นนี้ (11 ก.พ. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อประชาชน จากกรณีเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง ของบริษัทสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด มหาชน (SPRC) เมื่อวานนี้ (10 ก.พ. 65) โดยเป็นน้ำมันค้างท่อในจุดเดียวกับที่เคยเกิดการรั่วไหลเมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา โดยได้กำกับติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เร่งบูรณาการแก้ไขปัญหาโดยด่วน อย่าให้กระทบถึงประชาชนบริเวณใกล้เคียง
ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้น ทางบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม จำกัด ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินน้ำมันรั่วไหล Tier 1 (ภาวะน้ำมันรั่วไหลขนาดเล็ก ไม่เกิน 20 ตัน) เนื่องจากพบฟิล์มน้ำมันดิบ (สีเงิน) บริเวณทิศเหนือ ห่างจากทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเลประมาณ 3 ไมล์ทะเล ห่างจากฝั่งประมาณ 11 ไมล์ทะเล และเป็นจุดเดียวกับที่เคยเกิดการรั่วไหลขึ้นครั้งก่อน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุการณ์ นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า ได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบและแก้ไขสถานการณ์อย่างเร่งด่วน โดยกองทัพเรือได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ขึ้นสำรวจ และกำหนดแนวทางการใช้สารขจัดคราบน้ำมัน ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ในจุดที่เกิดคราบน้ำมัน เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจัดการคราบน้ำมันให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว และมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ รวมถึงปริมาณน้ำมันไม่ให้ไหลเข้าชายฝั่งได้ นอกจากนี้ กรมเจ้าท่าได้เร่งประสานงานกับทางบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม จำกัด เพื่อตรวจสอบจุดที่รั่วไหลว่า ยังคงมีปริมาณน้ำมันตกค้างอยู่ในท่ออีกหรือไม่ เพื่อวางแผนและเตรียมการป้องกันเกิดเหตุซ้ำ