BBL คาดไทยโดนสหรัฐฯ เก็บภาษี 25% ภาคธุรกิจรับไหว

เหลือเวลาไม่มาก! “ดร.กอบศักดิ์” คาดไทยโดน “ทรัมป์” รีดภาษี 25% มองเป็นอัตราที่ “ภาคธุรกิจ” รับไหว-การส่งออกแข่งขันได้ แนะ “รัฐบาล” รีบเจรจาก่อนเส้นตาย 1 ส.ค.นี้

วันนี้ (26 ก.ค.68) ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่และเลขานุการบริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และประธานสภาธุรกิจทุนไทย (FETCO) เปิดเผยถึงกรณีภาษีสหรัฐฯ ว่า ยอมรับว่ามีความกังวล เพราะเหลือเวลาประมาณ 6 วัน จะถึงเดดไลน์ในวันที่ 1 ส.ค. 2568

ทั้งนี้ ในกรณีเลวร้ายที่สุดหากไทยโดนเก็บภาษีในอัตราที่ 36% จะส่งผลกระทบหนักโดยเฉพาะภาคการส่งออก ซึ่งไทยพึ่งพาการส่งออกถึง 60% ไทยจะไม่มีรายได้ในอนาคตและจะส่งผลกระทบระยะยาว อีกทั้งคู่แข่งในภูมิภาค อาทิ อินโดนิเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น สามารถปิดดีลอัตราภาษีที่ 15-20% จะส่งผลทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า

“บริษัทหลายแห่งที่กำลังมองหาประเทศที่ลงทุน ซึ่งมีเวียดนาม อินโดนิเซีย ไทย หากไทยโดนเก็บภาษี สหรัฐฯ ในอัตราที่ 36% นักลงทุนคงไม่มองประเทศไทยเพราะมีภาษีที่แตกต่างกว่า 16% “ดร.กอบศักดิ์กล่าว

ดร.กอบศักดิ์ กล่าวว่า หากไทยถูกเก็บภาษีในอัตรา 25% มองว่าเอกชนสามารถยอมรับได้ แม้จะสูงกว่าประเทศอื่นๆ 5% แต่เอกชนสามารถปรับตัวได้ และสามารถปกป้องการเกษตรได้ แม้จะส่งผลกระทบต่ออุตสหกรรมการเกษตรบางส่วน แต่ส่งออกยังไปต่อได้ในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม มาตรการงบประมาณที่รัฐเตรียมไว้รองรับผลกระทบภาษีสหรัฐฯ เพื่อเยียวผู้ผู้ประกอบการส่งออก วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท มองว่าเพียงพอ ส่วนมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟต์โลนเพื่อรองรับผลกระทบ วงเงินรวม 200,000 ล้านบาท เพื่อเยียวยาภาคการเกษตรคาดว่าไม่เพียงพอ ดังนั้นรัฐบาลจะต้องหาทางเลือกที่ดีที่สุด

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ครึ่งปีแรก (ม.ค. – พ.ค.) มีตัวเลขการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ส่งคำขอเข้ามูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท เทียบเท่ามูลค่าคำขอของทั้งปี 2567 ทั้งปี แต่ยังไม่ตัดสินใจลงทุน โดยการตัดสินใจลงทุนตอนนี้ขึ้นอยู่กับภาษีสหรัฐฯ หากไทยได้ภาษีไม่ต่างจากประเทศในภูมิภาคมากนักลงทุนอาจจะลงทุนที่ไทยตามคำขอ BOI