ปคม. รวบขบวนการขายฝัน ลวงเหยื่อไปทำงาน ที่ดูไบ แต่ บังคับขายตัวใช้หนี้

ตำรวจ ปคม. รวบขบวนการขายฝัน หลอกเหยื่อบินไปทำงาน ที่ดูไบ ก่อนยึดพาสปอร์ต บังคับขายตัวใช้หนี้

วันนี้ (8 ธ.ค. 65) ที่ กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ,พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. และนายสิบหมื่นชัย โพธิสินธุ์ ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน ร่วมแถลง การจับกุมขบวนการหลอกขายฝันแรงงานไทย บังคับค้ากามที่ดูไบ

การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อเดือน พ.ย. 64 นายภานุวัฒน์ (หนึ่งในผู้ต้องหา) ได้ชักชวนนายบี (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ไปทำงานที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยอ้างว่า มีงานรายได้ดี เงินเดือน 80,000 บาท โดยลักษณะงานเป็นงานนวดแผนไทย มีที่พักและอาหารให้ ถ้าสนใจ จะทำเรื่องหนังสือเดินทางให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และก่อนไปทำงานจะมีการเทรนงานให้อีกด้วย

ซึ่งนายบีสนใจ นายภานุวัฒน์ จึงให้นายบีติดต่อไปพูดคุย น.ส.จรรยา หรือปุ้ย นายหน้า เกี่ยวกับเรื่องการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ จนภายหลังนายบีหลงเชื่อ และตกลงไปทำงานด้วย

วันที่ 15 พ.ย. 64 กลุ่มผู้ต้องหานัดให้นายบีไปพบกับ น.ส.นันทพร หรือหนิง เพื่อรับเทรนงานก่อนที่จะเดินทางไปทำงาน โดยใช้เวลาเทรนงานประมาณ 2-3 วัน

วันที่ 18 พ.ย. 64 นายบีเดินทางไปประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตามวันเวลาที่กลุ่มผู้ต้องหากำหนด โดยมีหญิงไทย และชายสัญชาติอินเดีย มารอรับที่สนามบิน ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาได้ยึดหนังสือเดินทางของนายบีไว้ และพาไปพบหญิงชาวจีน เพื่อไปเริ่มงานที่ร้านนวดแห่งหนึ่งในเมืองดูไบ

พอไปถึงที่ร้าน นายบีเห็นว่า ร้านนวดมีการค้าประเวณี โดยมีนายนิกกี้ สัญชาติปากีสถาน และนายอาหลิว สัญชาติจีน (ผู้จัดการร้าน) บังคับให้นายบีขายบริการทางเพศ โดยจะให้ค่าตัวครั้งละ 100 ดีแฮห์ม หรือประมาณ 900 บาท แต่จะต้องจ่ายให้ทางร้าน ครั้งละ 50 ดีแฮห์ม หรือประมาณ 450 บาท เป็นการหักชำระหนี้ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ คิดเป็นเงิน 71,000 บาท

นายบีบอกว่า ต้องยอมถูกบังคับ ข่มขู่ ให้ขายบริการทางเพศเรื่อยมา เพราะไม่มีเงินใช้หนี้

จนกระทั่ง วันหนึ่งถูกส่งตัวไปทำงานที่ร้านนวดเเห่งใหม่ ซึ่งเป็นร้านของ นายอีซี่ สัญชาติไนจีเรีย นายบีก็ได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนในร้าน และติดต่อขอความช่วยเหลือจากทางญาติ จนได้รับการช่วยเหลือส่งตัวกลับมายังประเทศไทย

หลังจากนั้น จึงได้มาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน บก.ปคม. เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับกลุ่มขบวนการดังกล่าวได้จำนวน 7 ราย ดังนี้

1. นายภานุวัฒน์ อายุ 36 ปี  ทำหน้าที่ติดต่อชักชวนผู้เสียหายให้ไปทำงาน

2. นางสาวนันทพร อายุ 45 ปี ทำหน้าที่เทรนงาน จัดการดำเนินการต่างๆ

3. นางสาวจรรยา อายุ 32 ปี ทำหน้าที่โพสต์ชักชวน โฆษณาหางาน ติดต่อประสานงานเกี่ยวกับการเดินทาง และประสานงานเจ้าของร้านนวดที่เมืองดูไบ

4. นายนิกกี้ สัญชาติปากีสถาน อายุประมาณ 30 ปี ทำหน้าที่ บังคับ ข่มขู่ผู้เสียหาย ให้ทำงานขายบริการทางเพศ

5. นายอาหลิว สัญชาติจีน อายุประมาณ 22 ปี ทำหน้าที่เก็บเงินค่าบริการทางเพศเป็นเงินที่ต้องใช้หนี้ และบังคับ ข่มขู่ให้ผู้เสียหายทำงานขายบริการทางเพศ

6. หญิงสัญชาติจีน อายุประมาณ 48 ปี ทำหน้าที่ รับ-ส่ง ผู้เสียหายจากสนามบินไปยังร้านนวดที่เมืองดูไบ

7. นายอีซี่ สัญชาติไนจีเรีย อายุประมาณ 25 ปี ทำหน้าที่ บังคับ ข่มขู่ให้ผู้เสียหายทำงานขายบริการทางเพศ

ในข้อกล่าวหา

-สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์และผู้ที่สมคบกันกระทำความผิดคนหนึ่งคนใด ได้ลงมือกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ตามที่ได้สมคบกัน

-ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์

-ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป ซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ ก็ตาม และไม่ว่าการกระทำต่างๆ อันประกอบด้วยความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือภายนอกราชอาณาจักร โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้อำนาจครอบงำผิด คลองธรรมหรือข่มขืนใจด้วยประการใดๆ ฯลฯ

มีอัตราโทษจำคุก ตั้งแต่ 4-10 ปี และปรับตั้งแต่ 80,000-200,000 บาท

คลิปอีจันแนะนำ
ช่วย 2 สาวไทย พ้นนรกเล้าเมียนมา