เคลียร์​ชัดทั้งสองฝ่าย​ กรณีดัง​ กระเป๋าแบรนด์เนม​เจ้าปัญหา

เคลียร์​ชัดทั้งสองฝ่าย​ กรณีดัง​ กระเป๋าแบรนด์เนม​เจ้าปัญหา​ เจ้าของ​ กระเป๋าแบรนด์เนม​ ยันให้ทำตามคำพูด​

จากกรณีดัง กระเป๋าแบรนด์เนม​เจ้า​ปัญหา​ ที่คุณ​ ชมพู่​ ​จิดาภา​ เจ้าของกระเป๋า Hermes Constance 24   ได้นำกระเป๋าใบดังกล่าวไปขายให้ ทีน่า​ เจ้าของร้านขาย และรับซื้อของแบรนด์​เนม​ แต่กลับถูกกล่าวหาว่าขาย​ กระเป๋าปลอม​ ให้​ จึงใช้ปากกากเขียนลงบนกระเป๋าว่าปลอม​ และไม่ยอมคืนกระเป๋า​ เพราะกลัวว่าจะนำไปหลอกขายที่อื่นต่อ​ พร้อมทั้งท้าพิสูจน์​ หากกระเป๋าในนี้เป็นของแท้จริง​ ทีน่า​ เจ้าของร้าน จะโอนเงินให้​ ชมพู่​ เป็น เงิน​ 2​ ล้านบาท​ พร้อม เลิกเป็นกะเทย​ และเปลี่ยนชื่อเป็น​ สรพงษ์

ต่อมา​ กระเป๋าแบรนด์เนม​ ใบดังกล่าว​ ได้รับการตรวจพิสูจน์จากสถาบัน Catch Fake Brandname​ ยืนยัน​ว่าเป็นของจริง​ เจ้าของร้าน​ ทีน่า​ จึงโอนเงินจำน​วน​ 3950,000 บาท​ คืนให้​เจ้าของกระเป๋า​ แต่​ ชมพู่​ ไม่ยอมรับ​ ยืนยันอยากให้เจ้าของร้านทำตามคำพูด​ คือจ่ายเงิน​ 2​ ล้าน​ และเลิกเป็นกระเทย​ พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น​ สรพงษ์​

โดย ชมพู่​ จิดาภา​ เจ้าของ​ กระเป๋าแบรนด์เนม​ มาพร้อม​ ทนายเกิดผล​ แก้วเกิด​ ที่จะมาเคลียร์​ประเด็น​ กระเป๋า​แบรนด์เนม​เจ้าปัญหา​ กับ ทีน่า​ เจ้าของร้านขาย และรับซื้อของแบรนด์​เนม​ ที่มาพร้อมเพื่อนอีกสองคน​ ในรายการ​ โหนกระแส​ โดยมี ครูเจี๊ยบ และครูพิชญ์ สถาบันตรวจสอบกระเป๋า นำ​ ผลการตรวจสอบกระเป๋า​ มายืนยัน และ​ ครูเอ็ด ชานนท์ แตงโสภา จากสถาบัน Catch Fake Brandname มาเป็นพยาน​ และผู้รู้อีกหนึ่งคน

เกิดอะไรขึ้น?

ชมพู่ : หนูอยากขาย​ กระเป๋าแอร์เมส เลยเสิร์จหาร้านที่เขารับซื้อ และเจอร้านนี้ แบรนด์เนม168 เจอในเว็บไซต์ และไอจี หนูเห็นว่ามีหน้าร้าน ดูน่าเชื่อถือ หนูเลยทักขายไป แต่ทักหลายร้านเหมือนกันค่ะ แต่ร้านเขาให้ราคาดีที่สุด​ เลยเลือกร้านเขา เขาให้ 395,000 บาทค่ะ กระเป๋าใบนี้อยู่กับหนูก่อน แล้วส่งให้เขาตรวจสอบ ส่งไปทางเคอรี่ค่ะ

เขาติดต่อมาว่า?

ชมพู่ : เขาบอกว่าได้รับแล้ว ขอเช็กของก่อน  หนูก็โอเค แล้วเขาบอกว่าแม่​ ทีน่า​ ไม่ว่างติดธุระอยู่ แล้วหายไป 1 วัน หนูเลยโทรไปเบอร์แอดมิน เขาบอกว่าเดี๋ยวเช็กให้แล้วหายไป หนูเลยทักไปอีกรอบ เพราะรู้สึกกังวลใจ ถ้าไม่สะดวกโอน ขอกระเป๋าคืนได้ไหม แล้วหนูก็โทรไปหาเบอร์เจ้าของร้านอีกรอบหนึ่ง เขาบอกขอเช็กก่อน แล้วก็วางไป สักพักเขาติดต่อกลับมาว่าไม่ต้องกังวลนะคะ ของปลอม มารับคืนได้เลย

เราทำอย่างไร?

ชมพู่ : หนูก็งง หนูก็ ห๊ะ ปลอมเหรอ

ทางทีน่าดูว่าปลอมแล้วไม่คืน แล้วทำอย่างไร?

ชมพู่ : เขาเอาปากกาขีดหน้ากระเป๋าแล้วเขียนว่าปลอมค่ะ

หลังจากนั้นทำอย่างไร?

ชมพู่ : หนูก็ถามเขาว่าปลอมเหรอคะ ปกติหนูขายของหนูก็ไม่ปลอม หนูเลยบอกว่าหนูขอติดต่อพี่ที่ซื้อมาก่อน เขาก็งงเหมือนกันว่าปลอมได้ไง หนูเลยบอกว่าขอคืนได้ไหม เดี๋ยวจะไปเช็กกับที่ซื้อมา เขาบอกว่าไม่ได้ ของปลอมคืนไม่ได้ ต้องทำลาย เพราะเดี๋ยวถ้าปล่อยไปก็จะไปเดือดร้อนร้านอื่น หลังจากนั้นหนูก็เลยโทรไปหาเขาอีก บอกว่าขอคืนได้ไหม เขาบอกให้ไปเอาที่โรงพัก แล้วอยู่ๆ ก็มีผู้ชายโทรมาหาหนู บอกว่าเป็นพี่ชายเขา บอกว่าอยู่โรงพักให้มาเอาที่โรงพัก ทีแรกเขาให้หนูไปเอา เขาบอกมาได้เลย เขาปักหมุดให้หนู หนูเลยให้แมสเซ็นเจอร์วิ่งไปรับ แต่เขาปักหมุดที่วัด พอแมสฯ ไปถึงก็โทรมาหาหนูบอกว่าถึงแล้ว แต่อยู่ที่วัดค่ะ ไม่ได้ของ หนูก็เลยโทรไปหาเขา เขาก็บอกว่าไม่คืน บอกว่าให้เจ้าของมาเอาเอง หนูก็อธิบายไปแล้วว่าหนูอยู่เชียงใหม่ จะเอาไปเช็ก ถ้าปลอมจะบอกพี่อยู่แล้ว แต่มั่นใจว่าไม่ปลอมแน่นอน

ทีน่าเกิดอะไรขึ้น เอาตามข้อเท็จจริง ไม่ด่านะ?

ทีน่า : ไม่ด่าค่ะ (หัวเราะ) เราถามเขาไปว่ากระเป๋านี้ซื้อร้านไหน เราคุยกันไม่เคลียร์ ก็รู้สึกว่าเราเคยโดนสไตล์นี้ ถ้าปลอมไม่เหมือนเราจะไม่ซีเรียส แต่อันนี้มันก้ำกึ่งมากๆ เราเลยโทรถามว่าซื้อจากร้านไหน ก็ได้คำตอบที่ไม่เคลียร์ ได้คำตอบที่ไม่ชัวร์ พอเราถามแมสเขาบอกวิ่งให้คุณชมพู่เราก็คิดว่าอ้าว ชมพู่อยู่โน่น ทำไมมีแมสฯ ที่นี่ แต่ประเด็นนี้ไม่เป็นไร เราก็ถามไป พอเขาบอกของจริง เราก็บอกว่าเราขอเช็กกระเป๋า ถ้าของจริงเราจะซื้อ

คุณขอซื้อใบนี้ราคาเท่าไร?

ทีน่า : 3.95 แสน ราคาตอนแรกเขาขอ 3 แสนนิดๆ 3 แสนขึ้นค่ะ เด็กที่ร้านคุยค่ะ ตอนแรกน้องให้ไป 3.5 แสน ก่อน แล้วมา 3.7 แสน​ แล้วถึงมา 3.95 แสน

ทำไมเป็นสเต็ปแบบนั้น?

ทีน่า : เราก็เลยสงสัยว่าทำไมมันดูแปลกๆ เราก็เลยเข้าไปดู

ตอนแรกชมพู่เสนอขายเท่าไร?

ชมพู่ : ตอนแรก 3 แสนขึ้น ที่เป็นแบบนั้นเพราะหนูถามอีกร้านเหมือนกัน เขาให้ 3.5 แสนเท่ากัน  หนูก็เลยตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกร้านไหน

ตอนแรกคุณจะไม่ขายให้เขาแล้วเพราะราคา 3.5 แสนเท่ากัน ทีน่าบอกขอ 3.7 แสน ให้ลูกค้า หลังจากนั้นคุณก็บอกว่าเครียด อีกร้านให้ 3.7 แสนเหมือนกัน หนูก็จะไปขายเขาอีก ทางนี้บอกว่าได้ งั้นให้ 3.95 แสน เหมือนประมูลกัน?

ชมพู่ : ใช่ค่ะ ก็เขาให้เยอะไงคะ หนูถึงเลือกร้านเขา

ปั่นราคาไหม?

ชมพู่ : ไม่ได้ปั่นค่ะ เขาให้เรามากก็ต้องเอาค่ะ

คุณให้ 3.95 แสน?

ทีน่า : ถ้าได้ราคานี้ก็ถูกอยู่นะคะ ราคาไม่แพง

คุณเปิดรานขายกระเป๋ามานานหรือยัง?

ทีน่า : 4 ปีแล้วค่ะ

แม่นแค่ไหนในการดู​ แอร์เมส​ ?

ทีน่า​ : ไม่เคยพลาดเลยสักครั้งนะคะ  แต่เคยพลาดมาครั้งหนึ่ง เพราะความสนิท ความเชื่อใจ เห็นเขาเป็นคนในวงการ ความเชื่อใจ แต่พอขายไปปุ๊บไปมีปัญหา

จุดไหนคิดว่าปลอม?

ทีน่า : ยาแนวปลิ้นออกมา ก็รู้สึกว่าเคยเจอแบบนี้ ที่เป๊ะเวอร์ๆ แบบนี้ ก็คิดว่าไม่ใช่แล้ว เราก็อยากพิสูจน์

อยากพิสูจน์หรืออยากเอาชนะ?

ทีน่า : เราก็ซื้อไงคะ จะได้ไม่เสียกันทั้งสองฝ่าย 

คุณก็เขียนว่าปลอม?

ทีน่า : เพราะเราซื้ออยู่แล้วค่ะ เราซื้อแน่นอน

แต่คุณบอกเขาว่าใบนี้ปลอม?

ทีน่า : เขาบอกแท้ แต่เราบอกปลอม โอเคเราซื้อ ตอนแรกยืนยันไม่ได้นะคะ

ถ้าปลอม คุณก็จะจ่าย 3.95 แสนเหรอ?

ทีน่า : ใช่ค่ะ เราจะไปพิสูจน์ทีหลัง ตอนแรกขอแค่ให้ชัวร์ คือเราโกงเขาไม่ได้แน่นอน เพราะเรามีหน้าร้าน

คุณเขียนปลอมบนกระเป๋าของเขาทั้งที่ยังไม่ทันได้โอนเงินให้เขา คุณคิดว่าถูกต้องเหรอ?

ทีน่า : อาจจะไม่ถูกต้อง ตรงนั้นเราอาจจะผิดพลาด พลาดที่ไปเขียน เพราะเราต้องการพิสูจน์ แต่อย่างไรเรารับผิดชอบแน่นอน การันตี

มั่นใจว่าเราแม่น?

ทีน่า : ใช่ค่ะ เราตั้งใจไว้แล้ว เรากลัวว่าถ้าจ่ายเงินไปแล้ว เป็นของปลอม เราจะเอาคืนไม่ได้ ไม่รู้จะตามกับใคร

การที่คุณไปเขียนโดยที่ยังไม่ได้พิสูจน์จากร้าน​ หรือคนที่แม่นกว่าคุณ หรือขอหลักฐานเขาบ้างไหม?

ทีน่า : ขอค่ะ โทรไปถาม แต่ก็ไม่ได้ยืนยันค่ะ

ชมพู่ : หนูให้เบอร์ร้านที่หนูซื้อไป พี่คนนี้หนูรู้จักกัน​ และเขาใช้​ แอร์แมส​ ตลอด เขาใช้ของแท้ตลอด หนูก็บอกว่าถ้าปลอมเอากลับคืนมาสิ เดี๋ยวหนูจะเอาไปเช็ก เพราะพี่ยังไมได้เสียเงินให้หนูสักบาทเดียวเลย

การไปเขียนโดยที่ไม่รู้ว่าปลอม หมายถึงคุณซื้อแล้วใช่ไหม?

ทีน่า : เราต้องการพิสูจน์ เราซื้อแน่นอน

ถ้าปลอมจะโอนเงินให้เขาไหม?

ทีน่า : ถ้าปลอมก็คือปลอม ปลอมก็ไม่โอนไงคะ

แต่ตอนนั้นคุณยังไม่รู้ไงว่าจริงหรือไม่จริง?

ทีน่า : เราถึงต้องรอการันตี ไม่ต้องกลัว เราซื้อแน่นอน แต่ถ้าปลอมเราก็ไม่ซื้อ เราขอพิสูจน์แป๊บหนึ่ง จริงๆ อยากโอนให้เลย แต่ไม่รู้ทำไง โอนแล้วหายไปเลยก็ไม่รู้จะตามที่ไหน ถ้าเรารู้จักเขาก่อนเราก็โอนเงินไปให้ได้เลย

ประเด็นไม่ได้จบแค่ตรงนั้น เหมือนเวลานั้นคุณบอกว่าถ้าไม่แท้ ขอทิ้งเลย ไม่จ่าย ทำไมอยู่ดีๆ ถึงไปประกาศเรื่อง​ เงิน 2 ล้านบาท มันเป็นการตอกฝาโลงเลยว่าคุณมั่นใจว่าปลอมทั้งที่ยังไม่ได้พิสูจน์?

ทีน่า :  เหมือนทุกคนก็พูดใส่เรา เราก็เลยพูดพนันไปเลย เงิน​ 2 ล้านบาท​ กับเพื่อนเรา เราพูดสไตล์เรา เราไม่ได้พูดว่าเราตกลงกับเขา 2 ล้าน เราพูดสไตล์สาวประเภทสอง พูดสไตล์เชิดๆ ทำนองนั้น

คะนองปาก?

ทีน่า : (พยักหน้า) จะพูดอย่างไรล่ะ

คำพูดมันคือนายคน?

ทีน่า : ใช่ เรารู้ แต่ตรงนี้เราไม่ได้พูดว่าการันตีในการขายเรา เรารู้อยู่แล้วว่าเราทำอะไร เราพูดให้ดูเฮฮา

แต่เขาไม่เฮด้วยไง?

ทีน่า : แต่เราจ่ายเขาแน่นอน ตามราคาที่ตกลง 3.95 แสน เขาได้เงินแน่นอน ไม่ต้องกลัวไม่ได้เงิน

คุณจะ​ เลิกเป็นกะเทย เปลี่ยนชื่อเป็น​ สรพงษ์​ ?

ทีน่า : เลิกเป็นได้หรือเปล่า (หัวเราะ)

คนเขาก็รอไง คุณบอกถ้าพิสูจน์มาแล้วเป็นของแท้ คุณจะเปลี่ยนชื่อเป็น​ สรพงษ์​ ?

ทีน่า : เปลี่ยนไม่ได้หรอกค่ะพี่ ใครจะเปลี่ยนได้พี่ ดูสภาพหนูสิคะ

เข้าใจเพศสภาพ คุณรักในสิ่งนี้ไม่มีใครว่า วันนี้จะเปลี่ยนเป็นผู้ชายคงทำไม่ได้ แต่สิ่งที่คะนองบอกไปทำไม่ได้ แค่สิ่งที่คุณทำได้ เปลี่ยนชื่อ​ สรพงษ์​ ได้ไหม?

ทีน่า : มันเข้ากับหนูเหรอคะ (หัวเราะ)​

ก่อนหน้านี้ชื่ออะไร?

ทีน่า : มงคลศักดิ์ค่ะ 

เปลี่ยนได้ไหม ชาวเน็ตจะได้จบ?

ทีน่า : จริงๆ แล้วเราการันตีทุกอย่าง แต่เรื่องนี้เราพูดสนุก เฮฮา 

แต่คนดูไม่สนุกไง?

ทีน่า : ลูกค้าได้เงินอยู่แล้ว เราพูดแล้วไม่ใช่ว่าลูกค้าขาดทุน ไม่ใช่นะคะ

ให้ดูกระเป๋า ใบนี้แท้ไหม?

ทีน่า : ไม่แท้ค่ะ

อีกใบล่ะ แท้ไหม?

ทีน่า : ใบนี้แท้ค่ะ

กรณีนี้ถ้าผลออกมากระเป๋าที่เขียน เป็นของแท้ขึ้นมาเขาจะโดนอย่างไรบ้าง?

ทนาย : สิ่งที่​ ทีน่า​ พูดก็เป็น​ หมิ่นประมาท กล่าวหาว่าเขามอบของปลอมให้ ข้อความที่เขาโพสต์ลงเฟซบุ๊กทั้งหลายแหล่ก็เป็นการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ สร้างความเสียหายแก่คุณชมพู่ รวมทั้งข้อความที่เขาบอกว่าถ้าแท้ จะจ่าย 2 ล้าน ทางกฎหมายถือว่ามีผลเพราะเป็นคำมั่น คุณ​ ทีน่า​ ต้องไปศึกษากฎหมายเรื่องคำมั่น 

ทีน่า : เราพูด เราเล่นการพนัน แต่หนูพูดตามสไตล์ของหนู

ทนาย : แล้วแต่ศาลจะว่าครับ แต่มันมีผลแน่นอน ตอนเรียนปริญญาตรีปี 1 คำมั่นเริ่มตั้งแต่บทเรียนแรก

ทีน่า : อันนี้เราตกลงราคากันไว้แล้ว แต่อันนี้เราพูดเหมือนท้าทายกับเพื่อน สไตล์ตัวเราเอง พูดไปเรื่อย แต่คำพูดตรงนี้ไม่ได้ทำให้ใครเสียผลประโยชน์

ฝั่งคุณยืนยันว่าคำพูดที่บอกว่าถ้าแท้จะจ่าย 2 ล้าน ฝั่งนี้เขาบอกว่ามันคือคำมั่น คุณพูดไปแล้ว ข้อกฎหมายมันมีผล แสดงว่าทางนี้เขาไม่ยอม คุณต้องได้คืนเท่าไร?

ชมพู่ : 2 ล้านค่ะ 3.95 แสนไม่เอาแล้วค่ะ

ทนาย : เขาทวงเงินคืน และทางนี้ก็โอนเงินคุณแล้ว

คุณทวงเงินเขาคืนด้วยเหรอ?

ทีน่า : ก็เขาไม่ขายให้หนูนี่คะ

ทนาย : เมื่อวานเขาส่งเลขบัญชีมาให้​ และทวงตั้งแต่เช้ามืดเลย น้องชมพู่โทรมาหาบอกว่าถ้าไม่ขายก็ขอเงินคืน ก็แสดงว่าไม่มีข้อตกลงอะไรเกิดขึ้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เราไม่ขอรับเงินตรงนี้ ในฐานะเป็นทนายความชมพู่ คงพูดเยอะไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในฐานะคนกลาง 

ทางนี้ไม่ยอม จะเอา 2 ล้านให้ได้?

ชมพู่ : ไม่ยอมค่ะ

อาจารย์ดูแล้ว มองเป็นอย่างไร ใบที่เป็นของกลาง?

ครูเอ็ด : โอเคครับ ถ้ามาขายให้ผม ผมก็รับซื้อ แท้ครับ มั่นใจ ถ้าเรารับซื้อของปลอม ก็เหมือนเราเอาเงินไปโยนทิ้ง อีกอย่างเรามีที่ปรึกษา มีเพื่อนที่ใช้ และกลุ่มที่ใช้​ แอร์เมส เราก็ถามเพื่อนๆ ด้วยกัน เพื่อนๆ เขาก็มีเก็บเกือบทุกรุ่น เขาก็มาเทียบว่าอะไรที่เหมือนหรือไม่เหมือนกัน อันนี้ค่อนข้างมั่นใจเลย ใช้แบรนด์เนมมาหลายสิบปีแล้ว แอร์เมส​ ก็ใช้มานานแล้ว ซื้อเกือบทุกรุ่นครับ ส่วนมากไม่ได้เรียน สั่งสมจากประสบการณ์ ส่วนมากเรามีของในมือ เรามีเพื่อน ๆ ที่เขามีเหมือนกัน ก็มานั่งดูกัน บางคนได้มาจากแหล่งที่ไม่มั่นใจ ก็มาถามเรา เราดูว่าอันนี้แปลกก็สามารถให้ข้อมูลเขาได้

ครูเจี๊ยบ กับครูพิชญ์ เช็กแล้วนะใบนั้น ตำรวจส่งให้ดู?

