ขับถ่ายยากอย่าปล่อยไว้นานเพราะอาจจะส่งผลกระทบกับร่างกายได้

ขับถ่ายยากหรือท้องผูกส่งผลกระทบทั้งต่อร่างกายและจิตใจอย่างมาก หลายคนรู้สึกเครียด เบื่ออาหาร ไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่า ปวดหัว ปวดหลัง และแสบร้อนบริเวณหน้าอก ไม่เพียงเท่านั้นการออกแรงเบ่งถ่ายอุจจาระเป็นประจำยังก่อให้เกิดผลร้ายตามมามากมายได้อีกด้วย จะมีผลเสียอะไรบ้างไปดู

1.ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวาร หรือแผลปริรอบ ๆ ทวารหนัก จากอุจจาระที่แห้งแข็งครูดหลอดเลือดจนฉีกขาด
2.ท้องผูกเรื้อรังจนทำให้มีอาการของลำไส้อุดตัน ได้แก่ ปวดท้องมาก อึดอัดแน่นท้อง คลื่นไส้อาเจียน ไม่ผายลม และไม่ถ่ายอุจจาระ
3.เพิ่มความเสี่ยงของโรคผนังลำไส้อักเสบ (Diverticulitis) เพราะเกิดจากการที่ลำไส้ใหญ่อ่อนแอลง เกิดเป็นถุงเล็ก ๆ ขึ้นมา ซึ่งเมื่อเกิดการอักเสบ อาจทำให้ลำไส้ใหญ่บริเวณนั้นบวมแดงจนเป็นฝี หรือแตกเป็นแผลได้
4.มีสารพิษสะสมภายในร่างกายเยอะขึ้นถ้าหากไม่สามารถขับสารพิษในร่างกายได้หมด อาจจะเกิดการหมักหมม และเกิดอาการเจ็บป่วยตามมา
5.หงุดหงิดง่าย รู้สึกไม่สบายตัว
6.ส่งผลให้ความดันในลูกตาสูงขึ้นซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดตาและหู
7.ท้องผูกเรื้อรังอาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ โดยพบว่า ผู้ที่มีท้องผูกเรื้อรังมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้มากกว่าคนทั่วไปถึง 1.78 เท่า
8.ท้องผูกเรื้อรังจนทำให้มีอาการของลำไส้อุดตัน เพราะอาหารและของเหลวไม่สามารถเคลื่อนผ่านได้ตามปกติ ส่งผลให้มีอาการปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียนได้

สาเหตุของการขับถ่ายยาก
1.การเบ่งถ่ายอุจจาระผิดวิธี เช่น การเบ่งถ่ายขณะหายใจเข้าแล้วแขม่วท้อง
2.การกลั้นอุจจาระ ผู้ป่วยอาจปวดอุจจาระในระหว่างการเดินทาง ระหว่างการประชุม หรือสถานการณ์ต่างๆ จนต้องกลั้นอุจจาระไว้ไม่สามารถเข้าห้องน้ำขณะรู้สึกปวดได้
3.ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเรื้อรัง ที่เคลื่อนไหวน้อย
4.รับประทานอาหารไขมันสูง เช่น เนื้อแดง หรืออาหารที่ย่อยยาก ไม่มีกากใย รวมถึงอาหารที่ทำให้เกิดอาการอืดแน่นท้อง
5.ขาดการออกกำลังกาย
6.ดื่มน้ำน้อย

จะเห็นได้ว่าการปล่อยให้มีปัญหาขับถ่ายยากทิ้งไว้นาน ๆ จะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราควรหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเอง ด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างผักผลไม้ ดื่มน้ำเยอะ ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอกันนะคะ