ฉาวผ้าเหลืองอีก! ยายร้องสื่อ หลานบวชเณรภาคฤดูร้อน ถูกพระพี่เลี้ยงอนาจาร

ยายร้องสื่อ! หลานวัย 11 บวชเณรภาคฤดูร้อน ถูกพระพี่เลี้ยงอนาจาร ด้านพระยอมรับทำจริง ก่อนเก็บของหนีจากวัด

ฉาวผ้าเหลือง! พระพี่เลี้ยงอนาจารสามเณร

จากกรณีที่มีผู้ปกครอง ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อเป็นการเตือนภัยกับสังคมว่า “เตือนภัยในวัดก็ไม่ปลอดภัยเด้อ การบวชเรียนภาคฤดูร้อนของเณร พระบอกขอเวลาวันจันทร์จะสึก เราต้องรอใช่ไหม? สึกแล้วก็จะบวชใหม่ ฉันจึงต้องออกมาเตือนภัย เพราะคำพูดหน้าตาเฉยไร้ยางอาย เพราะครั้งนี้ที่มันเกิดเรื่องขึ้นกับหลานไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ก็มีคนเคยโดนพระรูปนี้ทำอนาจาร  ครั้งก่อนๆคนอื่นอาจจะยอมให้อภัย แต่ครั้งนี้เรื่องเกิดขึ้นกับหลาน ฉันไม่ยอม แม่ของหลานก็ยิ่งไม่ยอม ณ ตอนนี้ชาวบ้านก็อยากให้สึกไวๆ ไม่เข้าใจที่ผ่านมาพากันหลับหูหลับตายอมให้อภัยได้ยังไง…คนต่อไปก็โดนทำอนาจารอีกจะปล่อยมันไว้เป็นมารศาสนาทำไม ยังจะยกมือไหว้ก้มลงกราบลงอีกรึไง” พร้อมแนบรูปภาพและคลิปวิดีโอของคณะกรรมการวัด พระสงฆ์ สามเณร เจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านที่กำลังนั่งสอบถามข้อเท็จจริงภายในศาลาการเปรียญของวัด

กระทั่งเมื่อวานนี้(27 พ.ค. 64) ทีมข่าวอีจัน ลงพื้นที่ไปพบกับ นางไหม (นามสมมุติ) อายุ 78 ปี เป็นยายของ ด.ช.ที (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี หลานชาย ชาว ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี โดย นางไหม เล่าว่า หลานชาย เป็นลูกของลูกสาวตนที่ไปทำงานต่างจังหวัด หลังจากโรงเรียนปิดภาคเรียน หลานชายก็จะไปบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ที่วัดใน อ.กุดจับ ไปบวชมาแล้วเป็นปีที่ 2  ซึ่งในปีแรกที่ไปบวชก็ไม่มีเรื่องอะไร เพราะพักอยู่ที่กุฏิกับหลวงตาเจ้าอาวาส มาปีนี้เป็นปีที่ 2

หลานชายก็ได้ไปบวชสามเณรภาคฤดูร้อน และมีสามเณรรุ่นเดียวกัน 2 รูป ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านมาบวชด้วย จึงได้ไปนอนที่กุฏิของ พระทอ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยง คอยสอนหนังสือและบทสวดมนต์ มาจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ นานหลายปีแล้ว ซึ่งเมื่อวันวิสาขบูชา เป็นวันพระตนได้ไปวัดและจะเตรียมทำเรื่องสึก เพราะหลานชายใกล้เปิดเทอมแล้ว เมื่อไปถึงวัดหลานชายของตนก็มาบอกกับตนว่าได้ถูก พระพี่เลี้ยงทำอนาจาร และมีเพื่อนสามเณรที่บวชด้วยกันอีก 2 คน ก็ถูกทำอนาจารเช่นกัน เมื่อตนทราบเรื่องจึงแจ้งเรื่องกับหลวงตาเจ้าอาวาส และโทรศัพท์ไปเล่าให้ลูกสาวฟัง โดยลูกสาวให้ตนไปแจ้งความ

หลังจากตนไปแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เดินทางมาด้วย และได้มีการเรียก พระทอ มาพูดคุยสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว โดยทีแรกพระทอถามว่าทำอะไรผิด ตนจึงบอกไปว่าท่านทำอะไรก็คงจะรู้ตัวเองอยู่ แล้วที่ทำอวัยวะเพศหลานของตนจนเขียวใช่ไหม พระทอตอบกลับว่าเพียงแต่ใช้มือบิดเล่น จับเพื่อทำโทษเท่านั้น ตนจึงถามอีกว่าแล้วสามเณรอีก 2 รูป ท่านทำอะไร เพราะสามเณรได้เล่าเรื่องที่ถูกพระทอเรียกเข้าไปนอนและทำอนาจารให้ตำรวจฟังหมดแล้ว จากนั้นพระทอจึงยอมรับ และขอให้ตนอย่าเอาเรื่อง ซึ่งตนก็บอกว่าต้องสึกอย่างเดียวเท่านั้น

จากนั้นผู้ใหญ่บ้านจึงบอกทางเจ้าอาวาสให้โทรสอบถามเจ้าคณะตำบล ซึ่งทางเจ้าคณะตำบลได้บอกว่าต้องให้ทำการสึก ถ้าไม่สึกวัดของเจ้าอาวาสก็จะเสื่อมเสีย ซึ่งพระทอ ได้ขอว่าวันจันทร์ที่ 31 พ.ค.นี้ จะเก็บของแล้วจะเดินทางไปสึกที่วัดใน จ.บุรีรมย์ แต่ตนเห็นว่าไม่ควรจะปล่อยเรื่องนี้ให้ยืดเยื้อ จึงจะให้ทำการสึกโดยเร็ว แต่พระทอก็ไม่ยอมสึก และยังบอกอีกว่า ถึงสึกแล้วก็บวชใหม่ได้ แล้วตนก็มาทราบว่า ช่วงเช้าวันนี้ พระทอได้เก็บสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวหนีออกจากวัดไปตั้งแต่ช่วงเช้ามืดแล้ว แต่ทางเจ้าอาวาสได้ยึดใบสุทธิเอาไว้ และมอบให้ตำรวจ ตนจึงไม่สบายใจกลัวว่าพระทอ จะไปทำพฤติกรรมแบบนี้กับคนอื่นอีก จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบและดำเนินคดี

ส่วนทางคดี พนักงานสอบสวน สภ.กุดจับ จะได้นัดสหวิชาชีพและผู้ที่เกี่ยวข้อง และเด็กชายที่ถูกกระทำอนาจาร มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนพระทอที่หลบหนีออกจากวัดไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบว่าเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาใน จ.บุรีรัมย์ จริงหรือไม่ แล้วจะติดตามตัวมาสอบปากคำเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป