สาวร้องสื่อ 5 วันยังจับคนร้ายฆ่าพ่อไม่ได้ วอนเห็นใจ ตอนนี้ใช้ชีวิตหวาดระแวง

พ่อต้องไม่ตายฟรี ! ลูกสาวร้องสื่อ 5 วัน ตำรวจยังไร้วี่แววได้ตัวคนร้าย ญาติกลัว ไม่กล้าร่วมงานศพ เชื่อ คนร้ายยังหลบอยู่ในพื้นที่ วอนตำรวจเร่งล่าตัวมาลงโทษ

วันที่ 17 ก.ย.63 เกิดเหตุสลด ตำรวจ สภ.สำรอง ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้าน มีผู้เสียชีวิตถูกจอบฟันที่ศีรษะ ในพื้นที่บ้านรางเข้ หมู่ 6 ต.พังตรุ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

ภาพจากอีจัน
ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบ พบศพ โดนจอบฟันเข้าที่ด้านหลังศีรษะและท้ายทอย จำนวน 2 แผล นอนเสียชีวิตอยู่กลางไร่มันสำปะหลัง ทราบชื่อผู้ตาย คือ นายโปรย อายุ 63 ปี ชาวไร่ข้าวโพดและไร่มันสำปะหลัง จากการสืบสวนของตำรวจ สันนิษฐานว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นนายพงษ์พันธ์ หรือ เตย อายุ 38 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเคยมีปากเสียงกับผู้เสียชีวิตมาก่อน
ภาพจากอีจัน
ในวันเดียว ตำรวจได้ขอศาลจังหวัดกาญจนบุรีออกหมายจับ นายพงษ์พันธ์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเรียบร้อยแล้ว โดยตำรวจอยู่ในระหว่างการออกติดตามหาตัว นายพงษ์พันธ์ ที่คาดว่าน่าจะหลบหนีอยู่ตามบ้านญาติ เพื่อนสนิทหรือคนรู้จักในอำเภอท่าม่วง
ภาพจากอีจัน
จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ที่ดินแปลงที่เกิดเหตุ เคยเป็นของบ้าน นายพงษ์พันธ์ ก่อนที่จะมีการขายให้กับเจ้าของที่รายปัจจุบัน และครอบครัวของนายพงษ์พันธ์ได้เช่าที่ดินแปลงนี้ทำการเกษตรมานับ 10 ปี กระทั่ง ผู้เสียชีวิตมาเช่าที่แปลงนี้ทำไร่ข้าวโพดและมันสำปะหลังได้ประมาณ 5-6 เดือน ซึ่งที่ผ่านมา ก็เห็นนายพงษ์พันธ์เข้ามาพูดคุยกับนายโปรยอยู่เป็นระยะ ด้านนายพงษ์ศักดิ์ อายุ 44 ปี พี่ชายของผู้ก่อเหตุ เผยว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ น้องชายของตนได้แวะเวียนเข้ามาพูดคุยกับนายโปรยที่มาเช่าที่ดินทำไร่ข้าวโพดและไร่มันสำปะหลังอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็ดูสนิทสนมและคุ้นเคยกันดี ไม่เคยเห็นว่ามีปากเสียงหรือทะเลาะอะไรกัน ทั้งยังเคยช่วยกันทำไร่ข้าวโพดเมื่อไม่กี่เดือนก่อนด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ยังตกใจ ไม่อยากเชื่อว่าน้องชายจะลงมือฆ่านายโปรย จนถึงตอนนี้ตนก็ยังติดต่อน้องชายไม่ได้ แต่ก็อยากฝากบอกถึงน้องชายให้เข้ามอบตัวกับตำรวจ และพูดความจริงเพื่อต่อสู้คดีไปตามกฎหมาย ไม่อยากให้หลบหนีคดีอยู่แบบนี้
ภาพจากอีจัน
ด้าน น.ส.วิยะดา อายุ 36 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า นายพงษ์พันธ์ และพ่อสนิทกัน และตนก็ไว้ใจไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ ตอนนี้อยากให้ตำรวจเร่งรัดติดตามจับกุมตัวนายพงษ์พันธ์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพราะ ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้ออกหมายจับ นายพงษ์พันธ์ ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.63 แล้ว แต่จนถึงวันนี้ (21 ก.ย.63) ก็ยังไร้วี่แววว่าจะตามจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ น.ส.วิยะดา คาดสาเหตุที่นายพงษ์พันธ์ ลงมือสังหารพ่อของตนว่า น่าจะมาจากปัญหาเรื่องการเช่าที่ดินแปลงที่เกิดเหตุ เนื่องจากที่ดินแปลงดังกล่าว แต่เดิมเป็นที่ดินของบ้านนายเตย แต่ขายให้กับเจ้าของที่คนปัจจุบันไปนานแล้ว กระทั่ง พ่อของตนได้ติดต่อขอเช่าที่ เพื่อทำการเกษตร และจ่ายเงินค่าเช่าให้กับนายเตยไป โดยตกลงกันปากเปล่าว่า จ่ายปีละ 6,000 บาท แต่เพิ่งมารู้ทีหลังว่าที่ดินแปลงดังกล่าวได้เปลี่ยนเจ้าของแล้ว จึงตัดสินใจที่จะไปเช่ากับเจ้าของที่ดินโดยตรง ทำให้นายเตยไม่พอใจ จนลงมือก่อเหตุ
ภาพจากอีจัน
ซึ่งหลังจากลงมือก่อเหตุ พยานเห็นว่า นายพงษ์พันธ์ ได้กลับไปกินข้าวที่บ้านของตัวเองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งทราบข่าวว่าตำรวจขอศาลออกหมายจับ นายพงษ์พันธ์ จึงหลบหนีไปซ่อนตัว และจนถึงตอนนี้ ตำรวจก็ยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ บรรดาญาติๆของตนที่อยู่ใกล้พื้นที่เกิดเหตุ ต่างรู้สึกหวาดกลัว เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย และไม่กล้าที่จะเดินทางมาร่วมงานศพพ่อของตน เพราะมีการข่มขู่ว่าจะทำให้ตายเหมือนกับพ่อของตน และเชื่อว่ายังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ย.63) จะเป็นวัน เผาศพพ่อของตน ตนและครอบครัวก็ได้แต่หวังว่า ทางตำรวจจะเร่งรัดติดตามจับกุมตัวนายพงษ์พันธ์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ ไม่ปล่อยให้พ่อของตนต้องตายฟรี น.ส.วิยะดา ยังกล่าวอีกว่า ใครที่พบเห็น หรือทราบเบาะแสของนายพงษ์พันธ์ ขอให้แจ้งมาที่ตนได้เลยที่เบอร์ 083-3085813 โดยจะมีรางวัล 10,000 บาท สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสจนสามารถจับนายพงษ์พันธ์ได้
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน