เปิดใจ​ ดารารุ่นใหญ่​ ปุ๊​ มนตรี​ ผู้ชายขี้อาย​ ที่มีใจรักใน​ การแสดง

​เปิดใจ​ ดารารุ่นใหญ่​ ปุ๊​ มนตรี​ ผู้ชายขี้อาย​ ที่มีใจรักใน​ การแสดง​ พร้อมเล่าเส้นทางรัก​กว่า​ 40​ ปี มีแฟนคนเดียวทั้งชีวิต

เปิดเส้นทางความรักกว่า​ 40​ ปี​ ของ​ ดารารุ่นใหญ่​ ปุ๊ มนตรี เผยเป็นคนขี้อายหนักมา ทั้งชีวิตมีแฟนมาแค่คนเดียว​ พร้อมเล่าชีวิตก่อนเข้า​ วงการบันเทิง​

กระแสละคร โนราสะออน​ ?

อาปุ๊ : ตอนนี้เรตติ้งอันดับ​ 1 ของทุกเรื่องในประเทศไทย ที่รู้ว่าดังคือโดนด่าเยอะ จะมีคนที่ดูแล้วรักตัวละครตัวนี้ แต่พอดูไปก็จะมีคนเกลียด ว่าเป็นคนแก่ไม่ฟังเสียงใคร ขี้โมโห ดื้อ ความคิดตัวเองเป็นใหญ่คนก็พร้อมใจกันมาด่า

สำเนียงอีสานจนคนอิน?

อาปุ๊ : อย่าไปบอกใครนะว่าไม่ใช่คนอีสานเลย เกิดที่นครปฐม คุณพ่อเป็นคนกรุงเทพ ข้าราชการ แต่ย้ายไปทั่วเลย มีโอกาสได้ย้ายไปอุดร มันอวนอยู่ในหัวเพราะเพื่อนพูดหมดซ้ายขวา มันได้ยินแต่ไม่ได้พูด เป็นลูกข้าราชการย้ายบ่อยมาก ยังไม่ทันได้พูดก็ย้ายแล้ว มันได้ยินตั้งแต่เด็กๆ

สมัยก่อนขี้อายมาก?

อาปุ๊ : เป็นคนที่ไม่เชื่อมั่นในตนเองเลยตั้งแต่เด็กๆ ให้ไปพูดหน้าห้องซ้อมมาอย่างดี พอถึงเวลาพูดไม่ได้ ความขี้อายความไม่มั่นใจตัวเองมันสูงมาก พอไปเรียนที่มหาวิทยาลัย อาจารย์ที่สอนด้านการแสดงบอกว่าขอให้มาเรียนวิชานี้กับครู ศิลปะด้านการแสดงนี่แหละ มันจะได้หายจากอาการที่เรามีทั้งหมด พอเราเข้าไปในตัวละครลืมทุกอย่างแล้วเป็นละครตัวนั้น ทุกวันนี้ยังเป็นอยู่ อย่างงานเลี้ยงปิดกล้องถ้าเราต้องร้องเพลงจะไม่กล้าขึ้นไปร้อง

เรื่องแรกที่เข้าวงการทั้งอ่านสปอต ทั้งพากย์เสียง?

อาปุ๊ : เรียนจบแล้วไปเล่น​ ละครเวที แล้วมีคนอยากได้​ พระเอก​ หน้าตาซื่อบื้อหน่อย เราไปเล่นเรื่องนี้ ทีนี้เราจะตามติดผู้กำกับตลอด เขาจะสอนเราอย่างไร เขาจะบอกอะไร เราอยากได้ความรู้จากเขา เขาได้ยินเสียงเราการพูดของเรา เขาก็โยนทุกอย่างให้เราหมดเลย

แจ้งเกิดเป็น​ พระเอก แต่หนีไปอยู่ต่างประเทศ?

