จากเหตุการณ์ ที่นักเรียน ชั้น ม.3 ใช้มีดฟันคอและแขนเพื่อน ในห้องเรียนจนอาการสาหัส
ความในใจ ม.3 ฟันคอเพื่อน ทำไปเพราะโดนบูลลี่เรื่องความจนล่าสุดวันนี้ (8 ก.ย. 65) เจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรม จ.บุรีรัมย์ ได้เดินทางไปที่บ้านของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ ที่ ต.หูทำนบ อ.ปะคำ เพื่อแจ้งสิทธิหรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม กรณีการขอรับการช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมกรณีตกเป็นผู้เสียหายหรือถูกกระทำในคดีอาญา พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และปลัดอำเภอปะคำ เพื่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการหาแนวทางการแก้ไข และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นถึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยเฉพาะการที่เด็กพกอาวุธไปก่อเหตุถึงในห้องเรียน รวมถึงกรณีที่ผู้ก่อเหตุและผู้บาดเจ็บเป็นเยาวชนอยู่ทั้งคู่ ก็ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลสภาพจิตใจของเด็กทั้ง สองฝ่ายด้วย ส่วนเรื่องคดีก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม
ทางด้านของ น.ส.ตุ๊กตา ป้าของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยกับทีมข่าวของเราว่า กรณีที่สื่อหลายสำนักนำเสนอข่าวว่าหลานไปบูลลี่เพื่อนที่ก่อเหตุ ตนก็อยากจะถามว่า เข้าคบกันมาตั้งแต่อนุบาล จนถึง ม.3 ถ้าโดนเพื่อนบูลลี่จริง ทำไมถึงไม่เลิกคบไป แล้ววันก่อนเกิดเหตุก็ยังมาเล่นกันที่บ้านหลาน ในข่าวบอกบูลลี่ติดกัน 3 วัน ก็ไม่เป็นความจริง เพราะหลานเพิ่งกลับมาจากพัทยาเมื่อวันพุธของสัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วน้องไปโรงเรียนช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดีกับวันศุกร์ช่วงเช้า ก่อนจะถูกเพื่อนฟัน แล้วมาบอกว่าบูลลี่ 3 วันซ้อนมันเป็นไปไม่ได้ ก็อยากให้เห็นใจสภาพจิตใจของครอบครัว และหลานด้วย เพราะถูกกระทำเจ็บทั้งร่างกาย ยังมาถูกสังคมต่อว่าให้กระทบสภาพจิตใจอีก
ขณะเดียวกัน น.ส.วรรนภา (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี แม่ของน้องผู้ก่อเหตุ ก็ได้เปิดเผยว่า จากการสอบถามจากลูกชาย ก็บอกว่าถูกเพื่อนล้อเลียน และบูลลี่เรื่องฐานะยากจน และหาว่าพ่อแม่ไม่ดูแล แต่ลูกชายไม่ตอบโต้อะไร เพราะปกติเป็นคนไม่ค่อยพูดเก็บเอาไว้ตลอด กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 2 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา ก่อเกิดเหตุ ลูกชายโทรมาหาตนที่อยู่ต่างจังหวัด แล้วร้องไห้ บอกว่าเหนื่อย ทนไม่ไหวที่ถูกเพื่อนบูลลี่ ตนก็ได้แต่ปลอบใจลูก ว่าเขาอยากจะพูดอะไรก็ปล่อยเขาไปไม่ต้องไปคิดมาก แต่เพื่อนก็ไม่ยอมหยุด ยังจับกลุ่มล้อเลียนกันต่อ ทำให้ลูกชายเกิดความเก็บกดจนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ตนเองก็รู้สึกเสียใจ แต่ตอนนี้เป็นห่วงเรื่องสภาพจิตใจของลูกชายมากกว่า ในส่วนของเรื่องคดีก็ว่ากันไปตามกระบวนการ