ครูเจี๊ยบ : ขอแสดงความเป็นกลางว่าเราไม่รู้จักทั้งสองฝ่าย ใบนี้ตำรวจโทรมาหาเราก่อนเป็นข่าว โทรมาบอกว่ามีคนแจ้งว่ามีคนกล่าวหาว่า​ กระเป๋าปลอม เขาเลยต้องการส่งตรวจกับทางสถาบัน ให้ออกใบการันตีให้ แต่เราแจ้งตำรวจว่าการออกใบการันตีเราแค่ประกอบการแจ้งความเฉยๆ คนที่จะมิสทธิ์เด็ดขาดชี้ว่าใบนี้แท้หรือปลอม ต้องเป็นตัวแทนสิทธิ์เท่านั้น คือช็อป​ แอร์เมส​ เท่านั้น ตำรวจบอกว่าไม่รู้จะไปติดต่อช็อปอย่างไร สถาบันออกใบให้ก่อนได้ไหม เราบอกว่าได้ค่ะ เรายินดีจะช่วยเหลือ แต่ต้องส่งกระเป๋าใบจริงมาเท่านั้น แต่ตอนนั้นกระเป๋ายังอยู่กับคุณ​ ทีน่า จนพอเกิดข่าว คุณ​ ทีน่า​ ส่งกระเป๋าให้ตำรวจ​ ตำรวจส่งกระเป๋ามาตรวจกับเรา เราก็แสดงความเป็นกลางว่าไม่รู้จักทั้งสองฝ่าย ส่งมาจากสน.บางขุนเทียนโดยตรง ร้านเราเปิดมานานร่วม 7 ปีแล้วค่ะ และสอนสปา​ กระเป๋าแบรนด์เนม​ ด้วยค่ะ มีการดีลกับอเมริกา 2 ที่ เป็นองค์กรที่มีการตรวจสอบกระเป๋า

ครูเอ็ด : เป็นเว็บไซต์ที่เป็นที่แพร่หลาย คนใช้​ แอร์เมส​ จะรู้จักเพราะผลสามารถใช้ได้ทั่วโลก

ครูเจี๊ยบดูแล้ว ครูพิชญ์ล่ะดูแล้วยืนยันว่า?

พิชญ์ : ก็แท้

สามคนนี้ดูแล้วบอกว่าแท้หมด แต่​ ทีน่า​ บอกว่าปลอม?

ทีน่า : เราก็ไม่ได้เถียงอะไรนะคะ เราก็ยอมรับว่าเราผิดพลาด เราไม่ได้ค้านเลยนะ ถึงรอให้เช็ก

เป็นบทเรียนไหม?

ทีน่า : ใช่ เราใจร้อนไปนิดหนึ่ง เราดูผ่านๆ ไม่ได้เช็กไปลึกๆ

สถาบันประเทศไทย ยืนยันว่าแท้แน่นอน คุณส่งไปตรวจสอบอเมริกา?

เจี๊ยบ : ใช่ค่ะ ส่งไปสองที่ ได้ผลออกมาแล้วค่ะ

เปิดสดๆ ผลออกมาคือแท้ พี่เกิดผลโพสต์ไปแล้ว?

ทนาย : ผมไม่รู้ว่าเป็นของสถาบันต่างประเทศ เข้าใจว่าเป็นของคนไทย

ครูเอ็ด :  ต่างประเทศก็บอกว่าแท้

ทีน่า : เราไม่ติดใจค่ะ เราก็พลาดค่ะ

ประเด็นเกิดขึ้น ฝั่งเพื่อน เครียดไหมกับสิ่งที่เกิดขึ้น?

เพื่อนทีน่า : ไม่เท่าไรค่ะ

ทีน่า : เรารับผิดชอบอยู่แล้ว เราบอกแล้วว่าเราจะซื้อ

3.95 แสน รับไหม?

ชมพู่ : ไม่ค่ะ เอา 2 ล้าน เพราะเขาทำลายกระเป๋าหนูไปแล้ว

ทีน่า : ตอนเขาส่งมาขายไม่ได้ตกลงที่ 2 ล้านค่ะ

เอา​ เบอร์กิ้น​ เขาไปแทนไหม?

ชมพู่ : ไม่เอาค่ะ จะเอา 2 ล้านค่ะ

คุณก็ไม่ได้มีการท้วงติงอะไร วันนี้จะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร?

