นักแสดง หนุ่มรุ่นใหญ่ เคลลี่ ธนะพัฒน์ ที่จะมาเปิดใจครั้งแรกเรื่อง ความรัก กับสาวนอกวงการ คุณ พลอยไพลิน ภมรมนตรี หลานสาวของพระเอกรุ่นใหญ่ แซม ยุรนันท์ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บโชว์
50 ปีแล้วจริงๆ เหรอ?
เคลลี่ : 51 ครับ
ตอนนี้สถานะหัวใจไม่โสดแล้ว?
เคลลี่ : ตอนนี้พี่แฮปปี้นะครับ สบายใจ ช่วงนี้มีความสุขครับ หลายๆ เรื่องเราก็สบายใจขึ้น ในชีวิตผ่านทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดีมาเยอะ ช่วงนี้เรารู้สึกว่าเราสบายใจแล้วเริ่มมีความสุข
เรียกว่าเป็นการเริ่มมูฟออน ภาษาวัยรุ่นคือมูฟออนได้แล้ว?
เคลลี่ : ใช่ครับ ถือว่ามูฟออนได้แล้วครับ
มีคนเห็นว่าไปทะเลมา?
เคลลี่ : พี่เป็นคนทำอะไรไม่เคยปิดอยู่แล้ว อะไรใช่ก็ใช่ ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ภาพแรกที่เห็นที่ร้านกาแฟไปทั้งทำงานและเที่ยว ในไอจีเราลงอะไรที่เป็นไลฟ์สไตล์เรา ในสิ่งที่เราแฮปปี้ แต่ผมไม่ได้คิดว่ามันจะไวรัลขนาดนี้ ไม่ได้คิดว่าเพื่อนจะเข้ามาแซวขนาดนี้ ก็น่ารักดี วันนั้นไปนั่งทานกาแฟ เห็นรูปมันน่ารักดี ผมก็เลยลงไป
อย่างนี้ถือว่าเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไหม?
เคลลี่ : เปิดตัวไหม ก็อย่างที่บอกในระดับหนึ่ง อะไรที่ผมลงในไอจีแล้วมันคือสิ่งที่เราสบายใจ เราแฮปปี้กับตรงนี้ พี่เป็นคนทำอะไรค่อนข้างเต็มที่ จริงจังไม่ว่าเรื่องของงานหรือเรื่องของความรัก ในด้านของความรักเราทั้งจริงจังและจริงใจในครั้งนี้ก็เหมือนกัน ที่ผ่านมาอาจจะผิดพลาดไปบ้าง เวลาทำอะไรทุกวันนี้ เวลาเปิดใจให้ใครมันต้องคิดหนัก มันยากมันไม่ได้ง่าย ที่ผ่านมาก็มีบ้างมองเราในภาพลบเป็นคน เจ้าชู้ แต่ที่ผ่านมา 20 ปี มีแฟน 4 คน ทุกครั้งที่เราคบกับใครถ้าถามผมก็ตอบ ถ้าคนไหนที่เราคิดว่าเราเปิดใจให้ ผมก็จะบอกว่าใช่ ถามว่าครั้งนี้เปิดใจไหม ใช่ครับ ช่วงนี้กำลังเรียนรู้กัน
น้อยใจไหมที่สังคมมองภาพเราว่า เจ้าชู้ ทั้งที่ผ่านมามีแฟนแค่ 4 คนเอง?
เคลลี่ : ก็มีบ้าง แต่มันก็ผ่านตรงนั้นไปแล้ว มันชินในระดับหนึ่ง แต่มันก็มีอยู่ถ้าบางทีใครพูดแรง เห้ย…คุณยังไม่รู้จักผมเลย ผมอยู่ในวงการมา 20 กว่าปี ข่าวก็เห็นมาก็รู้ว่าผมเป็นคนอย่างไร แต่ยังมาว่าเรา มาด่าเราว่าเราเป็นคน จ้าชู้ ไม่จริงใจกับใคร เราก็เสียใจนะ
พี่อยากจะบอกอะไรกับคนเหล่านั้นให้เขาเข้าใจในตัวตนของเราว่าเราไม่ได้เป็นคนแบบนั้นนะ?
เคลลี่ : ไม่ได้มีอะไรต้องบอกหรอกครับ เราอยู่ในที่แจ้ง เราเป็น คนสาธารณะ มา 20 กว่าปี ชีวิตเราแทบไม่ได้มีความเป็นส่วนตัวเลย ดูจากข่าวที่ผ่านมาก็ได้ ก็จะเห็นเองว่าเราเป็นคนอย่างไร
พี่โสดมาปีกว่าๆ คนก็จะมองว่าเร็วไปไหมที่จะ เปิดตัว ?
