กลายเป็นดราม่าเดือดขึ้นมาอีกเมื่อ แซน หนึ่งในคนที่อยู่บนเรือสปีดโบ๊ท ได้ออกมาพูดว่า วันที่เกิดเหตุดาราสาว แตงโม นิดา พลัดตกเรือลงแม่น้ำเจ้าพระยานั้น กู้ภัยมาช้า รวมถึงเห็นกู้ภัยอยู่บนบก ไม่มาทางน้ำ เป็นเหตุให้หลายคนวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่ แซน พูดทำให้เกิด #เซฟกู้ภัยเกิดขึ้น ล่าสุด อีจันบันเทิง ได้สัมภาษณ์ทีมกู้ภัยในวันนั้น นำทีมโดย ต่าย สายธาร พร้อมถามว่า มาช้าจริงหรือไม่ โดนพูดจาไม่ดีใส่จริงหรือเปล่า รวมถึง มีหนึ่งในกู้ภัยที่ลงไปช่วยจนทำให้เส้นเลือดฝอยในตาแตก ทำให้ตาแดงมาก โดย ต่าย สายธาร เผยว่า
ต่าย : เรื่องของดราม่ากู้ภัยมาช้า เริ่มจากคุณเบียร์ก่อนเพราะเขามีคลิปเสียง และเป็นคนแรกที่ถึงที่เกิดเหตุ
เบียร์ : ตอนที่เป็นประเด็นเราพยายามหาดูข้อมูล ว่าเรารับแจ้งตอนกี่โมง เราใช้เวลาไม่ถึง 8 นาที อาสาสมัครชุดแรกถึงแล้ว แต่ก็ไม่มีข้อมูลใดๆ อย่างที่เห็น พอไปถึงเขาก็วนเรือหากันยังไม่ได้ให้ข้อมูล กับทางอาสาสมัครหรือทางเจ้าหน้าที่ทางน้ำ ใช้เวลาพักใหญ่ใหญ่เลยครับกว่าจะเข้ามาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่บนฝั่ง ส่วนในเรื่องพูดจาไม่ดีต้องถามพี่พจน์ครับ
พจน์ : การกู้ภัยทางน้ำต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน ถึงจะทำงานได้เนื่องจากว่า ทางน้ำมีอันตรายหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องกระแสน้ำความมืดน้ำลึก รวมถึงเรือที่สัญจรไปมา ถ้าเรายังจัดการตรงนี้ไม่ได้เราก็ทำงานไม่ได้ การที่เราไปถามหาข้อมูลเค้าเค้าน่าจะเข้าใจผิด เค้าอาจจะรำคาญว่าทำไมเราต้องทำเยอะ เราก็เข้าใจเขาแต่ถ้าเค้ามองในมุมของเราเหตุการณ์นี้ก็คงไม่เกิดขึ้น ทีนี้พอเราไปทำข้อมูลเขาก็กลายเป็นว่าเค้าเริ่มใส่อารมณ์ อาจจะมีคำไม่ดีออกมา ประมาณว่าตกลงจะมาช่วยหรือจะมาทำอะไรถ้าไม่ช่วยก็ไม่ต้องมา อะไรประมาณนี้ซึ่งเค้าอาจจะไม่เข้าใจตรงนี้ กระแสข่าวตรงนี้มันอาจจะทำอะไรพวกผมไม่ได้เพราะอุดมการณ์ของพวกผมมันยิ่งใหญ่กว่านี้ มันไม่ได้ทำให้เราเสียกำลังใจครับเพราะพวกเราไม่ได้ใส่ใจเรื่องอยู่แล้ว ความคิดของคนเรามันไม่เหมือนกัน เค้าอาจจะมองในมุมแคบๆในส่วนของเขา คนที่คิดแบบนี้อาจจะเป็นส่วนน้อยหรืออาจจะเป็นเค้าคนเดียวก็ได้ที่คิดแบบนี้ ส่วนใหญ่คนทั่วไปที่มีความคิดเค้าคงไม่คิดแบบนี้ ตอนดูข่าวก็ไม่ได้ตกใจอะไรเพราะเรามีระบบของเราอยู่แล้ว ว่ารับแจ้งเราไปถึงไหนอะไรยังไง คนธรรมดาทั่วไปที่หมอเขาเห็นมันไม่ช้าแน่นอน ผมเข้าใจนะบางที 1นาทีของเค้ามันอาจจะนาน ทั้งๆที่ความจริงแล้วเวลามันก็เดินปกตินี่แหละ แต่เขารีบคุณอาจจะมองว่านานไป