อาปุ๊ : ด้วยตัวตนเป็นคนสมรรถะ ยังอายอยู่ยังไม่กล้าเข้าหน้าฝูงชน เรื่องแรกได้เสียงตอบรับที่ดีเพราะไปได้รางวัลที่ต่างประเทศ คนรู้จักเยอะมาก คนที่ไม่มั่นใจในตัวเองทุกคนมารุมเราอยู่คนเดียวเราทำอะไรไม่ถูกเลย ปากจะเริ่มสั่น เรารับความมีชื่อเสียงตอนแรกแทบไม่ได้ เลยไปเมืองนอก ต้องหนีไปอยู่ไกลมากที่เนเธอร์แลนด์ ขนาดไปที่นั่นยังมีคนทัก เรามีความรู้สึกว่าชีวิตเราต้องมากลายเป็นที่รู้จัก ต้องรับสิ่งนี้ให้ได้ต้องไปพร้อมกัน เพราะเราชอบแสดงมาก สิ่งพวกนี้มันมาพร้อมกัน ทำใจจนได้ ตอนนี้ไปไหนมาไหนทักทายผู้คนได้

ทำงานมา 40 กว่าปี ไม่เคยสาย?

อาปุ๊ : ไม่เคยสายแม้แต่ครั้งเดียว ในความขี้อายมีความเกรงใจอยู่ในนั้นด้วย เกรงใจทุกคนที่ทำงานร่วมกับเรา ถ้าเราไปสายเป็นภาระคนโน้นคนนี้เราทำไม่ได้เลย เราได้รับการสอนมาอย่างนั้นด้วย เล่น​ ละครเวที​ ใครมาสายแม้แต่นาทีก็ไม่ได้

ความขี้อายทำให้ทั้งชีวิตมีแฟนคนเดียว?

อาปุ๊ : ใช่ครับ เป็นเพื่อนกันมาตอนมหาวิทยาลัย ไม่ได้เก่งกาจจะไปจีบใคร เรียนด้วยกันก็ชอบเขา เขาน่ารักพูดคุยกันรู้เรื่องทุกเรื่อง พูดภาษาเดียวกันหมด ไม่เคยจีบเลยรวบรวมความกล้าครั้งเดียวในชีวิต กับความกรึ่มหน่อยๆ โทรไปหาเขาบอกเขาว่าชอบนะ พอพูดออกมาได้ก็วางหูไป ตอนนั้นเขาไม่ได้ตอบอะไร ไม่กล้าเจอหน้าเขาเลย หนีตลอดเลย จนเขาต้องมาคุยเองว่าตกลงอย่างไร ก็เขินๆกันทั้งคู่ หลังจากนั้นก็คุยกัน เป็นแฟนกันโดยไม่รู้ตัว ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด

พอเรียนจบ เปลี่ยนอาชีพเกือบเลิกกัน?

อาปุ๊ : เขาไปเป็นอาจารย์ เราก็เป็นอาจารย์ เขาสอบแอร์โฮสเตสติด ด้วยความที่เราสมรรถะเป็นอาจารย์มันดีแล้ว เราก็เริ่มเขาจะต้องไปพบคนมากหน้าหลายตา หวง ไม่มั่นใจในตนเอง คิดไปใหญ่เลย ความเห็นไม่ตรงกัน ท้ายที่สุดมันก็ต้องทำใจ มันอยู่ที่ความเชื่อใจ

สุดท้ายทำไมถึงยอมให้ไปเป็นแอร์โฮสเตส?

อาปุ๊ : น่าจะเป็นทางที่ดีกว่าสำหรับตัวเขา และมันเป็นสิ่งที่เขารักจะทำ เราก็ยอม แรกๆกลัวมาก กลัวไปต่างๆนานา กลัวว่าเขาจะไปเจอใคร ไม่ทะเลาะกันแต่ความเห็นไม่ตรงกันครั้งแรกเลย มันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเขาเลยยอม

มาเป็น​ นักแสดง​ จากอาจารย์?

อาปุ๊ : เขาไม่หวงเลย เขาแน่ใจอะไรก็ไม่รู้ว่าไอนี่ไปไหนไม่ได้หรอก

เข้าวงการมาได้อย่างไร?

อาปุ๊ : เล่น​ ละครเวที มีคนเห็นว่าเราเล่นหนังได้ เอาเราไปเล่น​ พระเอก ตอนนั้นคิดอยู่นานว่าจะเล่นดีไหม เพราะตอนนั้นเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยอยู่ด้วย ทางบ้านไม่รับเลยถ้าเราจะเป็น​ นักแสดง เพราะที่บ้านเป็นข้าราชการมาโดยตลอด คุณพ่อจะไม่สนับสนุน แต่คุณแม่ให้ลอง เราต้องจากการเป็นอาจารย์

คนหนึ่งถ่าย​ ละคร​ หนัก คนหนึ่งบินหนัก เอาเวลาไหนมาเจอกัน?

