หลังจากที่ยูทูบเบอร์สาวสวย มิ้วกี้ ไปรยา ได้ออกมาประกาศลดสถานะความสัมพันธ์กับสามี แดนนี่ ดานิเอล เบล็สซิ่ง เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 65 ที่ผ่านมา ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว
โดย มิ้วกี้ ไปรยา ได้เผยว่าเธอและสามี มีปัญหากันมาตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 64 ทำให้เธอได้ตัดสินใจที่จะขอถอยห่างจากความสัมพันธ์แบบเดิม ซึ่งปัญหาดังกล่าวเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่สะสมมานานหลายปี และขอเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถพูดรายละเอียดได้
ล่าสุด มีโอกาสได้เจอเจ้าตัวที่งานเปิดตัว เพอร์พีช ไฟเบอร์ เธอจึงได้ให้สัมภาษณ์ พร้อมเปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างสามี
เลิกกันจริงหรือคอนเทนต์?
มิ้วกี้ : มันไม่มีคอนเทนต์อยู่แล้ว ก็ขอหยุดความสัมพันธ์สามีภรรยาไว้ก่อน คือยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า แต่ว่าแยกกันอยู่ค่ะ
ถามถึงสาเหตุคืออะไร?
มิ้วกี้ : ไม่มีเรื่องชู้สาวเลย เราคบกันมา 8-9 ปี เราไม่เคยนอกใจซึ่งกัน และกัน มันเป็นเรื่องรายละเอียดเล็กๆ เท่านั้นเอง แต่ไม่มีชู้สาวแน่นอน 100% ถามว่าเป็นเรื่องสะสมหรืออย่างไร เป็นเรื่องที่หลายอย่างไม่เหมือนเดิม และเราก็รู้สึกว่าปีนี้เราก็อายุเข้า 34 แล้ว และเราก็รู้สึกว่าเราทำงานหนักมากเลย มิ้วกี้ เป็นคนทำงานหนักมากนะคะ และรู้สึกว่าอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของตัวเองให้มีความสุขที่สุด
ตอนที่ตกลงกัน พูดคุยกันนานไหม?
มิ้วกี้ : ก็มีการพูดคุยกันประมาณ 3 ปี เกี่ยวกับเรื่องเธอเปลี่ยนไปนะ มันเป็นรายละเอียดเล็กน้อยมาก คือที่เขียนว่าขอให้เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะมันเป็นเรื่องที่ถ้าบางคนฟังก็อาจจะมองว่ามันเล็กมากเลยนะ เราก็เลยไม่อยากจะพูดถึงตรงนั้น แต่บางทีเรื่องเล็กๆ มันก็สะสมกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ ก็เลยขอไม่พูดดีกว่า
แต่เมื่อปีที่แล้วหวานกันมาก?
มิ้วกี้ : จริงๆ เราก็มีมุมหวานกันอยู่แล้ว คือพี่ แดนนี่ เขาเป็นคนหวานอยู่แล้ว แต่ถ้าทุกคนได้ดูคอนเทนต์ล่าสุด จะเห็นสายตาของ มิ้วกี้ ที่เปลี่ยนไป คนก็ยังมาถามถึงวันเกิดที่ผ่านมาว่าสามีเซอร์ไพรส์ให้เงิน 1 ล้านบาท พร้อมกับรองเท้าคริสเตียนลูบูแตง อันนั้นมันก็เป็นสิ่งดีๆ ที่เรามอบให้กัน หรือเมื่อวันเกิดเขาวันที่ 28 ที่ผ่านมาก็มีของขวัญให้เขา แต่ถ้าทุกคนได้กลับไปย้อนดูคลิปดีๆ จะเห็นว่าสายตาหรือสีหน้าของเรามันไม่เหมือนเดิม
เหตุมันเริ่มมา 3 ปี แต่เลิกกันครั้งนี้เหมือนเราทั้งคู่ไม่มีอาการอะไรเลย?
มิ้วกี้ : หนูน้ำหนักลดลงไป 7 กิโลกรัมแล้ว กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ตื่นทุกชั่วโมง ก็คือนอนไม่ได้เลย เพราะเราเคยนอนกับคนๆ หนึ่งมา 8-9 ปีเนอะ มันก็เป๋นะ กินอะไรไม่ได้เลย ก็เสียใจและไม่รู้ว่าทางฝั่งคุณ แดนนี่ เขาเสียใจอย่างไร มีวิธีการแสดงออกอย่างไร เพราะเราก็ไม่ได้ถามเขาเหมือนกัน
ไม่ค่อยได้พูดคุยกันเหรอ?
