ตราบาปชั่วชีวิต เมื่อเด็กสาววัย 12 ขวบ ถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืน นานกว่า 2 ปี!
ซ้ำร้าย เด็กหญิงตั้งท้อง แม่ ที่แยกทางไปมารู้เมื่อสายเกินไป
แม่พา เด็กหญิงวัย 14 ปี เข้าร้องขอความช่วยเหลือ จากมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา
พร้อมเล่าเรื่องแสนสลดหัวใจ ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนหน้านี้ตนอยู่กินกับนายเอ้ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน แต่สุดท้ายได้เลิกรากันตั้งแต่ปี 54 เพราะนายเอ้มีพฤติกรรมเสพยาเสพติด และชอบทำร้ายทุบตีตนเป็นประจำ จึงทนไม่ไหว จำใจหนีจากไปหางานทำอยู่กรุงเทพฯ
ต่อมานายเอ้ได้นำลูกสาวทั้ง 2 คน ไปฝากให้ปู่กับย่าที่ จ.บุรีรัมย์ เลี้ยง และกีดกันไม่ให้แม่ลูกได้เจอกันมาตลอด
แม่กับลูกพยายามหาทางติดต่อกัน จนได้เจอกันทางเฟซบุ๊กตอนลูกคนโตอายุได้ 12 ปี
ตอนนั้น คุยกันเพียงสารทุกข์สุกดิบ ลูกยังไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง
คุยกันได้ไม่นานนัก พ่อก็จับได้ว่า แม่ลูก ติดต่อกัน ก็ทุบโทรศัพท์ของลูกทิ้ง และขู่ลูกว่าหากติดต่อแม่อีกจะฆ่าให้ตาย ลูกจึงขาดการติดต่อไปนานหลายเดือน
จนวันที่ 17 ส.ค.66 ป้า ซึ่งเป็นพี่สาวของพ่อเด็ก ได้โทรมาบอกแม่ว่า ลูกสาวซึ่งตอนนี้ อายุ 14 แล้ว ได้ย้ายจากจ.บุรีรัมย์ มาเข้าเรียนชั้น ม.2 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และอาศัยอยู่กับพ่อที่แคมป์คนงานก่อสร้างย่านอ่อนนุช
แล้วครูที่โรงเรียน ได้เรียกให้ป้าไปพบและบอกให้พาหลานไปตรวจที่โรงพยาบาลเพราะท้องโตผิดปกติ
ปรากฎว่าผลตรวจออกมา ด.ญ. ตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน
และความจริงก็เปิดเผย เด็กหญิงโดน พ่อของเธอข่มขืน
ป้าเล่าย้อนว่า พอรู้เรื่อง สงสารหลาน จึงพากลับไปอยู่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อทำแท้ง แต่หมอบอกว่าลูกท้อง 7 เดือน ไม่สามารถทำแท้งได้
หลังแม่รู้เรื่องก็รีบไปรับลูกสาว ไปฝากครรภ์ และมาอยู่ด้วยกัน จนลูกสาวคลอดลูกเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา และรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความ และมาร้องมูลนิธิปวีณา เพื่อเอาผิดกับพ่อ ที่ทำร้าย ทำลายชีวิตลูกสาวของตัวเองได้ลงคอ
โดยวันนี้ (17 ตุลาคม 2566) มูลนิธิปวีณาหงสกุล ได้พาแม่ของเด็กหญิง มาติดตามคดี
ส่วนตัวของเด็กหญิง อยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณา ซึ่งอยู่ในภาวะเครียด
ด้าน พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก. สน.ประเวศ กล่าวว่า ในทางคดีนั้น ตัวเด็กยืนยันความผิดของผู้ต้องหา ที่เป็นพ่อแท้ๆ โดยเมื่อเช้าที่ผ่านมา ได้ไปยื่นขอหมายจับ และศาลอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุแล้ว และพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไว้แล้ว โดยตั้งข้อหาหนัก ข่มขืนกระทำชำเรา เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี และเป็นผู้สืบสันดาน
เบื้องต้นยังให้การวกไปวนมา ไม่ยอมรับว่าลูกในท้องเป็นลูกตัวเอง แต่ยอมรับในข้อหาที่ตำรวจแจ้ง พร้อมบอกว่า
ที่ผ่านมา เคยเล่นกับลูก ในเชิงชู้สาวจริง แต่ไม่เคยสอดใส่อวัยวะเพศ
ในส่วนของการเยียวยา ทางมูลนิธิปวีณาฯ จะประสานกระทรวงยุติธรรมให้ผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยา และจะประสานหาโรงเรียนให้เด็กได้เข้าเรียน เพราะน้องอยากกลับไปเรียน ก็จะหาทางให้กลับไปเรียนให้ได้
รวมทั้งจะประสาน พม. กทม. เข้าไปเยียวยาด้านจิตใจ และเงินช่วยเหลือ ตามหลักของกระทรวงยุติธรรมต่อไป
เป็นกำลังใจให้น้องนะคะ ขอให้จิตใจหนูเข้มแข็งและยืนหยัดสู้เพื่อตัวเอง อย่ายอมให้ เหตุการณ์ร้ายใดๆมาทำร้ายตัวหนูได้นะ
คลิปอีจันแนะนำ
คลิปโซเชียล กรรมตามทัน! หนุ่มห้าว ขับมอเตอร์ไซค์ขวางรถพยาบาล