ไตรมาสแรกปี 66 ต่างชาติหอบ 3.3 หมื่นล้านบาท ลงทุนไทย

กระทรวงพาณิชย์ เผย ไตรมาสแรกปี 66 ต่างชาติหอบเงินลงทุนไทยแล้ว 3.3 หมื่นล้านบาท ‘ญี่ปุ่น’ ยังเบอร์หนึ่ง

ตั้งแต่ไทยเปิดประเทศ และคลายล็อกมาตรการโควิด-19 อย่างเป็นทางการ ภาคการท่องเที่ยว การส่งออก ที่เป็นรายได้หลักก็กลับมาเฟื่องฟู คักคึกขึ้นอีกครั้ง

โดยวันนี้ (21 เม.ย.66) นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เผยว่า ไตรมาสแรก 2566 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จำนวน 174 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 56 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 118 ราย เม็ดเงินลงทุน 33,048 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 1,932 คน 

โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 46 ราย สัดส่วน 26% เงินลงทุน 12,172 ล้านบาท 2.สิงคโปร์ 30 ราย สัดส่วน 17% เงินลงทุน 4,507 ล้านบาท 3.สหรัฐฯ 25 ราย สัดส่วน 14% เงินลงทุน 1,687 ล้านบาท 4.จีน 10 ราย สัดส่วน 6% เงินลงทุน 10,987 ล้านบาท และ 5.สมาพันธรัฐสวิส 9 ราย สัดส่วน 5% เงินลงทุน 1,677 ล้านบาท รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย

“เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 พบว่า มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจ ในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 28 ราย คิดเป็น 19% แง่มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น 6,664 ล้านบาท คิดเป็น 25% และจ้างงานคนไทยเพิ่มขึ้น 246 ราย คิดเป็น 15 % โดยจำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนสูงสุด คือ ญี่ปุ่น” นายทศพล กล่าว

ทั้งนี้ นายทศพล กล่าวว่า ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตในไตรมาสแรก ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อาทิ บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย บริการออกแบบ จัดซื้อ จัดหา ติดตั้ง ปรับปรุง พัฒนา ทดลองระบบ เชื่อมระบบ และการเปิดใช้งาน 

ตลอดจนการบริหารจัดการ สำหรับโครงการรถไฟฟ้าบริการก่อสร้าง รวมทั้ง ติดตั้งและทดสอบเกี่ยวกับการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีควบคุมก๊าซธรรมชาติและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับโครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก บริการทางวิศวกรรมด้านการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจวิศวกรรมยานยนต์ บริการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อให้บริการดิจิทัลซึ่งเป็นการพัฒนาปรับปรุงแพลตฟอร์มเพื่อให้บริการแพลตฟอร์มกลาง บริการเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งให้บริการแก่กิจการของวิสาหกิจในเครือในต่างประเทศ

สำหรับ การลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ 3 เดือรแรกปีนี้ มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 31 ราย คิดเป็น 18% ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด โดยมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 3,264 ล้านบาท คิดเป็น10% ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 13 ราย ลงทุน 1,826 ล้านบาท จีน 5 ราย ลงทุน 529 ล้านบาท ไต้หวัน 3 ราย ลงทุน 37 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ อีก 10 ราย ลงทุน 872 ล้านบาท 

ซึ่งธุรกิจที่ลงทุน อาทิ บริการทางวิศวกรรมด้านการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจวิศวกรรมยานยนต์ บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การออกแบบ และทดลองการใช้งานเครื่องอัดอากาศ และดำเนินการวิเคราะห์ทางวิศวกรรม เป็นต้น บริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนโลหะ และชิ้นส่วนพลาสติก บริการรับจ้างผลิตถุงบรรจุภัณฑ์พลาสติก พาเลทพลาสติก ฟิล์มพลาสติก และบรรจุภัณฑ์พลาสติกอื่นๆ และการค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นการจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น เพื่อค้าส่งในประเทศ เป็นต้น

เฉพาะเดือนมี.ค.66 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจในประเทศไทย 61 ราย เม็ดเงินลงทุน 6,292 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 281 คน ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากญี่ปุ่น สหรัฐ และสิงคโปร์ สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่ บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย บริการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพและปริมาณของสินค้าประเภทวัสดุและชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิตเครื่องประดับ 

กิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยให้ใช้ระบบจัดจำหน่ายสินค้าประเภทอะไหล่ ชิ้นส่วน และวัสดุจำเป็นในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ผ่านเว็บไซต์บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การให้คำปรึกษาด้านวิศวกรรม บริการออกแบบทางวิศวกรรม เป็นต้น และการค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นการจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ชิ้นส่วนโลหะ และยานยนต์ เป็นต้น เพื่อค้าส่งในประเทศ