มิ้วกี้ : แทบจะไม่ค่อยได้คุยกันเลยค่ะ ถามว่าได้ลองแก้ไขปัญหาแล้วใช่ไหม เคยคุยกันแล้วค่ะ ก็ดีอยู่แป๊บหนึ่ง แล้วก็เป็นอีก มิ้วกี้ ก็รู้สึกว่าความรักทุกสถานะมันต้องมีความสุขเท่าเดิม ถ้ามันเพิ่มขึ้นไม่ได้ก็ต้องเท่าเดิม แต่ถ้ามันลดลง มันผิดแล้วล่ะ
เราได้บอกเขาตลอดไหม ว่าเรารู้สึกว่าเขาไม่เหมือนเดิม?
มิ้วกี้ : ก็บอกเหมือนกันค่ะ ว่าเราไม่ชอบแบบนี้นะ เรารู้สึกว่าแบบนี้ควรที่จะเปลี่ยน แต่มันก็ไม่มีการเปลี่ยนเกิดขึ้น เราเลยรู้สึกว่าถ้าไม่เปลี่ยนเราก็ขอหยุดไว้ตรงนี้
ตอนที่เราบอกว่าหยุด เขาว่าอย่างไรบ้าง?
มิ้วกี้ : เขาก็ไม่โอเคอยู่แล้ว เพราะเขาไม่ได้เตรียมใจเรื่องนี้ แต่เราคิดมาแล้ว คิดมานานว่าถ้ามันไม่มีอะไรดีขึ้น คือเราเป็นเวิร์กกิ้งวูแมน ทำงานหนักมากๆ พี่ๆ ทุกคนจะเห็นว่า มิ้วกี้ ทำงาน ไม่ใช่แค่ทางด้านยูทูบเบอร์ หรือแค่อินฟลูเอนเซอร์ แต่ มิ้วกี้ มีธุรกิจหลายอย่างที่ต้องดูแล และการที่เราต้องดูแลทุกอย่างด้วย และลูกด้วย มันก็ยากพอสมควรสำหรับเราเนอะ ก็เลยคิดว่างั้นเราพอตรงนี้ดีกว่า
ในอนาคตจะมีโอกาสกลับมาไหม?
มิ้วกี้ : คุยนะ หลายคนคิดว่ามันเป็นการสร้างคอนเทนต์ แต่ มิ้วกี้ จะบอกตรงนี้เลยนะคะว่า มิ้วกี้ เป็นคนที่ไม่เอาเรื่องครอบครัวมาล้อเล่นแน่นอน เพราะว่าเรามีลูก วันหนึ่งลูกโตไปแล้วมาอ่านบอกว่าพ่อแม่เล่นตลกอะไรกัน วันนี้ดี พรุ่งนี้รัก ไม่แบบนั้นค่ะ แต่ถามว่าจะกลับมาดีกันไหม คิดว่าถ้าคู่กันแล้ว มันใช่ ก็มีคุยกันนะคะว่าตอนนี้เราต่างคนต่างอยู่ไปก่อน ถ้าอีก 1 ปีข้างหน้า 2 ปีข้างหน้า คุณลองไปใช้ชีวิตในแบบของคุณ เราลองไปใช้ชีวิตในแบบของเรา แล้วถ้าคุณยังไม่ได้มีใคร และเรายังไม่ได้มีใคร เราอาจจะวนกลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง แต่เรื่องนี้ก็ไม่แน่นอน แต่ตอนนี้คือเรื่องจริง ไม่ใช่คอนเทนต์
ตอนนี้อยู่คนละบ้านหรืออย่างไร?
มิ้วกี้ : จริงๆ บ้าน มิ้วกี้ มี 3 ชั้นนะคะ พี่ แดนนี่ อยู่ที่ชั้น 3 มิ้วกี้ อยู่ชั้น 2 แล้วเราแยกจริงๆ คือไม่มีการมารวมกันเลย ถามว่าทำไมถึงไม่แยกบ้าน ตอนแรกเราตั้งใจจะแยกบ้านไปเลย แต่มันก็หลายอย่าง เพราะเขาต้องไปส่งลูกทุกเช้า และด้วยการทำงานของเรามันไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว จะเจอกันเฉพาะตอนที่ประชุม แต่ มิ้วกี้ ก็เลือกที่จะให้เลขาเข้าไปประชุมแทน พอเราทำงานกลับมา เขาก็ยังไม่กลับ หรือบางทีเขากลับมาแล้ว ขึ้นนอนแล้ว เราก็ยังไม่กลับ ก็แทบจะไม่เจอกันเลย
ตอนอยู่บ้านก็จงใจเลี่ยงที่จะไม่เจอเลยใช่ไหม?
