โอที รัฐธนินท์ เชื่อมั่นในตัว พิ้งกี้ สาวิกา พร้อมส่งกำลังให้เข้มแข็ง

โอที รัฐธนินท์ เชื่อมั่นในตัว พิ้งกี้ สาวิกา พร้อมส่งกำลังให้เข้มแข็ง หวังสักวันหนึ่งศาลจะเมตตา

เป็นเพื่อนที่คบกันมาอย่างยาวนานมากๆสำหรับ โอที รัฐธนินท์ จิรวัฒน์โภคิน กับนางเอกสาว พิ้งกี้ สาวิกา ที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เรียนมาด้วยกัน เป็นแก๊งเดียวกับ แตงโม ภัทรธิดา ซึ่งวันนี้ พิ้งกี้ เจอมรสุมใหญ่ในชีวิตอีกครั้ง ต้องถูกคุมขังเข้าเรือนจำ ในคดีแชร์ Forex-3D อีจันบันเทิงได้มีโอกาสคุยกับ โอที ที่ได้เปิดใจถึงเพื่อนสุดซี้คนนี้ โดย โอที เล่าว่า

“ ผมกับกี้ เรียนด้วยกันมาตั้งแต่อายุ 16-17 ปีครับ เรียนด้วยกันมา เราเรียนร้องเพลงด้วยกัน อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปตั้งแต่ตอนที่ แตงโม เสียชีวิต คือจะมี โอ มีโม มีพิ้งกี้ และก็พี่บิ๊ก D2B ที่เรียนร้องเพลงด้วยกัน ตอนนั้นยังไม่มีใครที่เป็นศิลปินนะครับ จนกระทั่งมหาวิทยาลัย โอก็เรียนกับกี้ รับปริญญาด้วยกัน กี้เป็นเพื่อนที่น่ารักมากครับ”

“ในตอนที่เขาดังมากๆ ถามว่าความเป็นเพื่อนของเราเปลี่ยนไปไหม ไม่เลย แม้ว่ากี้จะงานเยอะมาก มีเหมือนกันนะที่เพื่อนๆแอบน้อยใจกี้ ว่าไม่มีเวลามาเจอเพื่อนเลย โอเคยส่งข้อความไปด่ากี้ซะยาวเลย เหมือนเพื่อนด่าเพื่อนอ่ะครับ สุดท้าย กี้ก็ตอบกลับมาว่า ถ้ากี้ไม่แคร์โอ ไม่แคร์เพื่อนๆ คงไม่คบกันมานานขนาดนี้หรอก กี้เสียใจที่โอว่ากี้ขนาดนี้ สุดท้ายเราก็เป็นเหมือนเดิม เพื่อนที่ดีเหมือนเดิม เจอกันกอดกันทุกครั้ง แม้ว่ากี้จะไม่ค่อยมีเวลามาเจอเพื่อน แต่งานสำคัญกี้ไม่เคยขาดนะครับ กี้จะมาทุกครั้ง โอพูดได้เลยว่ากี้เป็นเพื่อนคนหนึ่งที่โอรักมากๆ”

“ถ้าให้พูดถึงเพื่อนคนนี้ เรามีความประทับใจในตัวเขาเยอะมากหลายเรื่อง กี้เป็นคนที่ทำงาน ขยันมาก เก็บเงิน ไม่เคยที่จะฟู่ฟ่า ฟุ่มเฟือย ทำงานเแล้วก็เก็บอย่างเดียวเลย กี้เป็นคนที่เต็มร้อยกับเพื่อนมากๆ ให้ใจและจริงใจกับเพื่อนในทุกๆเรื่องเลย ถามว่าที่ผ่านมากี้มีปัญหาเรื่องเงินมั้ย เรารู้จักกันมา 20 กว่าปี กี้ไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้เลย เขาเป็นคนที่ทำงานเก็บเงินอย่างเดียวอย่างที่บอกอ่ะครับ เขาไม่ใช่คนฟุ่มเฟือย”

สำหรับข่าวล่าสุด ตอนนั้นรู้แล้วช็อกขนาดไหน?