ทีน่า : เราก็ซื้อไง เราไม่ได้ค้านหรืออะไร เรายินดีที่จะซื้อ

ตอนนี้ฝั่งนี้ไม่เอาแล้ว 3.95 แสน เขาต้องการ​ 2 ล้าน เพราะคุณพูดไปก่อนหน้านี้ เรื่องเพศสภาพคุณไม่มีทางเปลี่ยนได้ ทีหลังต้องเตรียมใจไว้นะกับสิ่งที่คุณพูดออกมา เพราะคำพูดคือนายคุณ และคุณเปลี่ยนเพศสภาพไม่ได้อยู่แล้ว?

ทีน่า : เหมือนคำสร้อยค่ะ แต่ไม่ได้เสียหายในเชิงธุรกิจ หรือทำให้ลูกค้าเสียหาย เราตกลงในราคาที่ตกลงไว้ คำพูดเราไม่ได้พูดแล้วลูกค้าขาดทุน

เพศสภาพอย่างไรคุณก็เปลี่ยนไม่ได้ อันนี้คือสิ่งที่พลาดที่พูดไป อันนี้เข้าใจ เรื่องแท้จะจ่าย 2 ล้าน เรื่องนี้เป็นเรื่องทนายบนชั้นศาล เขาต้องร้องคุณแน่?

ทีน่า : เราไม่ได้ตกลงกันว่าจะจ่าย​ 2​ ล้าน เราเหมือนพูดเล่น พนันกัน

แต่คุณก็เหมือนแพ้พนันไปแล้ว?

ทีน่า : โอเคก็ไปฟ้องได้

สมัยก่อนชื่อมงคลศักดิ์ แล้วเปลี่ยนเป็นนภาพัฒน์ คุณเปลี่ยนเป็น​ สรพงษ์​ ได้ไหม?

ทีน่า : เปลี่ยนได้ค่ะ เปลี่ยนให้เลยค่ะ อยากให้เปลี่ยนก็เปลี่ยนได้ค่ะ ยินดี พรุ่งนี้จะเปลี่ยนแล้วจะโชว์ให้ดูค่ะ

แต่สองล้านขอคุยบนชั้นศาล?

ทีน่า : เราซื้อไม่ได้หรอกค่ะในราคา 2 ล้าน เปลี่ยนชื่อไม่ได้เสียหายอะไร แต่ 2 ล้านมันซื้อได้หรือเปล่า เดี๋ยวทัวร์ก็ลงอีก

คุณไปโมโหไปโกรธอะไรคุณพุทธ?

ทีน่า : เราเล่าให้ฟังอย่างหนึ่งแต่ไปเสนออย่างหนึ่ง เราก็อุ้ยตาย ทำไมพูดแบบนี้ กระเป๋าเราคืนไปแล้ว แล้วบอกว่า​ สรพงษ์​ ไม่ยอมคืนกระเป๋า สรพงษ์​ ก็​ สรพงษ์​  ใครเรียก​ สรพงษ์​ ก็ไม่โกรธ เรายอมรับได้ แต่คุณพุทธพูดในทางที่ไม่ใช่เรื่องจริง เรื่องเงินก็เหมือนกันที่บอกว่าเรายังไม่ได้โอน เราโอนไม่ครบ พูดให้เราเสียอย่างเดียวเลย เขาพูดไม่ตรง เราบอกอย่างก็พูดอย่าง ตัดหมดเลย เหมือนให้ทัวร์มาลงเรา ซึ่งเราเข้าใจ เรารับได้ ทัวร์ลงไม่ว่า ไม่โกรธ แต่คุณพุทธต้องพูดความจริงสิ เรารับได้เพราะสตรอง แต่คนอื่นเขาไม่รู้

อมรินทร์รออยู่ข้างล่างเดี๋ยวไปเคลียร์?

ทีน่า : โอเคค่ะเราพูดไปยาวมาก แต่อมรินทร์ตัดตรงที่เราคุยกันธรรมดา เราพักก่อนกับอมรินทร์ เคลียร์ปุ๊บก็ตัดอีก

คุณจะฟ้องคนไปด่าคุณไหม?

ทีน่า : คนมาด่า​ สรพงษ์​ เราไม่ได้คิดจะฟ้อง เราเข้าใจสังคม แต่ถ้ามากไป จนลามปามคนอื่น

คุณโพสต์กระเป๋าทำไมไม่ให้ส่งตรวจ ทัวร์อวตารบล็อกไปถือว่าไม่ใช่คน คนเบี้ยน้อยหอยน้อยขอให้เบา เพราะ…แม่แพงมาก เข้าใจแล้ว กีแม่แพงมาก?

ทีน่า : แม่มั่นเวอร์ค่ะ (หัวเราะ)

พูดง่ายๆ ว่าคุณจะฟ้องเขา?

ทีน่า : ไม่ค่ะ คนพูดธรรมดาเราไม่ฟ้อง ให้ด่าก็ไม่ฟ้อง แต่คนพูดไม่รู้เรื่อง ลามปามเราอาจจะฟ้อง เราผิดพลาด ด่ามาก็ไม่ได้ว่าอะไร เราเข้าใจ มีแรงก็ด่ามา นี่ก็เชิดอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นคนอื่นไม่ใช่เรา เขาคงอยู่ไม่ได้ เราสงสารคนอื่น

สงสารตัวเราเองก่อนดีกว่า?

ทีน่า : เราไม่ซีเรียสค่ะ เราเชิด เราฟ้องเฉพาะคนพูดไม่รู้เรื่องค่ะ

ไปผูกอาฆาตเขาทำไม?

