ไม่รอด! ตร.บุกรวบไอ้เหี้ยม ฆาตกรเลือดเย็น สังหาร 4 ศพ ที่ จ.ชุมพร

รวบแล้ว ฆาตกรโหด สังหารเหยื่อชาวไทยและเมียนมา รวม 4 ศพ ที่ จ.ชุมพร ก่อนขโมยรถผู้ตาย หลบหนีจาก จ.ชุมพร จนมาจนมุมที่ จ.สุราษฎร์ธานี

จากกรณี คนร้ายก่อเหตุฆาตกรรมโหด ฆ่าคนไทยและลูกจ้างชาวเมียนมารวม 4 ศพ ในพื้นที่ ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร ก่อนคนร้ายจะขโมยรถยนตร์ ของผู้เสียชีวิตหลบหนีไป เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา

สุดเหี้ยม! ชุมพรฆ่าโหด 4 ศพ ไทย-เมียนมา จ่อยิงหัว-เผาทั้งคนทั้งรถ

ล่าสุดวันนี้ (17 ก.ค. 66) เวลา 10.00 น. นายอุทัย เทือกสุบรรณ นายอำเภอชัยบุรี และ นายชัชชัย มณี ปลัดอาวุโส สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยบุรี พร้อม ตำรวจจังหวัดชุมพร เข้าปิดล้อม จับกุมนายประพันธ์ ผู้ต้องหาคดีฆ่าโหด 4 ศพ ในพื้นที่ ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร

โดยการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 16.ก.ค 66 ตำรวจ สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฏร์ธานี ได้รับแจ้งมีเหตุรถกระบะ พลิกคว่ำ บนถนนสุราษฎร์ – นครศรีธรรมราช ในพื้นที่ ต.ท่าอุแอ อ.กาญจนดิษฐ์ เมื่อตำรวจเข้าตรวจสอบพบ รถกระบะสีดำ 2 ประตู ซึ่งสภาพหน้ารถ และ ฝั่งซ้ายของตัวรถ มีร่องรอยการพลิกคว่ำ และไม่พบคนขับ อยู่ภายในรถ

จากการตรวจสอบพบว่า ชื่อเจ้าของรถกระบะคันนี้ ไปตรงกับชื่อผู้ตายในเหตุ ฆาตกรรม 4 ศพ ในพื้นที่ ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร นั่นคือ นายประยงค์ อายุ 61 ปี ตำรวจจึงมั่นใจว่า คนร้ายได้ขโมยรถของผู้ตาย หลังจากก่อเหตุฆาตรกรรมเหี้ยม และหลบหนี มากบดานในพื้นที่ หมู่ที่ 8 ต.สองแพรก อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี

ภายหลังเกิดอุบัติเหตุ คนร้ายได้รีบออกจากตัวรถ และเดินไปตั้งหลักใกล้จุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งถือปืนติดมือมาด้วย และในเวลาต่อมา ได้มีรถยนต์ เป็นเก๋งสีขาวขับมาและรับตัวคนร้ายขึ้นรถ ก่อนจะหลบหนี ออกจากจุดเกิดเหตุ

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตาม นำโดย พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รองผบก.ภ.จว.ชุมพร นำหมายศาลจังหวัดหลังสวนลงวันที่ 16 ก.ค 66 เลขที่ 119/2566 ลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมแกะรอยกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อติดตามเส้นทาง ที่คนร้ายใช้หลบหนี

จนล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันนี้ (17 ก.ค. 66) ตำรวจชุดไล่ล่า สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว ขณะที่เดินอยู่บนถนนภายใน หมู่บ้าน ม.5 ต.สองแพรก อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี และทำการค้นตัวผู้ต้องหา แต่ไม่พบอาวุธปืน ที่ใช้ก่อเหตุ และตัวผู้ต้องหาเอง ยังมีอาการอิดโรย และพูดจาไม่รู้เรื่อง ฝั่งเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง สภ.ชัยบุรี เพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำตัวส่งให้ สภ.นาสัก เพื่อดำเนินคดี ตามกฏหมายต่อไป