อาปุ๊ : ไม่มีงานก็มีครอบครัวคิดแค่นั้น แต่ไม่ค่อยชนกัน ไม่ใช่งานคือครอบครัว ก็ไม่มีอะไรอีกแล้วเราไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน

การไปเที่ยวกันสองต่อสองเป็นเรื่องลำบากสมัยก่อน?

อาปุ๊ : ใช่ เราไปถ่าย​ ละคร​ เยอะมากที่ต่างจังหวัด เขาก็บินเยอะมาก เวลาจะเที่ยวเขาลงจากเครื่องไปเที่ยวเขาใหญ่กัน เราก็บอกเขาใหญ่เพิ่งไปมาเมื่อวาน ไปถ่าย​ ละคร​ จะอยู่นานมาก พอไปเมืองนอกเราจะไปชื่นชมศิลปะเขาก็เห็นหมดแล้ว

มั่นใจในกันและกันมาก?

อาปุ๊ : มันเห็นกันมาตั้งแต่เป็นเพื่อน ไม่น่าจะมีอะไร ไม่น่าจะไปข้องแวะกับใคร

แอบชอบนางเอกบ้างไหม?

อาปุ๊ : มีหนังเรื่องหนึ่ง ต้องวาดรูปนางเอกคนหนึ่ง วาด 3-4 วัน แล้วรักไปเลย แต่ไม่มีอะไรเกินเลย พอรู้สึกรักเราใจหายถึงตาตุ่ม หลังจากนั้นพอต้องดูรูปเวลาวาด เราจะไม่ดูหน้าเขาเลย เขาก็ไม่รู้จนบัดนี้

เวลาไปถ่าย​ ละคร​ ต่างประเทศ แฟนแพคกระเป๋าให้พร้อมใส่ถุงยางอนามัยไปด้วย?

อาปุ๊ : เขาบอกว่าเผื่อนะ กลับมามันก็อยู่เท่าเดิม เราก็ไม่ได้ถามแต่ก็มองหน้ากัน คงเผื่อหน้ามืดเราก็ไม่รู้

อยู่กันมากี่ปี?

อาปุ๊ : 40 กว่าปี ทะเลาะยากมาก เพราะเราไม่ชอบทะเลาะกับใคร มันเสียเวลาชีวิต ยิ่งเป็นคนในครอบครัวยิ่งไม่อยาก ถ้ารู้ว่าจะทะเลาะง้อเลย ง่ายที่สุดเลย ง้อง่ายไม่เห็นจะยากเลย ขอโทษนะ

มีผู้หญิงอีก 2 คนที่รักมาก?

อาปุ๊ : หลานครับ เป็นคุณปู่ คือที่สุดแล้ว อยากได้ลูกสาวมาตั้งนานแล้วไม่ได้ ปู่ติดหลาน เรารักเขาแต่ถ้าพ่อกับแม่เขาไม่อนุญาต​ให้ทำแบบนี้ เราก็ต้องตามพ่อกับแม่เขา

รักหลานมากกว่าลูก?

อาปุ๊ : เมื่อก่อนก็ไม่เข้าใจ พอถึงรุ่นเรามันก็คล้ายๆอย่างนั้น ลูกไม่ต้องห่วงแล้ว

เป็นปู่ใจดี?

อาปุ๊ : ใจดี มันมีความสุขไปหมดเวลาอยู่กับเขา

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง​ ดารา​ ที่มีใจรักในการแสดงจริงๆ​ ถึงแม้ว่าความขี้อายจะเป็นอุปสรรค​ แต่​ ปุ๊​ มนตรี​ ก็สามารถเอาชนะ​ และผ่านมันมาได้​ จนเป็นนักแสดงที่มากความสามารถมาจนถึงทุกวันนี้​ น่าชื่นชมมากๆเลยค่ะ

คลิปอีจันแนะนำ
บุญรอด อารีย์วงษ์ LGBT ผู้พิการ กับการใช้ชีวิต