เมื่อโลกแห่ง “การท่องเที่ยว” เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เพื่อสอดรับกับปัจจุบันที่ “เทคโนโลยี” เข้ามามีบทบาทจนกลายเป็น “โลกยุคดิจิทัล” ผูกติดกับพฤติกรรมของมนุษย์ทั่วโลก ส่งผลให้โครงข่ายการสื่อสารถือเป็น “หัวใจสำคัญ” ที่นอกจากจะทำให้ผู้คนติดต่อระหว่างกันอย่างไร้พรมแดน ยังถือเป็น “เครื่องมือ” พื้นฐานที่สนับสนุนเศรษฐกิจเติบโตด้วยเช่นกัน
เรื่องนี้ “เอไอเอส” บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เห็นถึงความสำคัญ จึงเดินหน้ายกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทั่วประเทศ ภายใต้ยุทธศาสตร์ AI for Sustainable Nation โดยนำเทคโนโลยี AI มาบริหารจัดการระบบเครือข่าย ความปลอดภัย บริการลูกค้า และการจัดการภายในองค์กร เพื่อรองรับการใช้งานที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2565
ล่าสุด “เอไอเอส” มุ่งพัฒนาและขยายเครือข่าย 5G ให้ครอบคลุมพื้นที่ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวในภาคตะวันออก โดยเฉพาะ “ชลบุรี” จังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ด้วยรายได้กว่า 3.6 แสนล้านบาทต่อปี และเป็นศูนย์กลางการจัด Big Event ที่สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 15-20% ให้กับเศรษฐกิจ
AIS วางโครงข่ายครอบคลุม 95% ทั่วประเทศ
สะท้อนจาก “วสิษฐ์ วัฒนศัพท์” หัวหน้าหน่วยธุรกิจงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ AIS เปิดเผยว่า AIS เดินหน้าขยายโครงข่าย 5G ที่ครอบคลุมแล้วกว่า 95% ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในภาคตะวันออก ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางกิจกรรมระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลดนตรี มาราธอน หรืออีเวนต์ขนาดใหญ่
โดย AIS ได้ออกแบบเครือข่ายให้รองรับทั้งผู้ร่วมงานทั่วไป ไปจนถึงระบบสนับสนุนหลังบ้าน เช่น Wi-Fi, e-Wristband, ระบบรักษาความปลอดภัย และการเชื่อมต่อหน่วยฉุกเฉิน เพื่ออำนวยความสะดวกระหว่างการจัดงานให้ผู้เข้าร่วมงานรับประสบการณ์ที่ดีที่สุด
“การพัฒนาเครือข่าย AI ไม่ใช่เรื่องที่ AIS จะทำเพียงลำพัง เพราะถ้าจะให้เกิดมาตรฐานกลางที่ใช้ได้ทั้งอุตสาหกรรม เราต้องเปิดให้ผู้อื่นนำไปต่อยอดได้ ช่วยกันลดต้นทุน และยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศให้เดินหน้าไปพร้อมกัน” นายวสิษฐ์ กล่าว
การันตีด้วย AIS คว้ารางวัลระดับโลก 5 รายการจากเวทีนานาชาติที่เดนมาร์กในหมวด Business Impact และ Innovative Agent Framework และคว้าเพิ่มอีก 6 รางวัลในช่วงปลายเดือนมิ.ย.68 รวม 11 รางวัลในปีนี้ สะท้อนศักยภาพของเทคโนโลยีที่นำไปใช้จริงได้ในเชิงเศรษฐกิจ
ปั้น “ชลบุรี” แหล่งเที่ยวระดับท็อปโลก
ขณะที่ “สมภพ กิตติวิรุฬห์วัฒน” หัวหน้างานปฏิบัติการภูมิภาคภาคตะวันออก AIS กล่าวอีกว่า จังหวัดชลบุรีกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ จากรายได้การท่องเที่ยวกว่า 316,811 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากภูเก็ต และมีกิจกรรมขนาดใหญ่ที่ดึงดูดผู้เข้าร่วมรวมกว่า 485,000 คนต่อปี โดยกิจกรรมขนาดใหญ่ (Big Event & Festival) คิดเป็น 15-20% ของรายได้ท่องเที่ยวทั้งหมดของจังหวัด AIS จึงมุ่งสนับสนุนโครงข่ายให้พร้อมรับกิจกรรมตลอดทั้งปี
“ภารกิจของ AIS ไม่ได้หยุดแค่การปล่อยสัญญาณมือถือ แต่คือการทำให้ระบบของงานอีเวนต์ดำเนินไปได้อย่างไร้รอยต่อ เราจัดทีมลงพื้นที่ล่วงหน้า ส่งรถโมบาย สนับสนุนโครงข่ายเสริม พร้อมวางแผนจราจรและที่จอดรถร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น พร้อมวางระบบเชิงลึกในทุกจุดสำคัญของงานทั้งหมด” นายสมภพ กล่าว
“ตัน ภาสกรนที” ปักแลนด์มาร์ค “วัน ชีจรรย์”
อีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในภาคตะวันออกคือโครงการ “ONE CHICHAN” ของ นายตัน ภาสกรนที ผู้บริหารอิชิตัน กรุ๊ป ที่ทุ่มงบกว่า 3,000 ล้านบาท พัฒนาแลนด์มาร์คใหม่บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ในจังหวัดชลบุรี เพื่อรองรับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ระดับโลก โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจาก AIS ในการติดตั้งเครือข่าย 5G ครอบคลุมพื้นที่กว่า 240,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับงานขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ONE CHICHAN ออกแบบให้เป็นพื้นที่สุขภาพและสร้างสรรค์ มีระบบดิจิทัลรองรับเต็มรูปแบบ พร้อมโซนกิจกรรม เช่น Ice Bath, โยคะ, สปา, เดินป่า และพูลวิลล่ารักษ์ธรรมชาติ โดยตั้งเป้ารองรับผู้ใช้งานวันละ 2,000–3,000 คนในเฟสแรกที่เปิดช่วงปลายปี 2568 ก่อนขยายต่อเนื่องจนถึงปี 2570
แม้ “นายตัน” จะออกปากว่าเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่มั่นใจว่า โครงการ ONE CHICHAN จะตอบรับเทรนด์โลกที่หันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ และการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ซึ่งจะกลายเป็นจุดขายระยะยาว และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน
“โครงการนี้ไม่ใช่แค่การสร้างอสังหาริมทรัพย์ แต่คือการสร้างฝัน สร้างประสบการณ์ และส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ ในขณะเดียวกันก็เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะยาว“ผู้บริหารใหญ่กล่าวทิ้งท้าย