คุณแม่ ภนิดา ยันไม่ได้คิดอะไรกับ พี่ช้าง พร้อมเคลียร์ ชัยวัฒน์

คุณแม่ ภนิดา ยันไม่ได้คิดอะไรกับ พี่ช้าง พร้อมเคลียร์ ชัยวัฒน์ ยิ้มได้อีกฝ่ายบอกจะคืนเงินแสนห้า

โดยคุณแม่ ยอมรับว่าเคยโกรธ หนุ่ม กรรชัย เพราะชอบเอาคนโฟนอินมาในรายการ โดยไม่ได้ขออนุญาตคุณแม่ เช่นตอนนั้น ให้ แอนนา โฟนอินเข้ามายืนยันเรื่องของ ประกันชีวิตของ แตงโม คุณแม่เสียใจ ตอนนั้น ไม่อยากเจอ ไม่อยากคุย ไม่อยากมาด้วยรายการนี้ นอกจากนี้ยังเอา ทนายสงกรานต์ มาด้วย เลยโกรธ รวมถึงเรื่องการพูดเรื่องตัวเงิน ซึ่งในรายการ หนุ่ม กรรชัย ก็ได้ยกมือขอโทษคุณแม่ และคุณแม่ก็รับไหว้พร้อมให้อภัยลูกหนุ่ม

โดยเรื่องที่มาคุยในรายการวันนี้คือ คุณแม่ มีการอ้างอิงถึงที่ปรึกษากฎหมายชื่อ ชัยวัฒน์ และคุณแม่ ได้อธิบายว่า หลังจากไปขึ้นศาล มีการตกลงจ่ายค่าเยียวยา ครั้งแรกเป็นเงินสด 4 แสน แคชเชียร์แช็ค 1 ล้าน 6 แสน โดยแบ่งเป็น 2 ใบ ใบละ 8 แสนบาท และมีเงินกินเปล่ารายเดือนอีก เดือนละ 3 หมื่นบาท แต่สุดท้ายคุณแม่ไม่ได้เงิน 2 แสน เพราะคุณเอ็ม (ชัยวัฒน์) เอาไปเข้าบัญชีตัวเอง ซึ่งเป็นเงินโบนัสจาก โรเบิร์ต ที่โอนมาให้ 4 แสน ของคุณเอ็ม 2 แสน และคุณแม่ 2 แสน ที่คุณอัจฉริยะ ออกมาพูดคุณแม่คิดว่า คุณเอ็มไม่ได้บอกทั้งหมด สัญญาเรื่อง 30% มันยังไม่มี มันเพิ่งมาทำสัญญา เมื่อปลายปีที่แล้ว

ถามว่าทำไม ปอ ถึงโอนเงินเข้าบัญชี ชัยวัฒน์ ทนายเดชา เผยว่า ชัยวัฒน์ เป็นคนไปเจรจาเอง และบอกว่า 2 แสน ชัยวัฒน์ เอง ให้คุณแม่ 2 แสน แต่สุดท้ายกลับให้คุณแม่แค่ 5 หมื่น เลยเป็นเหตุให้คุณแม่เข้าแจ้งความ ปอ และ โรเบิร์ต ยินดีจะมาเป็นพยานให้

เรื่องสัญญา 30% คุณแม่ยกเลิกแล้ว เพราะมันเป็นสัญญาทาส มีจะมาขอแบ่งเงินเดือนคุณแม่ด้วย หัก 30% จากเงินเดือนคุณแม่ด้วย เดือนละ 9,000

ที่เขาออกมาพูดเรื่องคุณแม่กับพี่ช้าง คุณแม่คิดว่าเขาหึงคุณแม่หรือเปล่า ทุกครั้งที่ขึ้นศาลเขาจูงมือแม่ตลอดเลย เรื่องที่คุณชัยวัฒน์ บอกว่า แกห้ามคุณแม่ไม่ให้คบกับ พี่ช้าง ซึ่งความจริงแกไม่กล้าที่จะมาห้ามคุณแม่ แกไม่มีสิทธิ์ แกพูดเพื่อจะเบี่ยงประเด็นเรื่องเงิน คุณแม่รู้จักพี่ช้าง ผ่านแอพร้องเพลง ก็คุยกัน วันนึงเขานั่งเรือเอามือจุ่มน้ำอวยพรให้น้องโม อยู่ๆไลน์คุณแม่ก็เด้งไปที่มือถือเขา ซึ่งเขาหาไลน์คุณแม่มาตลอด ก็หาไม่เจอ หลังจากนั้นก็ได้คุยกัน เป็นเพื่อนกัน อดีตพี่ชายเขาคือลูกชายเจ้าของโรงงานทำขนมปัง เขาก็มีฐานะ พอรู้ว่าเขาว่างงานเลยชวนเขามาช่วยงาน ต้องการคนขับรถ เขาก็โอเค คุณแม่ให้ 2 หมื่น อยู่คอนโดเดียวกับคุณแม่ เขาช่วยดูแลเรื่องเอกสารของคุณแม่ด้วย ถามว่าไปรักกันตอนไหน ยังไม่ได้รักกันเลย คุณแม่ชอบนิสัย เขาเป็นคนมีสมอง เขาอายุ 62 แล้ว เขาขับรถให้มา 1 ปี ช่วยทุกอย่าง หลังจากนั้นแม่ก็เลื่อนตำแหน่งเป็นเลขา เวลาเราเดินลงบันได เขาจะจูงคุณแม่ตลอด