มิ้วกี้ : พยายามทำแบบนั้น คุณ แดนนี่ เขาก็พยายามจะลองหาคอนโดหรือบ้านที่อยู่ใหม่ แต่เราเข้าใจว่ามันไม่ได้ง่าย ไม่ใช่ 2-3 วันแล้วมันได้ คือเรายังมีความรักและความปรารถนาดีให้กันนะคะ ไม่ได้เกลียดกัน มิ้วกี้ พูดตรงนี้เลย หลายคนเลิกกันเพราะเกลียดกัน แต่ มิ้วกี้ ไม่เคยเกลียดพี่ แดนนี่ เลย เพราะพี่ แดนนี่ เขาเป็นคนดีมากๆ และ มิ้วกี้ ก็ยังเคารพเขาเหมือนเดิม แค่เรารู้สึกว่าเราไม่สามารถไปต่อในสถานะเดิมได้แค่นั้นเอง ก็เลยหยุดกันไว้ตรงนี้ แล้วก็รอให้เขาพร้อมที่เขาได้ที่อยู่ใหม่ที่โอเค แล้วค่อยไป ตอนแรกเราก็บอกว่าเราจะไปเอง เขาก็บอกว่าถ้าให้เราไป เขาไปเองดีกว่า
ถ้าระยะเวลา 2-3 ปีจากนี้เขาหรือเราไปเจอคนใหม่ล่ะ เรื่องการหย่าจะมีผลไหม?
มิ้วกี้ : มิ้วกี้ เชื่อว่าคู่เราคุยกันได้ เพราะว่าเรามีแต่ความรัก ความปรารถนาดีให้กัน ไม่มีคิดร้าย แต่เรื่องหย่าก็แอบมีคุยเหมือนกัน ว่าถ้ามันไม่ไหวจริงๆ ก็คงต้องหย่าให้มันเป็นเรื่องเป็นราว แต่จริงๆ ก็คิดถึงลูกนะ เพราะเขายังเด็กมาก
เราเตรียมคำตอบให้ลูกอย่างไร ถ้าวันหนึ่ง แดนนี่ ได้ที่อยู่ใหม่?
มิ้วกี้ : ความโชคดีของ มิ้วกี้ ตอนนี้คือลูกอยู่กับคุณยาย 90% เขานอนกับคุณยาย เลยทำให้น้องไม่ได้สับสนมากว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงแยกกันอยู่ เพราะกว่า มิ้วกี้ หรือพี่ แดนนี่ จะกลับบ้านก็ 4-5 ทุ่มแล้ว น้องหลับแล้ว เขาเลยจะอยู่กับคุณยายเป็นหลัก ก็เลยทำให้เราโชคดีไม่มีปัญหาเรื่องลูกจะสับสนว่าทำไมพ่อแม่ไม่ได้นอนด้วยกัน
ยืนยันว่าไม่มีมือที่สามแน่นอน?
มิ้วกี้ : ไม่มีค่ะ แต่ ณ ตอนนี้ก็ถือว่าเราแยกกันอยู่แล้ว ก็อิสระทั้งคู่นะค่ะ เราก็ต้องอิสระกับตัวเองเหมือนกัน เขาก็ต้องให้เขาเองเหมือนกัน เรื่องมือที่สามไม่มีๆ มิ้วกี้ บอกเลยว่าซีเรียสเรื่องนี้มาก ตอนแรกจะไม่เขียนอะไรเลย เราคุยกันว่าเราจะเงียบ และไม่พูดอะไรเลย แต่เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งเลยว่าสังคมไทยไม่เปิดกว้างให้กับผู้หญิงมากนัก สมมติ มิ้วกี้ ออกไปทำงานกับน้องตากล้อง แล้วนั่งกินข้าวคู่กันหล่ะ ภาพออกมามันไม่ดี จริงๆ ก็เริ่มมีคนส่งข้อความมานะว่าช่วงนี้ทำไมแม่กับพ่อไม่ลงรูปคู่กันเลย หลายอย่างมันไม่เหมือนเดิม มีอะไรหรือเปล่า แต่เราก็ไม่ได้เลือกที่จะตอบ มิ้วกี้ มองว่าสังคมไทยไม่เปิดรับเท่าไรเกี่ยวผู้หญิง อย่างที่บอกถ้าวันหนึ่งไปกินข้าวกับตากล้องแล้วโดนถ่ายรูป ต่อมามีอักษรย่อว่ายูทูบเบอร์นี้ๆ ไปเมากับผู้ชาย ก็กลายเป็นว่าเราผิดอีก เพราะเราไม่ได้มีการแจ้งไว้ก่อนว่าเราได้แยกกัน นับตั้งแต่มกราคมจนถึงตอนนี้ก็ 3 เดือนแล้วนะ ก็เลยตัดสินว่าเราควรจะบอกให้ทุกคนรู้ และเราทำงานตรงนี้ คนก็อยากรู้เรื่องเราเยอะ ก็เลยตัดสินใจโพสต์ ตอนโพสต์ก็คิดดีแล้ว ถ้าพี่ แดนนี่ ไปนั่งกับผู้หญิง ไม่เป็นไร แต่ถ้า มิวกี้ ไปนั่งกับผู้ชายหล่ะ แต่ 3 เดือนนี้เราหยุดความสัมพันธ์ไปแล้วนะ แต่ไม่มีใครรู้ แต่ถ้า มิ้วกี้ เกิดไปกินข้าวกับใครคนหนึ่งขึ้นมาก็กลายเป็นคดีพลิก กลายเป็น มิ้วกี้ ผิด มีผู้ชายคนอื่น งั้นก็โพสต์ดีกว่าจะได้จบเรื่อง
วันนี้มุมมองความรักเป็นอย่างไร?
