รถเมล์ คะนึงนิจ เล่าชีวิตคุณแม่มือใหม่ เผยเจอภาวะหลังคลอด

รถเมล์ คะนึงนิจ เล่าชีวิตคุณแม่มือใหม่ เผยเจอภาวะหลังคลอด จนร้องไห้ตามลูก ด้านสามีคอยเป็นกำลังใจให้ไม่ห่าง

หายหน้าหายตาไปทำหน้าที่คุณแม่อยู่พักใหญ่สำหรับคุณแม่มือใหม่อย่างสาว รถเมล์ คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ หลังจากที่เจ้าตัวได้ให้กำเนิน ลูกชายคนแรก น้องคิด ไปเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา

ล่าสุด เจ้าตัวก็ได้ออกงานเป็นครั้งแรกหลังจากที่คลอดลูกน้อย งานนี้ อีจันบันเทิง จึงถือโอกาสสัมภาษณ์ชีวิตของคุณแม่มือใหม่กันสักหน่อย โดยเจ้าตัวก็ได้เผยความรู้สึกในการกลับมาทำงานอีกครั้งว่า

“แอบคิดถึงเบาๆ ปกติเราทำงานตลอด แต่ตอนนี้พอมีลูกก็จะรับได้แต่งานที่มีระยะเวลาสั้นๆ และช่วงนี้ก็ติดลูกมาก อยากมีเวลาอยู่กับเขา เลยยังไม่รับงานกองละคร และปกติเวลาทำงานเราก็จะได้เจอผู้คนอยู่ตลอด ช่วงนี้ต้องอยู่บ้านก็เลยเหงา แต่พอได้กลับมาทำงานก็รู้สึกแฮปปี้”

ตั้งแต่มีลูกชีวิตเปลี่ยนไหม?

“ตั้งแต่มีลูกชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมาก การตัดสินใจทุกอย่างในชีวิตต้องเปลี่ยนไปหมดเลย เมื่อก่อนเราอาจจะตัดสินใจจากตัวเราเอง แต่ทุกวันนี้เวลาจะไปไหนต้องตัดสินใจจากลูกก่อน แล้วก็เพิ่งเข้าใจว่าเด็กส่วนใหญ่จะชอบให้เราเดิน แล้วก็ขึ้นบันได ไม่เข้าใจเหมือนกัน พออุ้มเฉยๆ ร้อง แต่ถ้าก้าวขาเดินจะแฮปปี้”

น้องคิด เลี้ยงยากไหม?

“น้องเลี้ยงไม่ยาก ยิ้มเก่ง อารมณ์ดี ถ้าร้องก็เป็นเรื่องปกติของเด็ก ช่วงแรกเราไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร ยากมาก แต่พอประมาณ 2-3 เดือน มันก็ดูง่ายขึ้น ในอนาคตก็อาจจะพามาออกงานบ้าง แต่ตอนนี้ยังเล็กเกินไป”

ตอนนี้หุ่นกลับมาเป๊ะเหมือนเดิมแล้ว?

“ตอนท้องก็ได้ออกกำลังกายบ้าง แต่พอคลอดลูกแล้วก็ไม่ค่อยมีเวลา แต่ก็พยายามที่จะดูแลตัวเองอยู่เสมอ คิดว่าส่วนหนึ่งที่ผอมมาจากการอุ้มลูกเดิน (หัวเราะ)”

มีภาวะหลังคลอดเหมือนคุณแม่ท่านอื่นไหม?

“มีภาวะหลังคลอดเหมือนกัน ด้วยฮอร์โมน และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของร่างกาย เราไม่เคยมีอีก 1 ชีวิตเข้ามาในชีวิตเรา เราก็ไม่รู้ว่าจะต้องรับมืออย่างไร แม้กระทั่งทุกคนในครอบครัว มันก็จะมีการเปลี่ยนแปลงหมดเลย ก็เลยจะยังปรับตัวไม่ค่อยได้ในช่วงแรกๆ ก็เป็นแบบที่คนอื่นชอบเป็นกัน เราก็รู้สึกว่าเราก็เป็น เราไปเปิดอินเตอร์เน็ตดูว่าอาการแบบนี้มันใช่หรือเปล่า มันก็มีตามนั้น แต่ก็ไม่ได้เป็นเยอะถึงขั้นเป็น ซึมเศร้า แต่ว่าเหมือนบางทีล้า ลูกร้องไห้เยอะๆ เราไม่รู้ว่าเขาร้องเพราะอะไร เราก็ร้องตาม แต่พอจุดหนึ่งเริ่มปรับตัวได้ ฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายมันเริ่มเปลี่ยน มันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม เป็นปกติ

เคยเสียน้ำตาแบบไม่คาดคิดกับเรื่องอะไรบ้าง?

