เกิดเหตุสุดสลด
วันที่ 5 พฤษภาคม 2566 ตำรวจ สภ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้ง หญิงชรา ล้มดับในดงกล้วย พื้นที่ ต.หว้าทอง อ.ภูเวียง จ.ขอนเเก่น
ตำรวจ พร้อมด้วย กู้ภัยสว่างขอนเเก่นสามัคคีอุทิศ รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
สภาพศพ เป็นหญิงสูงวัย นอนหงาย หน้าผากยุบ มีร่องรอยถูกของมีคมที่ คอ หลัง หลายจุด เสียชีวิตอยู่ภายในสวนกล้วย บริเวณบ้านตนเอง
ตำรวจฟันธง ไม่ใช่การลื่นลม เหตุนี้ เป็นการฆาตกรรม แน่นอน
ตำรวจ ใช้เวลาสอบปากคำพยานแวดล้อม ไม่นาน ก็ได้เบาะแส และข้อมูล ที่ตรงกันหลายปากว่า
ผู้ตาย มีปัญหากับหลานสาวแท้ๆ วัย 14 ปี ทั้งคู่มักมีปากเสียงกันประจำ
ตำรวจจึง นำตัวหลานสาววัย 14 ปี ไปสอบปากคำร่วมกับทีมสหวิชาชีพ สอบไม่นาน ความจริงสุดปวดใจก็ปรากฎ หลานยอมรับ เธอ ร่วมกับ แฟนหนุ่ม วัย 15 ปี ทำร้ายยาย จนตาย
พ.ต.อ.คารม พรมคุณ ผกก. สภ.ภูเวียง เปิดเผยถึงการสอบปากคำว่า
หลานสาวยอมรับว่าทำร้ายยายจริง แต่ไม่ได้ต้องการให้ถึงแก่ความตาย อยากให้แค่พิการพูดไม่ได้ เพื่อไม่ให้มากีดกันความรักของเธอ ที่กำลังคบหากับแฟนหนุ่ม อายุ 15 ปี
ซึ่งกำลังจะดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน แต่ยายไม่ยินยอมและคอยกีดกันมาตลอด
วันเกิดเหตุหลานสาวนัดเจอกับฝ่ายชาย ยายก็มาตามหลานสาวไม่ให้ไปหาฝ่ายชาย
ทำให้ทั้งคู่เกิดความไม่พอใจเข้าไปทำร้ายยาย แต่ยายต่อสู้
ฝ่ายชายได้ใช้มีดฟันแขนยายได้รับบาดเจ็บ แต่ยายก็ยังไม่ยอม
ฝ่ายชายก็ได้ใช้มีดแทงเข้าบริเวณหลัง จนยายเสียหลักล้มลงเสียชีวิต
ตำรวจจึงคุมตัว แฟนหนุ่มวัย 15 ปี มาสอบปากคำ ก่อนจะแจ้งข้อหา
“ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย”
และนำทั้งคู่ส่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น
ทีมข่าวอีจัน ได้คุยกับเพื่อนบ้าน ทุกคนล้วนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ทันทีที่เกิดเหตุ ก็รู้ทันทีว่า ใครเป็นคนลงมือ
เพราะ ผู้ตาย ไม่มีปัญหากับใคร มีเพียงหลานคนเดียวเท่านั้น ที่เป็นปัญหาใหญ่ของเธอในตอนนี้
เพราะหลานสาวคบหากับผู้ชายที่ผู้ตายไม่ปลื้ม เนื่องจากเลื่องลือเรื่องยาเสพติด
ผู้ตายทำทุกอย่างไม่ให้หลานคบกับผู้ชายคนนี้มาโดยตลอด
ยอมแลกชีวิตใครคนหนึ่ง เพื่อให้ตนเองได้รักมาครอบครอง
คุ้มไหม กับชีวิตที่เหลืออยู่ ที่ต้องทนทุกข์ กับความรัก ที่แลกมาด้วยความปวดใจ
จงรักอย่างมีสติ
อีจัน ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยนะคะ
คลิปอีจันแนะนำ
เปิดปาก… แอม ไซยาไนด์