินคดี คาดว่ายังคงหลบหนีในประเทศไทย
โดยจากประวัติพบว่า ทั้ง 3 คนนี้เคยมีประวัติตกเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกันปล้นเงินล่อซื้อยาไอซ์จากตำรวจ มูลค่า 9 ล้านบาท และทำร้ายเจ้าพนักงาน ท้องที่ สภ.บ้านนา จ.นครยายก เมื่อวันที่ 2 ก.ย.67 และถูกจับกุมดำเนินคดีดังกล่าว คาดว่าทั้ง 3 คนได้รับการประกันตัวและมาก่อเหตุอุกอาจอีกครั้ง จึงตั้งข้อสงสัยว่า ทั้ง 3 คนได้รับการประกันตัวได้อย่างไรในคดีก่อน ทั้งที่เป็นคดีอุจฉกรรจ์