“เหตุการณ์ที่ทำให้เสีน้ำตาบ่อยๆ คือลูกร้องไห้เยอะมากๆ ทำอย่างไรก็ไม่เงียบ จนเขาสำลัก แล้วเหมือนเราทำอะไรไม่ถูก หรือบางทีเราอุ้มเขาแรงเกินไป แล้วเขาอาเจียนนม เราก็ต้องสังเกตและเรียนรู้ แต่บางที่เป็นเยอะเราก็ตกใจ คนเป็นแม่มันก็ช็อกว่าลูกเป็นอะไร ทำไมอยู่ดีๆ เป็นแบบนี้ มันจะมีภาวะแบบนี้ ณ ตอนนั้น”

ปรึกษาวิธีการรับมือจากใครบ้างไหม?

“ส่วนใหญ่ก็จะปรึกษาสามี และคุณหมอ เรามีโอกาสได้คุยกับคุณหมอที่ดูแลเด็กอยู่เรื่อยๆ ด้วยความที่เราเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่บางอย่างเราก็จะไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กในแต่ละวัยมันคืออะไร จริงๆ ธรรมชาติของเด็กเป็นแบบนี้ แค่เราไม่เคยมีลูกแค่นั้นเองเลยยังไม่เข้าใจ”

เจอชาวโซเชียลช่วยเลี้ยงลูกย้างหรือยัง?

“ยังไม่ค่อยเจอชาวโซเชียลช่วยเลี้ยงลูก อาจจะมีแต่ไม่ได้เยอะมาก จริงๆ ตอนนี้เราเองก็ถามจากหลายคนมาก แต่สุดท้ายไม่ว่าใครจะแนะนำว่าอย่างไร มันก็ขึ้นอยู่กับลูกเราด้วยว่าเขาเป็นแบบนั้นหรือเปล่า บางทีเด็กแต่ละคน นิสัยก็ไม่เหมือนกัน การเลี้ยงดูแต่ละบ้านก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นเราก็ดูจากลูกเราเป็นหลัก แต่ถ้าแนะนำแบบดีๆ มาเราก็พร้อมที่จะรับฟัง เพราะบางอย่างเราเองก็ไม่รู้จริงๆ แต่ถ้าแนะนำแบบเป็นการติติง ตอนนี้ยังไม่มี แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะมี ขอออกตัวไว้ก่อนเลย เพราะเราก็เลี้ยงลูกแบบปกติทั่วไป เราคิดว่าลูกเราสำคัญที่สุดอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าพ่อแม่คิดที่จะทำให้ลูกแล้วมันไม่แย่หรอก”

สามีให้กำลังใจอย่างไรบ้าง?

“สามีคอยให้กำลังใจตลอด เขาจะรู้ตั้งแต่แรกว่าจะมีภาวะต่างๆ ของคุณแม่ เขาก็จะให้กำลังใจ กอด ปลอบว่าเดี๋ยวก็โอเค ลูกเราไม่เป็นอะไร เขาพูดทุกอย่างเลย และตอนนี้ก็โอเค แฮปปี้ดี น้องเริ่มโตขึ้น เราได้เรียนรู้เขามาในระดับหนึ่งแล้ว ก็จะเริ่มเข้าใจเขา ซึ่งเขาเองก็เริ่มที่จะเข้าใจเรามากขึ้นเช่นกัน”

การเป็นคุณแม่นี่ทั้งเหนื่อย และมีความสุขในเวลาเดียวกันเลยนะคะ พอได้ฟังจาก รถเมล์ แล้วแอดเองก็อดยิ้มตามไม่ได้จริงๆ

คลิปอีจันแนะนำ
เปิดใจครั้งแรก อาบี ปกชนม์ หลังหายไปกว่า 2 ปี