ต่าย : การที่เราออกมาแล้วต้องการจะอธิบาย ให้ประชาชนเข้าใจจะได้ไม่เข้าใจผิด ว่ากู้ภัยมาช้าเดี๋ยวกู้ภัยทำงานช้า เรื่องแบบนี้เวลาเสียมันไม่ได้เสียที่เราคนเดียวมันเสียทั้งองค์กร อยากให้ประชาชนเข้าใจว่าเราทำงานมีระบบ ถ้าเราไม่ออกมาโต้กลับมันก็กลายเป็นว่าอ๋อกู้ภัยมาช้านิ วันนี้ก็ต้องขอบคุณพวกเขาที่ทำให้เราต้องออกมาชี้แจง มันเรคคอร์ดตั้งแต่คุณเริ่มโทรแล้วค่ะ อยากให้เข้าใจว่าไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานไหนๆมูลนิธิไหนๆเขาก็ทำงานกันแบบนี้ ในส่วนที่บอกว่ากู้ภัยต้องมาจากในน้ำ เราก็มองขำๆไม่ได้โกรธอะไร คนเรามันมองไม่เหมือนกัน เขาอาจจะดูทีวีเยอะว่ากู้ภัย จะต้องดำขึ้นมาจากแม่น้ำ หรือกู้ภัยที่เขาคิดเนี่ยอาจจะมาเป็นเรือ ทำไมกู้ภัยทางน้ำต้องอยู่บนบก กู้ภัยเค้าอยู่บนบกกันทั้งนั้นแหละค่ะ จริงๆตรงนี้ก็อยากให้น้องแซนเข้าใจด้วย คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดแต่ประโยคที่เขาพูดออกมามันอาจจะยังไม่ได้กลั่นกรอง ด้วยความที่เค้าไม่เข้าใจตรงนี้ไม่มีใครโกรธเลย ขอบคุณที่ออกมาสร้างสีสันก็ขำๆกันดี พวกเราก็จะไปฝึกหายใจทางเหงือกกันแล้วค่ะตอนนี้ เรื่องที่บอกว่ากู้ภัยมาช้าแล้วขอโทษเนี่ยทุกคนก็ไม่ได้ติดใจอะไรนะ แต่ว่าคำขอโทษถ้าไม่ได้ออกมาจากใจ เราก็ให้อภัยตามมารยาท แต่ถ้าออกมาจากใจก็ให้อภัยจากใจจริงๆ มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนกู้ภัยเค้าทำงาน อย่าลืมว่าเค้าก็มีครอบครัว พวกเรามาทำงานไม่ได้เงินสักบาท มันอาจจะบั่นทอนกำลังใจแต่มันก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้ มันไม่ได้เสียใจแต่เสียความรู้สึกมากกว่า พวกเราตั้งใจทำงานไม่ได้หลับไม่ได้นอน ไอ้คำที่พูดว่าพวกเรามาช้าต้องย้อนกลับไปถามว่าพวกคุณทำอะไรกันอยู่ ถ้าวันนั้นพวกคุณให้ข้อมูลที่ชัดเจนก็จะไม่ช้าแบบนี้ และอาจจะไม่เกิดการสูญเสียขึ้นก็ได้ หรือถ้าคุณมีเสื้อชูชีพหรือห่วงยางโยนให้เขามันก็อาจจะไม่มีเรื่องเศร้า เกิดขึ้นก็ได้ เพราะฉะนั้นพวกคุณต้องย้อนกลับไปตั้งสติก่อน ย้อนกลับไปถามตัวเองว่าพวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่ ถามว่าพวกเราทำอะไรพวกเรากำลังปฎิบัติงานทำหน้าที่เพื่อช่วยน้อง ในสิ่งที่พวกคุณทำมันคืออะไร สังคมเขารู้เค้าเห็นพวกเราเป็นกู้ภัย อุดมการณ์ของพวกเราคือช่วยคนไม่ได้มีหน้าที่ที่จะออกมาทะเลาะกับใครหรือออกมาให้ใครด่าก็แค่นั้นเองค่ะ
เห็นตาเจ็บเป็นเพราะอะไร?
