เช็กลิสต์เรื่องต้องรู้ ก่อนลากกระเป๋า ‘ย้ายประเทศ’

รวมเรื่องต้องรู้ ก่อนตัดสินใจลากกระเป๋า #ย้ายประเทศ พร้อมแนะนำประเทศที่ (ว่ากันว่า) ขอสัญชาติง่ายที่สุด หรือจะใช้เงินแก้ปัญหา ซื้อสัญชาติเลยก็ได้

ติดตามสถานการณ์บ้านเมืองมาต่อเนื่อง ก็แอบเครียด จนรู้สึกอยากย้ายไปเรียนต่อต่างประเทศ ทำงาน หรือหาเรื่องอยู่ต่อ เพื่อขอสัญชาติประเทศนั้นๆ ให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่จะให้ง่ายดายเหมือนจัดกระเป๋าเดินทางคงไม่ได้ และเราก็ควรศึกษาข้อมูล รวมถึงการเตรียมตัวก่อนที่จะย้ายประเทศหรือย้ายถิ่นฐานให้ดี

‘อีจัน’ จึงรวบรวมข้อมูลควรรู้ก่อนย้ายประเทศมาให้ ซึ่งที่ต้องรู้เป็นอันดับต้นๆ สำหรับการย้ายประเทศก็คือ การเลือกประเทศที่คุณต้องการจะย้ายไป ซึ่งจากการสำรวจส่วนใหญ่จะเลือกประเทศที่ตัวเองต้องการก่อนเป็นอันดับแรก

หลังจากนั้นจะมีการตั้งคำถามว่า ย้ายไปทำอะไรที่ประเทศนั้นๆ และศึกษาหาข้อมูลไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพ, ต้นทุน, การทำงาน, ที่พัก, และรายละเอียดยิบย่อยอีกเพียบ

จากนั้น ก็เริ่มต้นเตรียม เอกสารสำคัญ เช่น พาสปอร์ต, ใบรับรองการศึกษา, ใบรับรองการทำงาน, เอกสารทางการเงิน, ประกันอุบัติเหตุ และประกันสุขภาพ, บัญชีธนาคาร, ใบขับขี่ เป็นต้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศว่า มีอะไรเพิ่มเติมนอกจากนี้หรือไม่ ดังนั้น ผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานจะต้องศึกษาในรายละเอียดของแต่ละประเทศให้ดีก่อน

ทั้งนี้ จะต้องมี เงินเก็บในธนาคารขั้นต่ำ 300,000 บาท ซึ่งจำนวนนี้ห้ามนำไปใช้จ่ายเด็ดขาด เพราะมีไว้เพื่อโชว์รายการเคลื่อนไหวบัญชีเงินฝาก (Bank Statement) ซึ่งจำเป็นต่อการยื่นขอวีซ่า แนะนำว่า ดีที่สุดควรเป็นบัญชีออมทรัพย์ที่มีความเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ หากเป็นบัญชีเงินฝากประจำ ต้องแนบบัญชีออมทรัพย์ด้วย

ขณะเดียวกัน ต้องมีเงินตั้งตัว ซึ่งเป็นคนละส่วนกันกับเงินเก็บในบัญชีธนาคาร 300,000 บาท โดยเป็นเงินสำหรับใช้จ่าย เช่น ค่าอาหาร ของใช้ ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ และค่าเอกสารต่างๆ อย่างต่ำ 2 เดือน ระหว่างที่หางานทำ ซึ่งอย่างน้อยๆ ต้องมี 50,000 ถึง 100,000 บาท 

อ่านมาถึงตรงนี้ อย่าเพิ่งรู้สึกท้อแท้นะคะ เพราะ ‘อีจัน’ รวมประเทศที่เขาว่ากันว่า ขอสัญชาติง่ายที่สุดมาฝากค่ะ

สำหรับคนที่ไปเรียนต่อต่างประเทศ ประเทศแคนาดา (Canada) ซึ่งเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นประเทศที่น่าอยู่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จึงจัดเป็นประเทศ ที่งานดีมาก

ทั้งมีความปลอดภัยสูง ผู้นำเก่งมาก และระบบการศึกษาดีเยี่ยม นอกจากนี้ แคนาดายังยินดีรับชาวต่างชาติที่สกิลสูงๆ เข้าทำงานอีก เรียกว่าถ้าไปเรียนต่อแล้วก็ลุ้นหางานทำต่อได้เลย

จากนั้นก็อยู่ต่อได้ยาวๆ จนครบกำหนดก็ขอสัญชาติได้ โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องมี permanent resident status (ต้องเป็นนักลงทุน มีธุรกิจในประเทศ หรือทำงานในกลุ่มอาชีพที่เขาต้องการ เช่น แพทย์ พยาบาล วิศวกร หรือมีคุณสมบัติอื่นๆ ตามที่กำหนด)

ต้องอาศัยอยู่ในแคนาดามา 1,095 วัน ภายในระยะเวลา 5 ปี ก่อนจะขอสัญชาติ, ต้องพูดภาษาอังกฤษ หรือฝรั่งเศสได้แบบคล่องแคล่ว และต้องสอบความรู้รอบตัวเกี่ยวกับประเทศแคนาดาให้ผ่าน

ส่วนคนที่มีแฟนสาย ฝ. ต้องยกให้ ประเทศบราซิล หรือสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล (Brasil) ซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของโลก

โดยบราซิล ยินดีจะให้สัญชาติกับคู่สมรสของประชากรของเขา ซึ่งใครก็ตามที่แต่งงานกับชาวบราซิลครบ 1 ปี ก็รับสัญชาติไปได้เลยสวยๆ ซึ่งนอกจากบราซิลแล้ว ยังมีประเทศออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และนิวซีแลนด์ อีกด้วย แตกต่างกันตรงเงื่อนไขว่า ต้องแต่งงานกันนานกี่ปีๆ ก็ว่าไป

หรือ สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนสัญชาติแบบเร็วๆ แบบเงื่อนไขไม่เยอะ ก็ ประเทศอาร์เจนตินา (Argentina) ถูกเรียกขานว่า ‘ปารีสแห่งอเมริกาใต้’ เพราะเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่สวยงาม

และประชากรมีรายได้ต่อหัวสูงกว่าอิตาลี ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส จึงเป็นประเทศที่มีโอกาสติดอันดับประเทศร่ำรวย 1 ใน 10 ของโลก เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจทีเดียว เพราะแค่เราอาศัยอยู่ในประเทศเขาแบบถูกกฎหมายนานกว่า 2 ปี ก็ทำเรื่องขอสัญชาติได้เลย

แต่ใครจะใช้เงินแก้ปัญหาก็ไม่ติดนะ เพราะมีอีก 10 ประเทศ ที่เปิดให้ซื้อสัญชาติได้ โดยไม่ต้องมีแฟนต่างชาติ ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น ราว 1,400,000 บาท สหรัฐอเมริกา ราว 56,000,000 บาท นิวซีแลนด์ ราว 2,000,000 บาท อังกฤษ ราว 87,000,000 บาท เยอรมนี ราว 13,500,000 บาท แคนาดา ราว 30,700,000 บาท ไต้หวัน ราว 6,200,000 บาท โปรตุเกส ราว 10,000,000 บาท และสเปน ราว 1,900,000 บาท 

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อให้ประกอบการตัดสินใจเท่านั้นนะ การศึกษาข้อมูล และการเตรียมตัว เป็นสิ่งที่สำคัญต่อการที่เราจะย้ายประเทศมากๆ แต่ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยได้เลย