ทีน่า : โอเค ไม่ฟ้องแล้ว

คุณหากินในโซเชียล ก็เท่ากับคุณเอาชีวิตไปผูกพันในโซเชียลอยู่แล้ว การติ ด่า ว่าต้องมี ต้องยอมรับให้ได้ ถ้าเราแสวงหาผลประโยชน์จากโซเชียลอย่างเดียวไม่ได้ ?

ทีน่า : ไม่ฟ้องแล้วค่ะ 

จบนะ ไม่ฟ้อง สองล้าน?

เพื่อนทีน่า : คุณทนายจะฟ้อง​ ทีน่า​ อยู่แล้ว ก็ให้เป็นอีกคดี เป็นคดีการพนันแล้วไปเคลียร์ทีเดียวที่ศาลเลย

เขาท้าให้ฟ้องการพนันอีกคดีด้วย?

ทนาย : ยังมีคดีอื่นอีกครับ เขาไม่ได้เล่นการพนันกับคุณนะ

เพื่อนทีน่า : ตอนเอ้บอกว่าคุณไม่เอาเหรอ 2 ล้านเอากระเป๋ามาสิ แต่น้องเขาไม่รับคำท้า​ ทีน่า​ เลยค่ะ

ทีน่า : ตอนนั้นเราอยากได้กระเป๋ามาตรวจพิสูจน์ กระเป๋าอยู่ในแสง ไม่ได้เอาไปแอบไปซ่อนนะคะ เราไม่มีสิทธิ์ไปยักยอกเขาค่ะ

เรื่องแบบนี้เกิดบ่อยไหม?

พิชญ์ : มีทุกวันอยู่แล้ว เพราะวันหนึ่งมีคนส่งตรวจกับเราเยอะอยู่ บางทีก่อนซื้อขายเขาก็เช็กก่อนเพื่อให้มั่นใจ เพราะมีทั้งแท้ทั้งปลอม ในตลาดออนไลน์มันค่อนข้างเยอะ แต่คดีแบบเดือดทั้งสองฝ่าย นานๆ มาที แต่ปกติก็ทั่วๆ ไป

พี่เกิดผลเอาไงต่อไป?

ทนาย : ขึ้นอยู่ที่น้องชมพู่ครับ

ชมพู่ : ฟ้องต่อไปค่ะ สิ่งที่เขาพูดเขาทำไม่ได้ ก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดค่ะ

ทนาย : สิ่งแรกที่เขากล่าวหาว่าส่ง​ กระเป๋าปลอม​ มาให้เขา ถือว่าเป็นความผิดฐาน​ หมิ่นประมาท​ ด้วยการโฆษณา ทุกคนมองเขาเป็นมิจฉาชีพด้วยซ้ำจากสิ่งที่คุณ​ ทีน่า​ พูด คุณทีน่าพยายามสื่อสารทำนองนี้ว่าชมพู่อาจเป็นมิจฉาชีพ ซึ่งชมพู่เขาก็เป็นแม่ค้าคนหนึ่ง เขาเสียชื่อเสียง เสียหาย

ชมพู่ : กระเป๋าใบนี้เป็นของหนู ปกติหนูทำแบรนด์เสื้อผ้า

ทนาย : การไปพูดทำนองนี้ทำให้สังคมมองว่าคุณชมพู่เป็นมิจฉาชีพได้ อย่างน้อยก็​ หมิ่นประมาท การโพสต์ก็เป็นพ.ร.บ.คอมพ์ได้ ผมกำลังตรวจพยานหลักฐานอยู่ และจะประชุมกันวันนี้ จะไปฟ้องที่ไหน ฟ้องคดีอะไรบ้าง ขอสรุปวันนี้ก่อน

ทีน่า : โอ้ย

เข็ดไหม?

ทีน่า : หนูติดต่อตลอด หนูไม่ได้เอากระเป๋าไปซ่อน

ชมพู่ : แต่พี่ไม่คืนไงคะ หนูให้แมสฯ ไปรับ พี่ก็ปักหมุดที่วัด

ทีน่า : บ้านอยู่ใกล้วัดค่ะ

ชมพู่ : แมสฯ หนูโทรหาเขาว่าบ้านอยู่ไหนก็ไม่ยอมบอก ไม่ยอมคืน แล้วไปปักหมุดที่วัดท่ากระบือ

ทีน่า : บ้านเราอยู่ติดวัดท่ากระบือจริงๆ ค่ะ (หัวเราะ) เราพูดความจริง เราไม่ได้หลบค่ะ บ้านเราอยู่ติดกับวัด เราไม่ได้เอากระเป๋าเขาไปซ่อนหรือแอบ เราไม่ได้เอากระเป๋าเขาไปเปลี่ยน ไม่เคยค่ะ

ชมพู่ : อีกวันหนูบินไปหาพี่ พี่บอกให้หนูไปเจอที่ร้าน แต่ร้านพี่ก็ปิด

ทีน่า : ร้านพี่ทำอยู่

ชมพู่ : ก็พี่บอกพี่อยู่ทุกวัน มาได้เลย แต่พอไปถึงก็ปิด

ทีน่า : ปกติก็เปิดทุกวันค่ะลูก แต่ร้านปิดทำรีโนเวทอยู่

เขาให้ 5 แสนจบไหม?