“โห บอกเลยว่าโอช็อกมาก ช็อกไม่ต่างจากคนไทยทั้งประเทศ แต่ด้วยความเป็นเพื่อน เราอาจจะรู้สึกมากหน่อย เพราะว่า เราทั้งช็อกทั้งงง ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนเรา กี้ไม่เคยมาปรึกษาหรือพูดเรื่องนี้กับเพื่อนเลยครับ ย้อนไปประมาณ 3เดือนที่แล้วก่อนเกิดเรื่อง ช่วงที่โมเสียอ่ะครับ เราคุยกันเป็นชั่วโมงเลย โอรู้สึกว่ากี้เขาเหมือนปลง เขาบอกว่าเราผ่านอะไรกันมาเยอะมากเลยมาจนวันนี้ กี้เขาพูดเลยว่า เขาโฟกัสเรื่องการเป็นนักแสดง และขอรักษามาตรฐานการเป็นนักแสดงให้ดีที่สุด ผมก็รู้สึกว่ามันดี กี้บอกว่าวันนี้ความเป็นเพื่อนวันคลิกกัน เมื่อก่อนอาจะมีความไม่เข้าใจเพื่อน แต่วันนี้คือเราเข้าใจกัน เพื่อนไม่จำเป็นต้องคุยต้องเจอทุกวัน แต่มันจะอยู่ในใจตลอดไปอยู่แล้ว ผมรักมันอ่ะ”

“เวลาเขาเจอมรสุมข่าว ผมไม่เคยถาม แต่ก็จะส่งขอความไปว่าเราจะอยู่ตรงนี้กับเขาเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่างเหตุการณ์ล่าสุดครั้งนี้ ผมรู้ว่าโทรศัพท์มันคงไม่ได้อยู่ที่ตัวเขาแล้ว แต่ผมก็ส่งข้อความไปหาเขาว่า ผมรักเขามาก เขาเป็นเพื่อนที่ผมรักมาก ผมจะอยู่ตรงนี้ เพื่อรอเขา อยากให้เขาเข้มแข็ง เรื่องของกระบวนการทางกฎหมายเราไม่แตะ แต่ในฐานเพื่อนที่รู้จักกันมา ผมพิมพ์ลงไปในเฟซบุ๊ก เพื่อให้กำลังใจเขาอย่างนี้ไปเรื่อยๆครับ”

เพื่อนไปอยู่ในนั้นมันไม่ได้สบาย เราเป็นห่วงเพื่อนขนาดไหน?

“ถ้าถามว่าขนาดไหนต้องบอกว่ามากครับ ทุกครั้งที่เราเจอกัน ไม่มีครั้งที่ไหนที่กี้ไม่กอดโอ กี้เจอเพื่อนกี้จะกอดเพื่อนทุกครั้ง เป็นความรู้สึกว่ามันอบอุ่น มันอุ่นใจ เรามีกันและกันของความเป็นเพื่อน กี้เป็นคนไม่ได้มีเพื่อนเยอะ แต่ทุกคนที่เขาคบ เขาจะให้ใจเพื่อนแบบเต็มร้อยครับ โอเจอกี้ล่าสุดคือ 3 เดือนที่แล้ว แต่คุยไลน์กันเมื่อ 4 วันที่แล้วก่อนเกิดเรื่อง เรามีนัดกันจะไปร้านกาแฟเพื่อน โอพยายามคิดตลอดว่าขอให้เพื่อนเข้มแข็ง แต่เมื่อเพื่อนๆได้คุยกัน เขาก็บอกว่า กี้เป็นคนเข้มแข็งอยู่แล้ว แต่ต่อให้เข้มแข็งขนาดไหน และต้องไปอยู่จุดนั้น มันก็ไม่ไหวหรอก คือความรู้สึกมันร้องไห้ในใจ ไม่รู้ว่าจะช่วยเพื่อนเราได้ยังไงครับ ถามว่าเพื่อนมีความหวังไหม ทุกคนมีความหวังหมดว่าศาลท่านจะเมตตา ในส่วนของรายละเอียดบางอย่าง เราเองมั่นใจในตัวเพื่อนเรามากๆ เคสนี้มีคนบอกว่าสงสารกี้มาก ทั้งๆที่เขาอยู่ในฝั่งของผู้เสียหายนะครับ มันมีดีเทลหลายอย่างที่ไม่สามารถพูดได้”

กลัวไหมว่าเพื่อนจะเครียดจนคิดสั้น?

