พิมรี่พาย โต้กลับ ส้ม สาวป่วยติดเตียงไม่ยอมทำกายภาพบำบัด

พิมรี่พาย งัดหลักฐานโต้ ส้ม ยันอีกฝ่ายไม่ไปทำกายภาพบำบัด แถมเรียกค่าเสียหาย โดยอ้างว่าทีมงานขนของไปทิ้ง

จากกรณีดราม่า คุณส้ม สาวป่วยติดเตียงที่ที่ทาง พิมรี่พาย ได้ให้ความช่วยเหลือ ทั้งช่วยเก็บของและขยะที่อยู่เต็มห้อง รวมถึงพาไปรักษา หาหมอกายภาพบำบัด โดยรับผิดชอบค่ารักษาทั้งหมด แต่ล่าสุดเพจดังได้ออกมาเผยเรื่องราวของเธอว่าตอนนี้มีปัญหาตามมา โดยทาง คุณส้ม เล่าว่าทีมงานของ พิมรี่พาย ได้นำสิ่งของภายในห้องไปทิ้งเยอะมาก โดยทีมงาน พิมรี่พาย อ้างว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่ก็เงียบหายไป งานนี้ร้อนถึง พิมรี่พาย ที่ต้องทำคลิปออกมาชี้แจงถึงเรื่องกรณีดังกล่าว โดย พิมรี่พาย ได้ชี้แจงอย่างละเอียดพร้อมงัดหลักฐานโชว์ ระบุว่า

“สวัสดีค่ะ วันนี้ชี้แจงกรณีเคสของคุณ ส้ม ที่ พิมพ์ เข้าไปให้การช่วยเหลือนะคะ สำนักข่าวได้พาดหัวข่าวว่า สาวป่วยติดเตียงร้องเพจดังหลังทีมงานของ พิมรี่พาย เข้ามาขนของที่เคยให้, แม่ลูกสามร้องเพจดังขอ พิมรี่พาย คืนของเราทีมงานทำความสะอาดขนสินค้าของใช้ไป, ส่อดราม่าสาวป่วยติดเตียงร้องเพจดังถูกทีมงานพิมรี่พายขนของออกจากห้อง วันนี้เราต้องอธิบายความจริง ชี้แจงข้อเท็จจริงครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย เราจะไม่พูดอะไรเรื่องนี้อีกแล้ว”

“ที่มาของเคสนี้นะคะก็คือคุณส้ม นางสาว กัญทิมา แซ่ตั้ง อายุ 36 ปี เป็นผู้ป่วยนอนติดเตียงขยับร่างกายไม่ได้ ขยับได้แต่ส่วนหัว เลี้ยงลูกสาว 3 คน ซึ่งอยู่ในวัยที่กำลังจะต้องได้รับการศึกษา มีคุณแม่ซึ่งเป็นหญิงวัยชราอีกหนึ่งคน ตัวพี่ ส้ม มีอาชีพค้าขาย ขายของตามตลาดนัด แล้วก็ขายของออนไลน์ทั่วไป แล้วก็มีภาระเยอะจนตัวเองล้มป่วย พอเราเจอเรามีความหวังดี มีเจตนาที่ดีอยากลงไปช่วยเคสนี้ สุดท้ายเราได้ข้อสรุปมาว่าพี่ ส้ม ต้องการความช่วยเหลือ แสดงเจตนาที่อยากจะหาย ยินดีให้ พิมรี่พาย ช่วยเหลือทุกอย่าง พิมพ์ก็ได้ไปนั่งพูดคุย เห็นสภาพห้องแล้วยอมรับจริงๆ ว่าตกใจเล็กน้อย สภาพห้องคือของเยอะมาก เราได้ติดต่อคุณหมอกายภาพ วันนั้นเราได้นำคุณส้มนั่งรถไปหาคุณหมอ ทางคุณ ส้ม ได้แจ้งเราว่าเขาไม่มีบัตรคนพิการ เขาจะไม่ได้เงินรักษาเป็นรายเดือน ทางคุณหมอได้แจ้งพิมพ์ว่า ที่คุณหมอโรงพยาบาลไม่ได้เขียนบัตรพิการให้ เพราะว่าเคสแบบนี้มีโอกาสหาย พิมพ์ยอมรับตรงๆ เลยว่าเราดีใจกันทั้งทีมงานเลย ว่าอีกไม่นานคุณส้มก็จะหาย คุณหมอบอกว่าต้องรักษา 16 ครั้ง รับรองว่า 16 ครั้งจะต้องดีขึ้นตามลำดับอย่างแน่นอน”

“พิมพ์ชวนคุณหมอไปที่ห้อง คุณหมอก็บอกว่าถ้าเป็นแบบนี้ขยับร่างกายไม่ได้ แล้วไม่มีที่ให้เดิน เชื้อรา แบคทีเรีย อากาศไม่ถ่ายเท ออกซิเจนไม่มีจะทำให้หายช้า ซึ่งตามปกติแล้วเราก็เข้าใจ เราอยากให้ชีวิตเขาดี อยากทำความสะอาดให้ คือเสื_ก พูดง่ายๆ คือเสื_ก ถามหมอปุ๊บ พิมพ์ก็ไปว่าจ้างบริษัททำความสะอาด โดยตอนที่เก็บคุณแม่ของพี่ส้มอยู่ แล้วก็บอกว่าอันนี้เอาไว้ อันนี้ทิ้ง ปรากฏว่าทีมงานแจ้งให้ พิมพ์ ทราบว่ามีของที่คุณแม่เลือกไว้ไม่ให้ทิ้งเป็นจำนวนเยอะมาก พิมพ์ก็บอกไม่ต้องคิดเยอะก็เช่าห้องเก็บของ เก็บแต่ของ แล้วขอให้ห้องของพี่ส้มเป็นห้องที่อยู่เพื่อจะได้กายภาพ เราเช่าห้อง 3 เดือน 3 เดือนนี้เราเผื่อเวลาในการรักษา เราเสียค่าใช้จ่ายไปทั้งหมดเป็นค่าหมอ 16 ครั้ง ค่าทำความสะอาด ค่าเฟอร์นิเจอร์ ค่าห้องเช่า ค่ารถพยาบาล แล้วก็มีค่าจิปาถะอีกเล็กน้อย รวม 120,000 บาท”

