ตำรวจจับผู้ต้องหา ยกเค้าโรงเเรมเกาะสมุย เพิ่ม 3 คน

จับผู้ต้องหายกเค้าโรงแรมเกาะสมุย เพิ่ม 3 ราย! ทำเป็นทีม 9 คน ความเสียหายจาก 70 ล้าน ประเมินเหลือ 17 ล้านบาท

วันนี้ (9 ก.ย.65) พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เผยว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 2 ก.ย.65 ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ได้รับแจ้งจากเจ้าของโรงเเรมบลูลากูน เดอะ ทีค วิง ถูกคนร้ายยกเค้าโรงเเรม เสียหายหลายล้าน

เหิมเกริม! คนร้ายยกเค้า โรงเเรมหรูเกาะสมุย สูญ 70 ล้าน

จากการสืบสวนของตำรวจ เบื้องต้น ทราบว่า สถานที่ตั้งของโรงแรมดังกล่าวได้ถูกเช่าเพื่อนำไปทำเป็นโรงแรมตั้งแต่ปี 2533 ภายใต้สัญญาเช่า 30 ปี ครบกำหนดเมื่อปี 2563 โดยผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินได้รับพื้นที่ดังกล่าวคืนพร้อมสิ่งปลูกสร้าง (โรงแรมและทรัพย์สินภายในโรงแรมทั้งหมด) เมื่อประมาณปลายปี 2564 เจ้าของโรงเเรม ได้มีการจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยมาดูแลในช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะปล่อยทิ้งร้าง หลังหมดสัญญาจ้างกับพนักงานรักษาความปลอดภัย

ต่อมาเมื่อวันที่ 22 ส.ค.65

เจ้าของโรงเเรม ได้เข้าไปตรวจดูภายในโรงแรม พบว่า มีทรัพย์สินภายในโรงแรมสูญหายไปเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 23.5 ล้านบาทจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บ่อผุด

ตำรวจสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้เช่าเดิมที่เพิ่งส่งมอบที่ดินคืนให้แก่ผู้เสียหาย และได้วางแผนกลับมาลักเอาทรัพย์สินภายในโรงแรมดังกล่าว เพื่อนำไปขายต่อ และเมื่อวันที่ 8 ก.ย.65 ตำรวจสภ.บ่อผุด นำหมายค้นเพื่อขอเข้าค้นโกดังเก็บของ ที่มีนางณัชชา หรือ แพท เป็นผู้ดูแล โดยภายในโกดังพบวัสดุหลากหลายชนิด ทั้งโต๊ะ เตียง ตู้ และสุขภัณฑ์ ส่วนภายนอกโกดัง ยังพบเหล็กกล่องอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง

เบื้องต้น ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 9 ราย ประกอบด้วย 1.นายโอมชัยศักดิ์ หรือ โอม อายุ 50 ปี เป็นผู้วางแผน

2.น.ส.ณัชชา หรือ แพท อายุ 31 ปี เป็นผู้วางแผน

3.น.ส.ขวัญใจ หรือ น้อย อายุ 40 ปี เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์

4.นายอภิพัฒน์ หรือ โอ๊ต อายุ 33 ปี (ลูกชายของนายโอมชัยศักดิ์) เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์

5.นายกฤษณะ หรือ หนุ่ย อายุ 33 ปี เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์

6.นายตูยา โซว อายุ 23 ปี สัญชาติเมียนมาร์ เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์

7.นายมิน เพียว อ่อง อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมาร์ เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์

8.นายพยู อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมาร์ เป็นผู้ลงมือลักทรัพย์

9.น.ส.ภัคจิรา อายุ 42 ปี เป็นผู้รับซื้อของที่ได้มาจากการลักทรัพย์

ตำรวจสามารถยึดทรัพย์สินของกลางในคดีได้หลายรายการ ได้แก่ รถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุจำนวน 2 คัน รถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน ชุดถังแก๊สที่ใช้ในการตัดเหล็ก จำนวน 1 ชุด ท่อนเหล็ก วงกบประตู บานหน้าต่างไม้ แผ่นหลังคาเมทัลชีท ที่ได้จากการลักมาจากที่โรงแรมจำนวนมาก โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุนี้จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยร่วมกัน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วย ประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทาความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร” อัตราโทษจาคุก ต้ังแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ร่วมกับนางยมนา พูลสวัสดิ์ เจ้าของโรงแรม ได้เข้าตรวจสอบทรัพย์สินในโรงแรมเพื่อประเมินความเสียหายของทรัพย์อีกรอบ เนื่องจากพบว่าไม่ใช่ทุกห้องที่จะได้รับความเสียหาย จากมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายประมาณการในครั้งแรกประมาณ 17,548,000 บาท ขณะนี้สามารถติดตามกลับมาได้จำนวน 381 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 659,000 บาท และตรวจพบทรัพย์สินในที่เกิดเหตุที่ยังไม่สูญหาย จำนวน 1,001 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,557,500 บาท สรุปความเสียหายเบื้องต้นคิดมูลค่าประมาณ 14,334,500 บาท

คลิปอีจันแนะนำ
ข้อความสุดท้าย! สาวหายตัวปริศนา 8 ปี