กรณี ‘กระทรวงมหาดไทย’ ปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 ส.ค.66 ซึ่งสาระหลักเพิ่มเติม คือ เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ตามกฏหมายว่าด้วยผู้สูงอายุ
ดังนั้น จะต้องมีการออกระเบียบกำหนดรายละเอียดจากนี้อีกโดยคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ซึ่งผู้สูงอายุที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพอยู่ก่อนวันที่ระเบียบใช้บังคับ จะยังมีสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เปิดเงื่อนไข รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่ ไม่จนจริงไม่ได้เงินด้าน นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า การจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติกำหนดเกณฑ์ ขณะนี้ 1.ทุกคนที่ได้รับเบี้ยยังชีพเหมือนเดิมทุกประการ 100% ไม่มีใครตกหล่น 2.ต้องรอคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ 3.เป็นแนวทางเลือก ตามมารยาทแล้วอยู่ที่รัฐบาลใหม่ว่าให้ทำอย่างไร และ 4.ความกังวลว่าเวลาให้ต้องคำนึงถึงกลุ่มอื่นๆ ของสังคมด้วย ซึ่งมีเด็ก 21 ล้านคน คนพิการ 3 ล้านคน ผู้สูงอายุ 11 ล้านคน
นายจุติ ยังระบุว่า ผู้สูงอายุที่แสดงสิทธิ 11 ล้านคน รับอยู่ 89,000 ล้านบาท มีคนที่จนจริงเพียง 4 ล้านคน ต้องถามว่า คนที่เป็นรัฐบาลมีงบประมาณที่จำกัด จะเอาเงินไปช่วยคนที่จนที่สุดของประเทศก่อนหรือไม่ ซึ่งหากรัฐบาลใหม่บอกว่าพร้อมที่จะให้เงินเดือนละ 3,000 บาท ก็ต้องไปเก็บภาษีมาให้ได้ ปีละ 720,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันนี้กระทรวง พม. ทั้งกระทรวงได้รับงบประมาณอยู่ 8,000 ล้านบาท เพราะฉะนั้นต้องไปหางบประมาณมาอีก 9 เท่า
นายจุติ ยืนยันว่าไม่ได้วางกรอบหรือเงื่อนไขระยะเวลา ให้คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติเคราะห์หลักเกณฑ์ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เป็นคนเลือกว่าจะให้อย่างไร
พร้อมย้ำว่า ตอนนี้ยังจ่ายเงินปกติไม่ได้มีปัญหาอะไร 100% รับเหมือนเดิมทุกประการ ไม่มีใครตกหล่นแม้แต่คนเดียว เพราะมีบทเฉพาะกาลอยู่ ส่วนคาดว่า จะสามารถออกหลักเกณฑ์ฯ ได้ช่วงเวลาใด อยู่ที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ จะตัดสินและส่งให้รัฐบาลใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
รบ.ยันไม่ได้ลักไก่! ปรับเกณฑ์เบี้ยสูงอายุ เหตุปี 67 งบแตะ 9 หมื่นล้านส่วนที่ฝ่ายการเมืองออกมาท้วงติง อย่าง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความเห็นว่า เป็นการลักไก่ ช่วงรัฐบาลรักษาการนั้น นายจุติ กล่าวว่า วาทะกรรมก็พูดได้ แต่ว่าเราอยู่ที่สามัญสำนึก จิตสำนึก และทำให้คนส่วนใหญ่เถอะ ขอไม่ทะเลาะการเมือง อยากฝากทุกคนใครจะทำอะไรก็ได้ ความสะใจ ไม่ได้ให้อะไรใครซักคนเดียว ซึ่งการเลือกตั้งจบไปแล้วตั้งสองเดือนให้คนไทยรักกันดีกว่า ขอร้อง
เมื่อถามว่า มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า ตอนหาเสียงมีนโยบายจะเพิ่ม เงินผู้สูงอายุแต่พอเลือกตั้งเสร็จ จะมาลดเบี้ย นายจุติ ชี้แจงว่า เพราะได้ข้อมูลผิดไงก่อนจะย้ำว่า ทุกคนที่ได้รับก็ยังคงได้รับเหมือนเดิม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
‘อนุพงษ์’ ยืนยันแค่จัดระเบียบจ่าย ‘เบี้ยคนแก่’ ยังไม่ตัดสิทธิใครตอนนี้