“เมื่อถึงเดือนมกราคม ปี 2565 ทางคุณส้มได้โทรมาหาทีมงานว่า หนูยังเดินไม่ได้ พิมพ์ไม่รอช้าบอกว่าเช่าห้องให้พี่ส้มต่ออีก 3 เดือน เป็น 6 เดือนแล้วนะ ถามว่าทำไมถึงเดินไม่ได้ ย้อนกลับไปเอกสารบันทึกการรักษาทางกายภาพบำบัดจากที่คุณหมอที่ดูแลพี่ส้ม ตอนนี้อาการของ นางสาวกัญทิมา แซ่ตั้ง ได้ดีขึ้นตามลำดับ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เปลี่ยนอิริยาบถจากนอนเป็นนั่งและจากนั่งเป็นยืนได้ อันนี้คุณหมอเขียนนะคะ ออกมาวันที่ 25 ธันวาคม ซึ่งเป็นการรักษาวันสุดท้ายตามคอร์ส ตารางการรักษาคุณหมอลงตารางไว้ ซึ่งส่งไฟล์นี้มาให้พิมพ์และทีมงานทุกครั้ง คนไข้บอกปวดหัว ปวดหลัง ปวดตัว ตั้งแต่ครั้งที่ 4 วันนี้ปวดหัวปฏิเสธการรักษา เป็นหวัดมีอาการเจ็บคอขอพักไม่ทำการกายภาพ คนไข้ไม่มีแรง มีอยู่ครั้งหนึ่ง พิมพ์ บอกหมอว่าเอาคลิปที่พี่ส้มลุกขึ้นมาให้ได้คุณหมอถ่ายคลิปส่งมา แล้วตั้งแต่นั้นพิมพ์ได้รับแจ้งจากหมอทุกสัปดาห์ว่าพี่ส้มไม่อยากรักษา”

“คุณหมอโทรมาหาทีมงานเรา บอกขอไม่ไปแล้ว อันนี้เล่าตามความเป็นจริงเลยนะ เพราะไปแล้วคุณส้มไม่ให้ความร่วมมือ อันนี้คือหมอเล่าให้ฟัง และพิมพ์ถามว่าจะไปอีกไหม เพราะพิมพ์จะจ่ายเงินเพื่อที่จะให้เขาเดินได้ หมอบอกว่าขอไม่ไปแล้ว บั่นทอนคุณหมอ และเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ปี 2564 คุณส้มได้ทักไลน์มาหาทีมงานว่า “พี่ออย บริษัททำความสะอาดขนของหนูไปเยอะเลย ของหนูหายไปเยอะเลย” ทีมงานเราคุยกับพี่ส้มไป 32 นาที “เรื่องค่าเช่าห้อง พี่จะเช่าอยู่หรือเปล่า เพราะหนูยังเดินไม่ได้ แล้วค่าเสื้อผ้าแม่ที่พี่บอก จะซื้อ กับของที่พวกเขาเอาไปนี่จะโอนมาให้หนูหรือพี่จะมา””

“พี่ส้มได้ส่งใบกระดาษที่เขาเขียนค่าใช้จ่ายเป็นเลขกลมๆ ทั้งหมดเลยรวมประมาณ 32,000 บาท พี่ส้มบอกว่าที่เขียนทั้งหมดคือของที่ทีมงานพิมพ์ทำให้เกิดความเสียหาย และขอเรียกร้องเงิน พิมพ์ขออนุญาตชี้แจงตรงนี้เลยว่าของที่ห้องพี่ส้มเอาไปก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ในเมื่อเขาขอ พิมพ์จะให้ เดี๋ยวทีมงานไปจัดการโอนเงินให้เขา”

“อีกเรื่องหนึ่งที่พิมพ์รู้สึกว่าพิมพ์ไม่ค่อยเข้าใจเขาแล้วกัน หน้าเฟซบุ๊กของพี่ส้ม ซึ่งมีคนแคปหน้าจอมาให้เราเยอะมาก พี่ส้มเขาโพสต์บอกอยากได้ความช่วยเหลือ อยากเดินได้ อยากได้ค่ารักษา เขาพูดกับทีมงานว่าตั้งแต่พิมพ์เข้ามาเงินบริจาคเขาน้อยลง แล้วก็เขาบอกว่าพิมพ์ไปเปิดบัญชีรับบริจาคแล้วก็ไม่ยอมเอาเงินมาให้เขา ซึ่งเขาบอกว่าปกติแล้วเขาจะมียอดเงินที่บริจาคมากกว่านี้ ก็ช็อก ซึ่งพิมพ์ไม่เคยรับเงินบริจาค อาชีพเดียวที่มีคือขายของ พิมพ์ขออนุญาตชี้แจงทุกเรื่องเพียงเท่านี้ค่ะ แล้วก็จะดำเนินความช่วยเหลือให้กับเคสที่ต้องการที่จะได้รับความช่วยเหลือต่อไป ขอบคุณทุกคนที่รับฟังค่ะ”

คลิปอีจันแนะนำ
โอลีฟ โตเกียวเนยกรอบ ปะทะ แก๊งคอลเซ็นเตอร์