ชมพู่ : มัน … (ถอนใจ) 

มาที่กระเป๋าใบที่คุณบอกแท้หรือไม่แท้ กระเป๋ารุ่นเดียวกับชมพู่ ทีน่าดู​ เอาไว้ สามใบนี้?

ครูเจี๊ยบ : มีหนึ่งในนั้นเป็นของครูเจี๊ยบ ให้ครูเอ็ดเฉลยดีกว่า

ครูเอ็ด : ใบไม่แท้คือใบสุดท้าย

โอเค​ ทีน่า​ ทายถูก ดูจากตรงไหน?

ทีน่า : ใบนั้นดูง่าย ถ้าดูแล้วไม่รู้เลย อยู่ไม่ได้นะคะ

จะเขียนไหมว่าปลอม?

ทีน่า : (หัวเราะ) เดี๋ยวเสียอีก​ 2​ ล้าน ไม่ไหวค่ะ

ใบกลางคุณบอกว่าปลอม?

ทีน่า : หนูตัดสินจากรูปทรง ดูคร่าวๆ เลย ไม่มานั่งดูเป็นจุดๆ

คนขายของมือสองได้ เขาต้องแม่นมาก ถ้าขายนาฬิกาเขาต้องดูเองว่าแท้หรือปลอม ไม่งั้นส่งไปให้ที่อื่นดู เช็กของ บอกเลยไม่มืออาชีพ เพราะคนเปิดร้านขายของมือสองต้องแม่นมากในการซื้อเข้าหรือออก ใบที่สองนี่เซ็นเลยมั้ยว่าปลอม?

ทีน่า : เรามองผ่านๆ ค่ะ

ใบไหนของคุณเจี๊ยบ?

ครูเจี๊ยบ : ใบกลางค่ะ

ทนาย : อ้าว ครูเจี๊ยบใช้ของปลอมเหรอ

ทีน่า : ใบนี้เราไม่ได้ฟันเลย  เรามองผ่านๆ

ครูเอ็ด :  มันมองพลาดกันได้

เจี๊ยบ : ใช่ค่ะต้องใช้เวลาในการตรวจ

ทีน่า : เรามองแค่คนละทรง คนละไซส์

ถ้าไม่แม่นก็พลาดได้ ใครก็ตามจะซื้อต้องระวัง?

ทีน่า : ดูทรงเสร็จก็ต้องมาดูรายละเอียดอีกที ต้องมองหลายๆ จุด แต่เรามองอะไรมองไกลๆ มองทรงก็ประมาณนี้ ทรงสำคัญสุด นอกจากนั้นค่อยเก็บรายละเอียด

เคยซื้อ​ กระเป๋าปลอม​ ไหม?

ทีน่า : เคยซื้อที่บอกว่าเป็นของคนในวงการค่ะ ความเชื่อใจไงคะ เราส่งไปฮ่องกงก่อนไปปารีส แล้วเขายึดไปเลย

ดาราผู้หญิงเหรอ อักษรย่อมาหน่อย?

ทีน่า : (เขียนให้ดู)

บ้า จริงเหรอ?

ทีน่า : เราเชื่อใจเขาไง เราเลยไม่สนใจ เรามองผ่านๆ เราซื้อมา 3.3 แสน เราเชื่อใจ ลูกค้าก็ไม่รู้ว่าปลอม มารู้ตอนหลัง เราก็โอนเงินคืนลูกค้าไปก่อน ทุกอย่างก็ต้องทำ ถ้าเรื่องเงินไม่ต้องกลัวถ้าปลอมเราการันตีได้ 

ภาษาชาวบ้านเขาบอกว่าพล่อย ต้องคิดถึงความเป็นจริงด้วย ถ้าอะไรก็ตามที่ให้เปลี่ยนเพศสภาพเราเป็นไปไม่ได้ อันนี้ถือ ว่าพล่อย?

ทีน่า :ใช่ค่ะ แต่ทุกอย่างเราพูดไปจริง แต่ที่เราพยายามให้ตรวจให้เช็ก

ก็ถือว่าได้ข้อสรุปกันในระดับหนึ่งแล้วสำหรับกรณี​ กรดเป๋าแบรนด์​เจ้าปัญหา​ นี้​ โดยทางด้านเจ้าของ​ กระเป๋าแบรนด์เนม​ ยืนยันที่จะเอาเรื่อง​ และดำเนินคดีเพื่อให้​ ทีน่่​า​ รักษาคำพูด​ ในเรื่องของ​ เงิน​ 2​ ล้านบาท​ ที่ลั่นวาจาไว้​ ในส่วนของเงินก็คงจะไปจบกันที่ชั้นศาล​ ส่วนเรื่องการ​ เลิกเป็นกะเทย​ ทีน่า​ เจ้าของร้านบอกว่าคงทำให้ไม่ได้​ แต่จะไปเปลี่ยนชื่อเป็น​ สรพงษ์​ ให้อย่างแน่นอน​ พร้อมโชว์หลักฐานยืนยันในเร็ววันนี้​ งานนี้ชาวเน็ตก็คงตั้งหน้าตั้งตารอดู​ว่าจะได้เจอ สรพงษ์​ หรือไม่​ อย่างไรก็ตามหากมีความคือหน้า​ แอดจะรีบนำมารายงานให้ทราบกันต่อไปนะคะ

คลิปอีจันแนะนำ
ฮั่น – จียอน เข้าแจ้งความ สน.หัวหมาก