เคลลี่ : เราจะคุยกับใคร คบกับใครเราต้องให้เกียรติเขา เรื่องของเร็วไปไหม ต้องบอกว่าเรื่องที่เราจะเจอใครไม่ได้เป็นสิ่งที่เรากำหนดได้ว่าวันนี้ พรุ่งนี้ ก็เคยคิดนะชีวิตนี้อาจจะไม่เจอใครอีกก็ได้ ที่เราคิดว่าเราจะถูกใจ แต่ในเมื่อเราคบคนที่เราสบายใจ เรารู้สึกดีที่เราคุยด้วย อยู่ด้วย ผมว่ามันไม่ได้มีคำว่าเร็วไป แต่นี่ก็ประมาณปีกว่าๆ แล้ว
คุณพลอยว่าอย่างไรบ้าง?
เคลลี่ : เขาอาจจะมีอะไรบางอย่างที่เขายังไม่ชิน อย่างการลงรูป แค่ลงรูปเดียวมันก็เป็นข่าว เป็นประเด็นอาจจะที่เขาเป็นคนนอกวงการ อาจจะไม่ชินเรื่องของการ เสียความเป็นส่วนตัว คือเขายังมีความเป็นส่วนตัวสูง ที่เราคุยกันและรู้สึกดีคือต่างคนก็โตที่ต่างประเทศ ตัวพลอยเองก็ทำงานต่างประเทศมา ใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกมากกว่าในประเทศไทย แต่พอมาตรงนี้ การลงรูป บางทีผมก็ลืมตัวนะว่าเราเป็นคนที่เขาจับตามอง บางทีลงรูปไป เอ้า…ทำไมมันเป็นประเด็นขึ้นมา
การที่พี่ เคลลี่ เปิดใจคุยกับสาวคนใหม่ ทำให้พี่แฮปปี้มีความสุขมากๆ ชีวิตเปลี่ยนไปเลย?
เคลลี่ : ช่วงนี้มีคนแซวว่าทำไมเดี๋ยวนี้ตื่นเช้าจัง คือปกติตื่นมาทำงาน ไปกองถ่าย ยิ่งตอนโควิดนี้เราอยู่บ้าน บางทีเรานั่งอยู่ที่บ้าน ดูหนังบ้าง สังสรรค์กับเพื่อนบ้าง จะตื่นเมื่อไรก็ได้แต่ช่วงนี้กลายเป็นคนตื่นเช้า เนื่องจากเขาทำงานประจำ เรื่องของเวลามันจะต่างกัน ก็เจอกันตอนเช้าไปนั่งทานกาแฟก่อนเขาเข้างาน
เหมือนชีวิตย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กๆ รู้สึกไหม?
เคลลี่ : ก็นิดหนึ่งนะ
คุณพลอยเป็นหลานสาวของพี่ แซม ยุรนันท์ ?
เคลลี่ : ใช่ครับ ตอนที่เจอกันแรกๆ ก็ไม่รู้นะ แต่พอทราบแล้วก็ไปเจอพี่แซมที่ภูเก็ต เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร พี่แซมมีศักดิ์เป็นอา
จุดเริ่มต้นที่เจอกับคุณพลอย เจอกันได้อย่างไร?
เคลลี่ : ทางพลอยเองก็เป็นเพื่อนของกลุ่มเพื่อนผมอีกที ไปเจอกันในงานวันเกิดของเพื่อน น่าจะเป็น 2 คนที่โสดอยู่ในงาน เพราะคนอื่นก็จะแต่งงานกันหมดแล้ว คือตอนแรกยังไม่ถือว่าปิ้งกันครับ แค่นั่งคุยกัน ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้คิดถึงขั้นว่าจะจีบคนนี้
แล้วหลังจากงานนั้น อะไรที่ทำให้เราอยากทำความรู้จักคุณพลอยให้มากขึ้น?