เรื่องที่มีคนแซวว่า เหมือนพี่โป่ง หิน เหล็ก ไฟ คุณแม่ไม่โกรธ คุณแม่ว่าไม่เหมือนหรอก

ส่วนภาพที่หลุดออกมา พี่ช้างยอมรับแล้วว่าเขาเมา คุณแม่ไม่ได้เมา คุณแม่จำเหตุการณ์ไม่ได้ว่าเขามาหอมแก้ม เราไม่ได้ใส่ใจอะไร เราฝรั่ง เรื่องนี้แล้วแต่คนจะมอง เราจ้างเขามา แล้วเรื่องที่บอกว่า คุณแม่ขอให้พี่ช้างไปหย่า คำนี้ คุณชัยวัฒน์ เป็นคนโฟนอิน แล้วพูดออกมาคุณแม่ไม่เคยพูด ไม่เคยบอก คุณช้างไปคุยกับคุณเอ็ม คุณเอ็มเขาอัดเสียงไว้ ว่าจะทำยังไงดี คุณแม่จะให้ไปเอาใบหย่ามา มันเริ่มที่คุณช้างไปพูดก่อน แม่คิดว่า คุณชัยวัฒน์ เขาหวงคุณแม่ พอพี่ช้างมาขับรถให้ คุณแม่ก็ไม่ได้คุยโทรศัพท์กับคุณเอ็ม ปกติคุยวันละ 2 ชม. ทุกวัน

ซึ่งทางคุณช้าง ได้เปิดใจว่า ได้หอมแก้มธรรมดา อาจจะเมาก็เลยเล่นกัน ตอนนั้นคนอยู่กันเยอะ วันนั้นจุ๊บกี่ครั้งจำไม่ได้ ตอนนั้นเขาก็ตกใจ เขาเป็นผู้ใหญ่ก็ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้มีการจุ๊บกลับ คนดีๆเขาจะมาแอบถ่ายแบบนี้เหรอ มาทำแบบนี้ เป็นการคิดล่วงหน้าหรือเปล่าก็ไม่รู้ พอเป็นข่าวก็รู้สึกว่ามันเสื่อมเสียชื่อเสียง เราแค่ไปช่วยผู้หญิงคนนึงที่ถูกเอาเปรียบ เขาอาจจะแค้นที่ว่าเราไปขัดผลประโยชน์ เกี่ยวกับเรื่องเงิน ตอนนี้ที่เป็นห่วงคือสภาพจิตใจของครอบครัว บางทีเขาไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง เราก็จะเป็นเหยื่อของสังคม จริงๆต้องเกี่ยวกับคดี ไม่ใช่มาเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ สถานภาพก็เป็นคนดูแล คอยขับรถให้

ซึ่งคุณแม่ก็พูดต่อว่า ไม่ต้องไปเคลียร์กับเมียของพี่ช้าง ไม่เกี่ยวกับคุณแม่ ให้เขาไปเคลียร์กันเอง ช้างบอกเมียเขาแล้ว ตั้งแต่แรก คิดว่าเขาน่าจะเข้าใจ ถ้าเมียเขาไม่โอเค ก็ไม่เป็นไร คุณแม่ก็หาคนขับรถใหม่ มีคนมาสมัครเยอะเลย ยืนยันว่าไม่ได้มีประเด็นอะไรกับทางคุณช้าง และครอบครัว

เรื่องเงิน 400,000 เป็นข้อตกลงระหว่างผมกับคุณแม่ที่มีการว่าจ้างทำงานตอนที่มาจ้างคุณแม่มาแต่ตัวผมก็สนองด้วยการทำงานให้คุณแม่ก่อน ซึ่งการทำงานของผมสำเร็จแล้ว ได้เจรจาต่อรองทำการประนีประนอม ได้ค่าชดเชยเยียวยามามันก็เหมือนเป็นค่าจ้าง ผมก็ส่งหนังสือให้คุณแม่ ส่งเงินเป็นจำนวน 400,000 บาทแล้วผมก็เซ็นรับ ตรงนี้เป็นการชำระเงินค่าว่าจ้าง ฉบับวันที่ 21 กันยายน 2565

