พาณิชย์ ลุย! แก้วิกฤติราคาปาล์มตกต่ำ เคาะขั้นต่ำ 5 บาท/กก.

พาณิชย์ ลุย! แก้วิกฤติราคาปาล์มตกต่ำ เคาะขั้นต่ำ 5 บาท/กก. เร่งดันส่งออก ย้ำเกษตรกรต้องตัดปาล์มสุก ลดปัญหาการกระจุกตัวหน้าโรงงาน

(เมื่อวันที่ 28 เม.ย.68) นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การรับซื้อและแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้แทนเกษตรกร ดร.วันสาด ศรีสุวรรณ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัด นายไกรวุฒิ ศิริอนันตภัทร์ สมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม และคณะ จ.สุราษฎร์ธานี กระบี่ และตรัง รวม 12 ราย

เผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ มีความเป็นห่วงเกษตรกรชาวสวนปาล์มในพื้นที่ภาคใต้ จึงสั่งการให้กรมการค้าภายในลงพื้นที่แก้ปัญหาราคาปาล์ม ซึ่งปัจจุบันประสบปัญหาราคารับซื้อลดลงจากช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดเยอะขึ้น ประกอบกับเกษตรกรเร่งตัดปาล์มน้ำมัน ซึ่งเกิดการกระจุกตัวหน้าโรงงานสกัดฯ โดยปัญหาดังกล่าวในที่ประชุม ได้มี 4 มาตรการ ดังนี้

4 มาตรการ แก้ปัญหาราคารับซื้อราคาตก

1.การบริหารการจัดคิว โรงงานสกัดฯ จัดช่องทางพิเศษสำหรับเกษตรกรรายย่อยเพื่อนำผลปาล์มมาจำหน่ายได้โดยตรงทุกวัน ในส่วนของลานเทต้องมีการบริหารจัดการปริมาณให้สอดคล้องกับกำลังการผลิตของโรงสกัดฯ ในแต่ละวัน เช่น กำหนดจำนวนการรับซื้อต่อลานต่อวัน โดยต้องรายงานปริมาณที่จะเข้าโรงสกัดในแต่ละวันให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ทราบ

2.การรับซื้อปาล์มน้ำมัน กรมการค้าภายในขอความร่วมมือโรงสกัดน้ำมันปาล์มให้รับซื้อผลปาล์มให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยเริ่มรับซื้อตั้งแต่ 2 พฤษภาคม 2568  ในระยะเวลา 2 เดือน (พ.ค.-มิ.ย.68) ในราคา 5 บาทต่อกิโลกรัม (ที่ 18%)  โดยประกาศราคาทุก 10 วัน ทั้งนี้จะพิจารณาสถานการณ์รอบด้านประกอบการกำหนดราคารับซื้อด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรไม่ต้องเร่งตัดปาล์มที่ยังไม่สุก โดยให้มีคณะทำงานติดตามการรับซื้อ โดยประชุมติดตามสถานการณ์และราคาร่วมกับจังหวัดทุก ๆ 7 วัน ร่วมกับโรงสกัด เพื่อกำกับ ติดตาม และปรับราคาให้เหมาะสมกับช่วงเวลา

3.การสื่อสารประชาสัมพันธ์โดยการรับซื้อตามเงื่อนไขต่างๆ ขอให้ผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่และผู้ประกอบการสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้กับเกษตรกรรับทราบทุกขั้นตอน โดยสร้างความเชื่อมั่นและชี้แจงให้เกษตรกรได้รับทราบข้อมูลที่ตรงกัน เพื่อให้เกษตรกรวางแผนการตัดปาล์ม โดยชะลอไม่ให้เร่งการตัดปาล์มไม่สุกมาจำหน่าย จะส่งผลให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นและเกษตรกรจะได้รับราคาที่สูงขึ้น

4. ใช้มาตรการติดตามคุมเข้มการขนย้ายและกำกับการรับซื้อโดยบังคับใช้กฎหมายของกรมการค้าภายใน โดยร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายผลปาล์มน้ำมันในพื้นที่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ และตรัง

ที่ผ่านมาในระหว่างวันที่ 22–25 เมษายน 2568 มีการกำกับดูแลให้การซื้อขายผลปาล์ม โดยเฉพาะผลปาล์มลูกร่วง เป็นไปอย่างถูกต้อง เป็นธรรม และป้องกันการเอาเปรียบเกษตรกร โดยผลตรวจสอบลานเทรับซื้อผลปาล์ม 20 ราย และโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม 2 ราย พบลานเทในจังหวัดสุราษฎร์ธานี 1 ราย กระทำผิด ไม่แจ้งปริมาณสถานที่เก็บผลปาล์มตามที่กฎหมายกำหนด จึงได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ที่ผ่านมา กรมการค้าภายในได้ดำเนินคดีกับลานเทที่ทำผลปาล์มร่วงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ แล้ว 6 คดี โดยศาลมีคำพิพากษาไปแล้ว 2 คดี ให้จำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท และให้รอลงอาญา ขณะที่อีก 4 คดีอยู่ระหว่างกระบวนการทางกฎหมาย

นอกจากนี้ นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ จะเร่งผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์เพื่อลดผลผลิตส่วนเกินและช่วยรักษาเสถียรภาพราคาผลปาล์ม และการผลักดันการใช้พลังงานทดแทน โดยการใช้ B7 ซึ่งจะมีการนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาโดยด่วนต่อไป