ซาอุดิอาระเบีย ไฟเขียว! นำเข้าสินค้า ไก่ จากไทยแล้ว

15 มี.ค. 65 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงการที่ประเทศ ซาอุดิอาระเบีย ได้พิจารณานำเข้า ไก่ จากประเทศไทยว่า เรื่องนี้เป็นข่าวดีอย่างยิ่ง ตนใช้ความพยายามมาปีหนึ่งเต็มๆ ที่สั่งการให้ทูตพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กับ กรมการค้าต่างประเทศ ได้เร่งเจรจากับ ซาอุดิอาระเบีย ในการหาลู่ทางส่งออก ไก่แช่เย็น ไก่แช่แข็ง และไก่แปรรูป ไปยังซาอุดิอาระเบีย เพราะถือว่าเป็นตลาดใหญ่ตลาดหนึ่ง จึงได้เร่งเจรจาและมีความคืบหน้ามาโดยต่อเนื่อง

จนกระทั่ง ซาอุดิอาระเบีย เดินทางมาตรวจโรงงานผลิตในประเทศไทยแล้ว 11 โรง แต่ทั้งหมดยังติดขัดรายละเอียดที่จะต้องคุยกันต่อไป และหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางไปซาอุดิอาระเบีย ก็ถือว่ามีส่วนสำคัญด้วย

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา ทูตพาณิชย์ของไทย พร้อมด้วยอุปทูตไทยประจำ ซาอุดิอาระเบีย ก็เดินทางไปพบกับ อย. ของซาอุดิอาระเบีย อีกครั้ง และได้ข้อสรุปร่วมกันว่า…

ซาอุดิอาระเบีย ยินดีเปิดไฟเขียวให้ไก่จากประเทศไทย สามารถส่งออกไปซาอุดิอาระเบียได้ และในภาพรวมทางการก็จะมีผลทันทีตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. เป็นต้นไป ถือว่าเรื่องนี้เป็นข่าวดี และขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นขั้นตอนกระบวนการ ทั้งเรื่องฮาลาล และอื่นๆ ต่อไป แต่ตอนนี้อย่างน้อย 11 โรงงานที่ได้รับการตรวจรับรองไปก่อนหน้านี้สามารถส่งออกไก่ไปซาอุดิอาระเบียได้

รมว.พาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับยอดส่งออกไก่ของไทยไปต่างประเทศปี 64 ส่งออก ไก่ ประกอบด้วย ไก่แปรรูป ไก่สด แช่เย็นและแช่แข็ง จำนวน 912,900 ตัน มูลค่า 102,529.49 ล้านบาท

ดังนั้นตลาดซาอุดิอาระเบียก็จะเป็นตลาด ที่เพิ่มการนำเงินเข้าประเทศอีกตลาดให้กับการส่งออกของเรา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะส่งผลกระทบการผลิตในประเทศหรือไม่ นายจุรินทร์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ทำเป็นเงื่อนไขแล้วว่าให้ กระทรวงพาณิชย์ เชิญผู้ประกอบการและทั้งหมดมาพูดคุยกันว่า การส่งออกเป็นเรื่องดี นำเงินเข้าประเทศ แต่ต้องไม่กระทบปริมาณการบริโภคของคนไทย โดยได้ทำเป็นเงื่อนไขไว้แล้ว ส่วนเรื่องราคาก็ให้เป็นไปตามราคาที่ กระทรวงพาณิชย์ ได้กำกับไว้ ซึ่งจะทำให้ทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์ ทั้งผู้บริโภค ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก และประเทศไทยที่จะมีรายได้จากการส่งออกมากขึ้น