“ไม่กลัวครับ โอมั่นใจว่าเขาจะไม่ทำถึงจุดนั้นแน่นอน กี้เป็นคนคิดบวกมาก มีพลังมากๆ ตั้งแต่เจอหลายๆเรื่องที่ผ่านมา เขามีความเป็นผู้ใหญ่เข้มแข็งมากๆ ถามว่ามีแพลนว่าจะไปเยี่ยมไหม ก็โอได้มีการติดต่อที่ทัณฑสถานไว้แล้ว เราติดตามตลอดว่าตอนนี้เพื่อนอยู่ที่ไหนแล้ว และพอเข้าแดนแรกรับ เราอาจจะมีการเข้าไปเยี่ยม ก็ต้องดูว่ากี้เองอยากให้ญาติหรือเพื่อนคนไหนเข้าไปเจอเขาบ้าง เขาจะพร้อมเจอเพื่อนหรือเปล่า”

“เรื่องที่คนมองว่าโกง โอจะอธิบายแบบนี้ อภิรักษ์ เขาทำอยู่ Forex-3D เงิน 2500 ล้านอยู่ตรงนี้ มันก็เหมือนแชร์ลูกโซ่ทั่วไปที่เขาจะเปิดบริษัท 1 2 3 4 กี้ดันไปมีรายชื่ออยู่ในบริษัทหนึ่ง และเป็นผู้ถือหุ้น 20%.ในบริษัททำโฆษณานั้น คนมองว่ากี้มีเงินเยอะมาก ถูกยึดรถลัมโบกีนีสีฟ้า กี้โดนตำรวจเรียก หน้าโทรมๆ อันนั้นโอบอกเลยว่าเป็นภาพเก่าครับ ส่วนของกระบวนการทำธุรกิจ ตัวของบริษัท เงิน 2500 และเอามาฟอกลงมาที่บริษัท 1 2 3 4 5 และชื่อกี้ก็ดันไปอยู่ในหนึ่งบริษัทนั้น เท่านั้นเลยครับ โอบอกเลยนะว่า กี้ไม่รู้กฎหมาย กี้เป็นนางเอก อาจจะเชี่ยวชาญเรื่องของวงการบันเทิง แต่เรื่องของการทำธุรกิจ กี้ไม่รู้เรื่องเลยครับ ตอนนั้นเขาอายุแค่ 27-28 เอง ด้วยประสบการณ์ ด้วยอะไรหลายๆอย่างมันทำให้ทุกอย่างมันพลาดหมดเลย”

“เพื่อนๆเองก็พยายามตามอยู่ว่า ตอนนี้กี้อยู่ไหน สามารถนำอาหารการกินเอาไปให้เขาได้ไหม เพื่อนกลุ่มใกล้ชิดมากๆ ก็พยายามจะหาวิธีเข้าไปเยี่ยมอยู่ครับ เพื่อนๆทุกคนพยายามซัพพอร์ตเขา ไม่มีใครทิ้งเขาแน่นอนครับ”

อยากบอกอะไรกับ พิ้งกี้ ไหม?

“เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว โอเชื่อ แม้ว่าใครจะว่ากี้ โออยากบอกว่า โอโตมากับกี้ 20 กว่าปี โอรับรู้ข้อมูลต่างๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นครั้งนี้ โอเชื่อมั่นในตัวกี้ เป็นกำลังใจให้ ขอให้กี้เข้มแข็ง โอเชื่อว่าสักวันศาลท่านจะเมตตา โอเชื่อครับ แล้วเราก็จะได้กลับมาเจอกันอีกครับ”

เป็นการเปิดใจจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งของ พิ้งกี้ สาวิกา ที่เจ้าตัวก็บอกว่า ยังคงเชื่อมั่นในตัวเพื่อนเสมอ พร้อมที่จะคอยเป็นกำลังใจ และซัพพอร์ตอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนนั่นเองค่ะ

คลิปอีจันแนะนำ
เก็บตกช็อตเด็ด ศึกคู่พิเศษ บัวขาว ปะทะ โคตะ