“ชัยวุฒิ” ปราศรัยเดือด! มั่นใจยึดเก้าอี้ ส.ส.ปทุมธานีได้

“ชัยวุฒิ” ปราศรัยเดือด! มั่นใจยึดเก้าอี้ ส.ส.ปทุมธานีได้ ฉะเพื่อไทย แคนดิเดตนายกฯ ทำตามคำสั่งนาย หัวหน้าพรรคไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพียงพรรคเดียว

“ชัยวุฒิ” ปราศรัยปทุมธานีเดือด! เผยข้อมูลเด็ด เลือกเพื่อไทยได้ “เศรษฐา” เป็นนายกฯ แน่ เพราะ “อุ๊งอิ๊ง” ยังถือหุ้นบริษัทไม่โอนให้คนอื่น

เมื่อวานนี้ (9 เม.ย.66) แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฯ ,นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคฯ และ รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์พรรคภาคเหนือ ลงพื้นที่ช่วย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดปทุมธานี ของพรรค ทั้ง 7 เขต ปราศรัย ที่บริเวณลานสามแยกสวนเกษตร คลอง 3

ช่วงหนึ่งของการปราศรัย นายชัยวุฒิ กล่าวว่า พปชร.จะปักธง ส.ส.ที่ จ.ปทุมธานี ได้อย่างแน่นอน  ซึ่งนโยบายการเมืองต้องนิ่ง ให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ ให้ประเทศชาติมั่นคง พรรคเรามีนโยบายให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เสนอนโยบายที่ประชาชนชอบ เราต้องทำให้การเมืองนิ่ง รัฐบาลมีเสถียรภาพ ประเทศชาติเข้มแข็ง ซึ่งวางนโยบายส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ เราเสนอนโยบายเอาใจพี่น้องประชาชน ถูกใจคน ไม่ถูกต้องเราก็ไม่ทำ โดยยอมรับว่า ตนเสียใจและรับไม่ได้กับนโยบายของบางพรรคที่จะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร การเมืองมาถึงตรงนี้ได้อย่างไร บางพรรคการเมืองไม่คำนึงถึงความมั่นคงของประเทศชาติ ตอนนี้เรามีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน รู้หรือไม่ เราใช้ทหารกี่หมื่นกี่แสนคน แล้ววันนี้ประเทศเพื่อนบ้านเขารบกัน ดูข่าวบ้างหรือไม่ ขณะที่ในยุโรปก็มีสงคราม

เราเป็นประเทศพี่ใหญ่ในอาเซียน ซึ่งอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง เราจึงต้องมีกองทัพที่เข้มแข็งและต้องมีทหาร เพื่อเข้าไปทำงานให้ประเทศชาติและประชาชน

นายชัยวุฒิ ระบุว่า สถานการณ์น้ำท่วมปี 2554 ตอนสมัยนั้นแก้ปัญหาได้หรือไม่ นายกฯ บอกว่า เอาอยู่ ๆ แต่คนที่มาช่วยคือทหาร เราอย่ามาสร้างความเกลียดชังทหาร อย่ามาพูดให้คนเกลียดกัน อย่ามาสร้างค่านิยมตามใจวัยรุ่น คุณไม่ต้องรักชาติก็ได้ แล้วใครจะมาปกครองประเทศแทนทหาร เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ประเทศชาติจะอยู่อย่างนั้นได้อย่างไร ฉะนั้นมันต้องมีทหาร และ พปชร. ยืนหยัดเราต้องให้ประเทศชาติมั่นคงแข็งแรง

นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรคประชารัฐ ซึ่งลงสมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อเบอร์ 1 และเป็นแคนดิเดตนายกฯ ด้วยตัวเองชัดเจน แต่พรรคเพื่อไทย แคนดิเดตนายกฯ ไม่ลงสมัคร ส.ส. แล้วไม่เข้าสภา ตนก็ตกใจว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งเป็นอยู่พรรคเดียว แต่แคนดิเดตนายกฯ คือหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร แต่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็นแคนดิเดต

“ผมไม่ได้ขัดแย้ง แค่เปรียบเทียบให้ฟัง เพราะเขาอาจจะให้ความสำคัญกับครอบครัวมากกว่าพรรคการเมือง” นายชัยวุฒิ กล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า กรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน ออกข่าวว่าโอนหุ้นบริษัทให้คนอื่นหมดแล้ว ยกเลิกตำแหน่งในบริษัท และประกาศว่าพร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เคยบอกว่ามาทำงานการเมืองครั้งนี้จะไม่เป็นอะไรเลย นอกจากเป็นนายกรัฐมนตรี แสดงว่าเขาคุยกันแล้วว่า จะเป็นนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ฉะนั้นผมต้องดูว่า “อุ๊งอิ๊ง” โอนหุ้นเหมือนนายเศรษฐา หรือเปล่า ระหว่างที่กำลังปราศรัยอยู่บนเวทีนายชัยวุฒิ ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อมูลและบอกว่า “อุ๊งอิ๊ง” ยังไม่มีการโอนหุ้นในบริษัท เอสซี แอสเสท 1,200 ล้านหุ้น หรือ 28.54% จึงฟันธงว่า ตนขอวิเคราะห์ว่าเลือกพรรคเพื่อไทย จะได้เศรษฐา เป็นนายกฯ แน่นอน

นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ กล่าวเตือน ว่าที่นายกฯ ในอนาคตว่า การเป็นนายกฯ ต้องทำตามคำสั่งนายใหญ่ ซึ่งตนเตือนด้วยความเป็นห่วง เพราะนายเศรษฐา เป็นนักธุรกิจ เชื่อมั่นในตัวเองสูง ซึ่งไม่ใช่เป็นคนในครอบครัว ยกตัวอย่างเหตุการณ์ปี 2550 สมัยพรรคพลังประชาชน ที่มีนายสมัคร สุนทรทรเวช เป็นนายกฯ แต่ขัดใจนายใหญ่ ก็อยู่ไม่ได้ จึงได้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ ก็เพราะเป็นน้องเขยนายใหญ่ไงครับ ผมมอว่า นายเศรษฐา ว่า มี 2 ทางเลือก 1.ต้องทำตามนายใหญ่ ตนไม่อยากพูดว่าเป็นอะไร แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ให้ไปเป็นน้องเขยคนในครอบครัวนายใหญ่

ก่อนจบปราศรัย นายชัยวุฒิ กล่าวทิ้งท้ายว่า พปชร.ทำตามกระบวนการประชาธิปไตย ลุงป้อม ไม่ใช่คนปฏิวัติ ไม่ได้สืบทอดอำนาจและไม่ใช่เผด็จการ ท่านพร้อมที่สุดแล้ว ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน และแก้ปัญหาให้ประชาชน ฉะนั้นเราเลือกพรรคที่พร้อมรับใช้ประชาชน ไม่ใช่พรรคการเมืองที่เป็นนอมินี