
พิชัยเผยหลังเจรจา USTR บรรยากาศราบรื่น คาดไทยถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีเทียบเท่าภูมิภาค อยู่ที่ระดับแข่งขันได้ไม่เกิน 20% พร้อมรอลุ้นประกาศก่อนเส้นตาย 1 ส.ค. นี้ ยืนยันไทยพร้อมเปิดตลาดแบบรุก เพิ่มส่งออก-แข่งขันได้
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการหารือกับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ว่า ผลการเจรจาครั้งล่าสุด (17 ก.ค. 68) ใช้เวลา 30 นาทีเต็ม โดยบรรยากาศการเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น ถือเป็นการพูดคุยที่ลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น แม้ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการจะมีการหารือกันมาโดยตลอด
“การเจรจาครั้งนี้ฝ่ายไทยได้สรุปข้อเสนอชัดเจน และสื่อสารทิศทางในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษีสินค้าการนำเข้าสินค้า การลงทุน หรือแม้แต่การเพิ่มประสิทธิภาพของภาคราชการ ซึ่งข้อเสนอของไทยยังคงยึดหลักการเดิม โดยเฉพาะเรื่องการเปิดตลาดเราไม่ได้เปิดเพื่อลดการขาดดุลการค้าอย่างเดียว แต่ต้องเดินเกมรุก สร้างเศรษฐกิจให้ใหญ่ขึ้น ถ้าจะซื้อเพิ่ม ก็ต้องขายเพิ่มให้ได้ทั่วโลก”
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะซัพพลายเชนและ SME ไทยยังคงยืนบนหลักการเดิมที่จะต้องดูแลสินค้าเหล่านี้ก่อน เพื่อประเมินจุดอ่อนและเร่งสร้างประสิทธิภาพให้สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก ทั้งในแง่ของต้นทุน คุณภาพ และความสามารถในการผลิต จุดที่ดีที่สุดคือการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ถ้าทำได้ต่อให้แข่งกับใครที่ไหนก็ได้ทั่วโลก และข้อเสนอนี้คือการเปิดกว้างแบบวิน-วิน
ส่วนในประเด็นที่สหรัฐต้องการให้ไทยเปิดตลาดสินค้าเฉพาะบางรายการนั้น เป็นการเข้าเป้าที่สมเหตุสมผล ไม่ใช่เรื่องที่ไทยต้องฝืนใจ เพราะไทยก็มีสิทธิ์เลือกที่จะดูแลสินค้าบางประเภทที่อ่อนไหวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสินค้าการเกษตรบางชนิด
นายพิชัย กล่าวว่า สำหรับประเด็นเงื่อนไขวัตถุดิบนำเข้าเพื่อมาผลิตในประเทศ(Transshipment) เป็นเรื่องที่ยังต้องหารือเพิ่มเติม และอาจมีหลายรูปแบบ เช่นเดียวกับกรณีของเวียดนาม ที่ใช้อัตราภาษีหลายอัตราในสินค้าแต่ละกลุ่ม
สำหรับสินค้าอ่อนไหวอย่างเช่น หมู ที่หลายฝ่ายกังวลนั้น นายพิชัยย้ำว่า ยังไม่มีการลงรายละเอียดใด ๆ และต้องรอการเจรจาเพิ่มเติมจากฝ่ายสหรัฐ
“ไทยได้ส่งข้อเสนออย่างเป็นทางการให้สหรัฐแล้วและคาดว่าจะได้คำตอบจากผู้บริหารระดับสูงของสหรัฐในเร็ววันหรือเผลอ ๆ ก็คือวันนี้เลยก็ได้ครับ โดยฝ่ายสหรัฐให้ความเห็นกลับมาว่า very substantial improvement ถึงการประกาศอัตราภาษีใหม่ จากเดิมที่กำหนด 36% ก่อนขีดเส้นตาย 1 ส.ค. 2568 นี้” นายพิชัย กล่าว