มิ้วกี้ ยังเชื่อในความรักอยู่นะคะ เรายังอก 34 เอว 22 สะโพก 37 ผมดำยาวถึงกลางหลัง เนินอกเราขาวจั๊วะ ก็คิดว่าเราน่าจะยังหาได้อยู่ ฝ่ายชายเขาก็แซ่บ เดี๋ยวนี้เขาก็แซ่บมาก เขาก็ยังหาได้อยู่ มิ้วกี้ เชื่อว่าต้องมีใครที่รักเราบ้างแหละ เพราะเราก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ ทำงานก็เก่ง หาเงินก็เก่ง ก็เปิดค่ะ แต่ไม่เห็นมีใครเข้ามาจีบเลย
ถามว่าจะสกรีนผู้ชายที่จะเข้ามาอย่างไร?
มิ้วกี้ : ไม่เลย เพราะพี่ แดนนี่ ไม่ได้มีอะไรแย่เลย หมายความว่าถ้าให้ย้อนเวลากลับไปได้ก็ยังเลือกเขาเป็นพ่อของลูก แต่มันเป็นแค่ปัญหาจุกจิกที่รู้สึกว่าเราไม่ชอบ และเราอยากให้เขาเปลี่ยน เราพยายามแล้วนะว่าเราเปลี่ยนเขาไม่ได้ เราก็เปลี่ยนตัวเราเอง เมื่อก่อน มิ้วกี้ ใจร้อนมาก ไม่ยอมอะไรทั้งสิ้น แต่ทุกวันนี้กลายเป็นไม่เป็นไร กูยอมเองก็ได้ ก็เบลอๆ มันไป แต่บางครั้งในเรื่องที่เราเบลอมากๆ มันสะสม มันกินใจเราไปทุกวัน แล้วมันระเบิดตู้มขึ้นมา ก็ช็อกเหมือนกันนะ
รักษาโรค ซึมเศร้า มา 4 ปี ตอนนี้ต้องไปขอยาเพิ่ม?
มิ้วกี้ : คนจะเข้าใจว่าคนที่บอกก่อนต้องไม่เสียใจ แต่คนใกล้ชิดจะรู้ว่านอนไม่ได้ ตื่นทุกชั่วโมง กินข้าวไม่ได้ ต้องไปหาคุณหมอ เพราะมิ้วกี้รักษาโรค ซึมเศร้า มา 4 ปีแล้ว ก็ต้องไปหาคุณหมอเพิ่ม เพราะนอนไม่หลับ กินข้าวไม่ได้ คุณหมอก็แนะนำให้ทานยาเพิ่ม
มีวิธีให้กำลังใจตัวเองยังไงในฐานะที่เราเป็นโรค ซึมเศร้า อย่างไร?
มิ้วกี้ : มิ้วกี้ จะบอกว่าทุกครั้งที่เกิดปัญหาขึ้น เราจะมีช่วงที่เราดาวน์ของเรา แต่ มิ้วกี้ จะนึกถึงเสมอว่าเราต้องสู้ คนตายเท่านั้นที่จะไม่สู้นี่คือคติประจำใจของ มิ้วกี้ เลย อีกอย่างนึงแฟนๆ ก็รอเรา ทั้งคอมเมนต์หรือข้อความที่เราได้รับ เรารู้สึกว่าอยากช่วยคนอื่นมากๆ เหมือนกัน ก็อยากจะบอกว่าวันนี้มันอาจจะเป็นวันที่แย่สำหรับเรา แต่พรุ่งนี้เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น มันจะดีขึ้นทุกๆ วันค่ะ
อีจันบันเทิงก็ต้องขอเป็นกำลังใจให้กับ มิ้วกี้ ไปรยา และ แดนนี่ ดานิเอล เบล็สซิ่ง ด้วยนะคะ อย่างไรก็ตามแอดเชื่อว่าทั้งคู่ก็ยังคงมีแต่ความปรารถนาดีต่อกัน และทำหน้าที่คุณพ่อ คุณแม่ ของน้องกาเนส ได้เป็นอย่างดีแน่นอนค่ะ