ยิ่งใหญ่กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เมื่อ บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งบริษัทเอนเตอร์เทนเม้นท์ รายใหญ่ที่มีความรู้ความชำนาญในการสร้างสรรค์งานบันเทิงหลากหลายด้าน พร้อมแล้วกับการเปิดตัวอภิมหาโปรเจค เมทาเวิร์ส ทรานส์ลูเซีย (Metaverse Translucia ) เตรียมสร้างโลกเสมือนที่เต็มไปด้วยจินตนาการไร้ขอบเขตการเชื่อมต่อโลกปัจจุบัน สู่โลกเสมือนจริงทางดิจิทัล ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ สู่การพลิกโฉมในทุกวงการเพื่อก้าวไปสู่โลกเมทาเวิร์สอย่างเต็มรูปแบบ รายแรกในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นในการสร้างโลกใบใหม่ทั้งใบ ที่ไม่ใช่การแยกกันพัฒนาเป็นเรื่องๆ
บอกเลยว่างานนี้ ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล เขาไม่ธรรมดา เพราะที่ผ่านมาเคยทำโปรเจกต์ใหญ่ๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้บุกเบิกทางด้านเอนิเมชั่นของเมืองไทยจากการเป็นผู้สร้างและเจ้าของลิขสิทธิ์การ์ตูนแอนิเมชั่นไทย ทั้งยังเป็นผู้สร้างโดยการจับมือกับพันธมิตรอย่าง Tencent บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีและบันเทิง ผลิตภาพยนตร์ “แวนการ์ด” , ร่วมมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ฝั่งจีนอย่าง SMG Picture และ WingsMedia ผลิตภาพยนตร์ Start It Up , จับมือ Jackie Chan กับงานภาพยนตร์แอคชันผจญภัย “Project SNAFU” , ทางด้านการสร้างสรรค์รายการทีวีมีการร่วมมือกับ Akimoto Yasushi ผู้อยู่เบื้องหลังวง AKB48 ผลิตรายการ The Last Idol ออกอากาศทางช่อง 7 ทั้งยังจัดตั้งบริษัทลูกในชื่อ บริษัท ทรี รูทส์ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ กรุ๊ป จำกัด (Tree Roots Entertainment Group) และสร้างทีม ภายใต้ชื่อบริษัท วาซาบิ โกลบอล อินโนเวชั่น เวนเจอร์ส จำกัด (Wasabi Global Innovation Ventures) เพื่อมาทำหน้าที่รับผิดชอบการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ในระดับโลก เรียกว่าทุกผลงานที่ผ่านมา จัดใหญ่จัดแน่นในทุกๆโปรเจกต์จริงๆ
และครั้งนี้ก็เช่นกันจะทำแบบธรรมดาก็คงไม่ได้ จัดหนักความยิ่งใหญ่เหมือนเคย โดย ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดใจว่า
“ขอทุ่มทุนสร้างอาณาจักรโลกเสมือน (Metaverse) “Translucia” ซึ่งเป็นโลกเสมือนสุดจินตนาการขึ้นเป็นรายแรกของไทย โดยเฟสแรกเงินลงทุนจะไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท และจะพัฒนาต่อเนื่องจนสร้างมูลค่าอาณาจักรไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท”
“Metaverse” เรียกได้ว่าเป็นเมกาเทรนด์ใหม่ของโลก ซึ่งตอนนี้เราได้เตรียมพร้อมที่จะนำเทรนด์นี้มาใช้ในภาคธุรกิจ และรวมถึงการพัฒนาสังคม และผมมั่นใจว่าจะทำให้โลกธุรกิจในอนาคตเปลี่ยนแปลงจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง เหมือนเป็นโลกแห่งเวทมนตร์ ที่เนรมิตทุกอย่างให้เป็นจริง ทุกคนจะมีความสุขที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม มีสุขภาพที่ดี มีโอกาสสร้างอาชีพใหม่ มีรายได้พอเพียงทำให้ครอบครัวมีความสุขอย่างยั่งยืนที่สร้างเองได้ และได้รับความตื่นตาตื่นใจในโลกเสมือนจริงนี้ เราเรียกมันว่า “Translucia”ซึ่งจะเป็นโลกเสมือนที่สร้างจากโลกที่หลายๆคนฝันให้เกิดขึ้นจริงได้”
โดย “Translucia” จะเพิ่มมูลค่าให้กับสังคมและโลกธุรกิจ จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญต่อประสบการณ์การใช้ชีวิต จะมีการเชื่อมโยงกันระหว่างโลกจริงและโลกเสมือน ที่สามารถส่งผลให้เกิดเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ โดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงที่หลากหลาย มาผสมผสาน กับจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างประสบการณ์ในรูปแบบใหม่ ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของทุกคน รวมถึงการทำงาน การสร้างสังคม ความบันเทิงในรูปแบบที่หลากหลาย และทำกิจกรรมต่างๆ ได้แบบไร้รอยต่อ โดยอาศัย Metaverse เป็นประตูหรือ Gateway สู่สังคมที่เราตั้งใจพัฒนาให้เป็นสังคมแห่งคุณภาพอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ พันธมิตรรายแรกของ Translucia คือภาคอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อย่างบริษัท MQDC โดย คุณทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์ ถือว่าเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกในโลกที่พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์บน Metaverse
ทั้งนี้ คุณทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC)เผยว่า
” MQDC จะเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกของโลกที่จะมีการสร้างและพัฒนาการเชื่อมต่อระหว่างโครงการในโลกจริงและโลกเสมือน สิ่งที่โลกจริงไม่สามารถเกิดได้ จะเกิดขึ้นในโลกเสมือนแห่งนี้ เราตั้งใจที่จะทำให้โลกเสมือนนี้เป็นโลกที่งดงามไปด้วยจินตนาการ เต็มไปด้วยความสุข และเป็นสังคมที่ดี และเรายังสามารถใส่จินตนาการเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าและผู้ใช้บริการ ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของบ้านหรือคอนโดมิเนียมได้ทั้งโลกจริงและโลกเสมือน มีการเชื่อมต่อสิทธิประโยชน์ต่างๆ เข้าด้วยกัน สิ่งนี้จะทำให้เราสามารถสร้างโลกที่เป็น Happiness, Sustainovation และ Well Being ได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
บอกเลยว่าปัจจุบัน Metaverse มีการนำมาใช้ในธุรกิจบันเทิง เช่น ศิลปิน Travis Scott ที่ร่วมกับเกม Fortnite จัดการแสดงTravis Scott’s Live Concert on Fornite ขึ้นบนแพลตฟอร์มเกมฟอร์ทไนท์ ที่ผู้เข้าชมสามารถสร้างคาแรคเตอร์ ออกแบบเครื่องแต่งกายได้อย่างอิสระ มีผู้เข้าชมออนไลน์เสมือนจริงถึง 1 ล้าน 2 แสนคน และยังมีผู้ตามกลับมาดูกว่า 10 ล้านคนภายใน 24 ชั่วโมง ทำให้บริษัทต่างๆเห็นโอกาสบนโลกเสมือนจริงชัดเจนยิ่งขึ้น งานนี้เรียกว่าไม่ธรรมดาจริงๆค่ะ