ทีมอาสา : น่าจะเกิดจากแรงดันของน้ำครับ ที่มีความลึกประมาณ 20 – 21 เมตรครับ เทียบเท่ากับตึก 8 ชั้น ที่ดำลงไป ณ จุดนั้นที่ดำลงไปประมาณ 10 – 15 นาที พอขึ้นมาเพื่อนทักว่าตาแดง ไม่ได้โกรธหรอกครับ อย่างว่าแหละคำพูดพวกนี้ทำอะไรพวกเราไม่ได้
ต่าย : ขอบคุณนะคะสำหรับทุกกำลังใจ มันก็กลายเป็น #เซฟกู้ภัย มันก็เป็นกำลังใจให้เราปฏิบัติหน้าที่ หรือภารกิจมากขึ้น คำว่ากู้ภัยมันมาด้วยใจกันหมดแล้ว อีกอย่างนึงขอพูดตรงนี้เลยนะ มันมีคนที่บอกว่าพี่ต่ายไปเรี่ยไรเงิน มันไม่มีเลยถ้าใครโอนเงินมา ช่วยมาแจ้งด้วยนะคะคือจะขอบคุณมากๆซึ่งพี่ต่ายอยู่บนเรือและไลฟ์สดตลอด พี่ต่ายมีเวลา ซื้อของ ซื้อข้าวต้ม ตอนประมาณตี 2 ตอนเช้าก็ไปซื้อปาท่องโก๋ อันนี้ไม่ต้องเรี่ยไรค่ะซื้อเอง ก็มีพี่สาวช่วยมา 1000 บาท แค่นี้ค่ะ และต่ายก็ยังยืนยันอยู่เสมอว่าร่วมกตัญญูของเรา ไม่มีการเรี่ยไรเงิน ถ้าเกิดใครไปเจอขอรับบริจาคแจ้งมาทีเถอะค่ะ เพราะคุณเจอมิจฉาชีพแล้วแน่นอน ต่ายไม่เคยมีการขึ้นเลขที่บัญชีให้เลยนะคะ วันนั้นมีแฟนคลับเอาข้าวมาแจก เอาอาหารมาให้อันนี้กราบขอบพระคุณจากหัวใจทีมงานกู้ภัย ของร่วมกตัญญู จริงๆค่ะ ทุกวันนี้ที่ทำไม่เคยได้เงินแม้แต่บาทเดียวอยู่แล้ว
ทำแล้วไม่ได้เงินทำทำไม?
ต่าย : มีคนถามเยอะมากว่าทำแล้วไม่ได้เงินจะทำทำไม ลองมาทำดูแล้วคุณจะได้คำตอบ ความสุขของคนเรามันไม่เท่ากัน แต่พวกเราอุดมการณ์เดียวกันมันอยู่กันมันไม่ใช่แค่คำว่ากู้ภัย ที่เราอยู่กันมันอยู่กันเป็นครอบครัว ทุกคนคือครอบครัวร่วมกตัญญูค่ะ
จะบอกอะไรกับเขาไหม?
ต่าย : ตอนนี้เรื่องของกู้ภัยก็ไม่มีอะไรค่ะ เค้าขอโทษมาเราก็ไม่ได้ติดใจ ถ้าขอโทษจากใจก็ให้อภัย แต่ถ้าคำขอโทษที่ไม่ได้มาจากใจก็ให้อภัยเหมือนกันแต่ตามมารยาทนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นพวกเราก็ไม่มีเวลามานั่งทะเลาะกับใคร เพราะทุก 1 วินาทีของพวกเราทีมกู้ภัยและอาสาเนี่ยมันมีคุณค่า มันมีค่ามากเราไม่มีเวลาที่จะมานั่งดราม่า เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราต้องการคำขอบคุณหรือไม่ขอบคุณไม่เป็นไรค่ะ แต่ส่งพลังบวกส่งกำลังใจดีๆมาให้พวกเรา แค่นี้พวกเราก็พอใจแล้ว และหลังจากนี้ก็คงเป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเรื่องคดีของน้อง ทางพวกเรากู้ภัยก็ยังคงติดตาม ให้กำลังใจครอบครัวน้องกันอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆขอบคุณสำหรับทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้พวกเราพวกเรารับรู้ได้ขอบคุณจริงๆ
จริงๆทีมอาสาเป็นทีมที่เสียสละมากๆไม่ว่าจะหน่วยงานไหน ต่างก็ทำด้วยใจ เชื่อทุกคนควรได้รับคำชื่นชม มากกว่าคำตำหนินั่นเองค่ะ
คลิปอีจันแนะนำ
ต่าย สายธาร เปิดใจหลัง แก๊งสปีดโบ๊ทขอโทษ