เรื่องสัญญา 30% จะเป็นโมฆะหรือไม่อยู่ที่ศาลเป็นคนตัดสิน ยืนยันว่าเงินที่ได้มาโปร่งใสแน่นอน เรื่องที่บอกว่าผมยักยอกหรือฉ้อโกงตรงนี้ผมต้องใช้สิทธิ์ในการดำเนินการต่อไป ผมยังรักและเคารพคุณแม่ตลอดถึงแม้ว่าจะมีเรื่องโกรธเคือง พร้อมที่จะเจรจากันได้ เงิน 400,000 ที่สองนี้เป็นเงินที่คุณปอและคุณโรเบิร์ตจ่ายเป็นค่าตอบแทนที่คุณแม่ มิได้ดำเนินการ ขอขยายอุทร คือสละสิทธิ์ในการดำเนินคดี เป็นความพอใจของคุณแม่ คุณแม่เป็นคนสั่งผมเอง

เรื่องเงิน 150,000 ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยถ้าคุณแม่ไม่ไปออกรายการคู่กับกรณีกล่าวหาผม ที่คุณแม่ไปกอดกับคุณแซน แล้วคุณแม่จะไปช่วยเป็นพยานให้เขา ผมเรียนกับคุณแม่เลยว่าผมอาจจะต้องใช้สิทธิ์ในการดำเนินคดี เพราะว่าศาลพิพากษาแล้วว่าผมไม่มีความผิด

ด้านคุณแม่ก็พูดว่าคุณแม่ได้ยกเลิกการเป็นพยานแล้ว

ชัยวัฒน์ได้พูดต่อว่าถ้าผมได้ก้าวล่วงกับคุณแม่ ทำให้คุณแม่โกรธเคืองผมก็ต้องกราบขอโทษคุณแม่ เรื่องที่คุณแม่อยากได้เงิน 150,000 บาทคืนไม่มีปัญหา ยินดีคืน

ส่วนเรื่องที่บอกว่าหึงหวงคุณแม่นั้น เข้าใจว่าคุณแม่อาจอยากจะแซวผม เรารู้ใจกันทุกเรื่อง ผมคุยกับคุณแม่เพื่อมารยาท เราสองคนรู้อยู่แก่ใจ เราทำอะไรอยู่ในขอบเขต ในฐานะผู้ว่าจ้างกับลูกจ้าง ที่จูงเพราะผมกลัวคุณแม่ล้ม คุณแม่มักจะหน้ามืดอยู่บ่อยผมแค่หวังดี ผมให้คุณแม่ 150,000 บาทคุณแม่อาจจะให้ผมเยอะกว่านั้น ผมคิดว่าเป็นอย่างนี้แน่นอน

เรื่องที่ผมมีการพูดเรื่องความสัมพันธ์ของคุณแม่กับพี่ช้าง ให้ผมไปสาบานก็ได้เพราะมันเป็นเรื่องจริง เธอไม่จริงก็ดำเนินการทางกฎหมายกับผมได้เลย ที่ผมพูดเพราะคุณแม่ไปเดินสายออกข่าวประจานผม อยากขอโอกาสสังคมให้ผมอธิบายนิดนึง พร้อมเอกสารอะไรต่างๆมันเป็นการกระทำของคนติดตามผม คุณแม่ก็รู้ดี คุณแม่เคยพูดว่าถ้าคุณแม่ไม่ได้เงิน แสนห้า คุณแม่จะไปประจานคุณชัยวัฒน์นะ คุณชัยวัฒน์ จะอยู่ไม่ได้นะ ต้นเหตุคือคุณแม่ประจานผมผมก็มีสิทธิ์ที่จะตอบโต้ เรื่องปล่อยคลิปยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนปล่อยและไม่ได้เป็นคนถ่ายรูป ยืนยันว่ากับคุณแม่เรื่องชู้สาวผมไม่มีเด็ดขาด ผมก็มีลูก และภรรยาอยู่แล้ว

Cr โหนกระแส

ทั้งนี้คุณแม่ก็บอกว่า ค่าปลาสลิด ค่าเครื่องปริ้นไม่เอาคืน ซึ่งทางคุณเอ็มขอโทษพี่ช้างด้วย เรื่อง 1 หญิง 2 ชาย เป็นการแซวเล่นเฉยๆ