เคลลี่ : ก็ได้มีการคุยกันผ่านไลน์บ้าง คือเพื่อนผมจัดงานวันเกิด แล้วจัดหลายวันก็ต้องไปเจอกันต่อ แล้วก็ได้ไปเจอกันอีกครั้ง ได้นั่งทานกาแฟ พอคุยมีความรู้สึกว่าอย่างแรกเลย พี่คุยกับเขาเป็นภาษาอังกฤษ คือพี่โตเมืองนอกมา ตอนกลับมาเมืองไทย ภาษาไทยเราก็ไม่แข็งแรง พอเราได้พูดภาษาอังกฤษก็รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่เราสบายใจ ความคิดการพูดมันก็จะอีกแบบหนึ่ง เวลาที่เราสื่อสารกันมันเหมือนอะไรที่มันเชื่อมต่อกันมากกว่าในการที่เราได้ใช้ภาษาอังกฤษบางทีเราพูดภาษาไทย ผมอยากพูดแบบนี้ แต่ผมนึกคำไม่ได้ ใช้คำที่มันผิด แต่ภาษาอังกฤษเราเข้าใจเลยว่าความหมายอย่างนี้
ตอนนี้คุณพลอย ทำงานอยู่ที่ไหนอย่างไร?
เคลลี่ : เขาเป็นคนเก่งมากเลยครับ เขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ก่อนหน้านี้เขาเป็นผู้จัดการ เขาเป็น GM ในยุโรปดูแลของสายการบินไทยในหลายประเทศ แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำสายการบินแล้วครับ มาทำงานกับอีกบริษัทหนึ่งในกรุงเทพครับ
อายุห่างกันกี่ปี?
เคลลี่ : ห่างกัน 10 ปีครับ เขาเป็นคนน่ารักมากคือเขาโตต่างประเทศ แต่เขาก็มีความเป็นไทยมาก เรื่องการดูแลเอาใจใส่รายละเอียดต่างๆ เขามีความเป็นไทยสูงมาก แม้จะโตต่างประเทศที่บ้านเขาก็เลี้ยงเหมือนคนไทย
ศึกษาดูใจ คุยกันมาขนาดไหนแล้ว?
เคลลี่ : 2-3 เดือนครับ เป็นช่วงที่กำลังศึกษากันอยู่ เราเคยผิดพลาดมาแล้ว บางทีเราก็ไม่อยากออกมาพูดอะไรมากเราไม่อยากผิดพลาดไปอีก หรือทำให้อีกฝ่ายเกิดความเสียหายขึ้นมา ทุกวันนี้เราก็ต้องปรับ ต่างคนก็ต่างเกิดกันต่างครอบครัว ประสบการณ์ก็ต่างกัน เราเจอกันก็ต้องมีการจูน การปรับตัวเข้าหากัน เราผ่านประสบการณ์เรื่อง ความรัก มาแล้วอะไรที่เราเคยผิดพลาด เราก็ต้องแก้ไข ก็ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป
ผู้ชายคนนี้เป็นคนสวีทไหม?
เคลลี่ : พี่คิดว่าพี่เป็นคนสวีทนะครับ
พี่ถือเป็นคน คลั่งรัก ไหม?
เคลลี่ : เรื่อง ความรัก เป็นเรื่องสำคัญนะครับ ถึงบอกว่าเวลาเรามี ความรัก ครั้งหนึ่ง ผมจริงจังมาก แล้วถ้ามีความรักแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดหรือมีการผิดพลาดก็เสียใจมากเช่นกัน ผมอาจจะไม่ใช่วัยรุ่นเลยอาจจะไม่ค่อยเข้าใจศัพท์ แต่ถ้าถามว่าจริงจังกับ ความรัก ไหม ก็เป็นนะครับ เวลาเรา อินเลิฟ กับใคร เราก็จะนึกถึงเขาตลอด เขาจะลอยมาในความคิดเราตลอด
กินไอติมต้องวีดิโอคอลด้วยเหรอ?
เคลลี่ : ในภาพนี้ไม่ได้วีดิโอคอล คือผมแกล้งแอบถ่ายรูปพลอย ตอนเขาทานไอติมอยู่ แล้วพอผมถ่ายรูปผมก็วาง หน้าจอมันก็ยังไม่ดับ เขาก็เลยเหมือนแกล้งถ่ายรูปผมกลับ
ความรักครั้งนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง?
เคลลี่ : พี่รู้สึกว่าครั้งนี้พี่ คลั่งรัก มากครับ
เรียกได้ว่า คลั่งรัก หนักมากจริงๆนะคะ สำหรับหนุ่ม เคลลี่ ธนะพัฒน์ อีจันบันเทิงก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยกับ รักครั้งใหม่ แต่อย่าหวานกันมากเลยนะคะ สงสารคนไม่มีคู่อย่างแอดนิดนึงเนอะ อิจฉาไปหมดแล้ว