ตื่นตา! ฝูงโลมา แหวกว่ายอวดโฉม ที่สิมิลัน

พบฝูงโลมา ว่ายอวดโฉม ที่เกาะบางู อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 62 นายทัศเนศวร์ เพชรคง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนพบฝูงโลมาจำนวนมาก คาดว่ามีจำนวนไม่น้อยกว่า 80 ตัว ว่ายน้ำหากินอยู่บริเวณด้านทิศเหนือของเกาะ 9 หรือเกาะบางู ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

ภาพจากอีจัน

ทั้งนี้ เชื่อว่าโลมาฝูงนี้น่าจะเป็นฝูงเดียวกันกับที่นักท่องเที่ยวได้พบเห็นอยู่บ่อยครั้งที่บริเวณเส้นทางเดินเรือนำเที่ยว

การพบฝูงโลมาที่ใกล้ชิดและไม่ตื่นกลัวมนุษย์ นอกจากจะสร้างความดีใจแล้ว ยังเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปท่องเที่ยวยังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไปว่า หมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งถูกกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช กำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวชมความงดงามของธรรมชาติ ตามจำนวนที่กำหนด ได้ทำให้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ฟื้นตัวทางธรรมชาติ มีการพบสัตว์ทะเลหายาก และใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ซึ่งก่อนหน้านี้หมู่เกาะสิมิลัน จะถูกรบกวนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นจนเกินขีดความสามารถที่ธรรมชาติจะรองรับได้ ทำให้เกิดผลกระทบหลายด้าน ทั้งทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป

ภาพจากอีจัน

นายปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเล เผยว่า การพบฝูงโลมา ฉลามวาฬ ฉลามเสือดาว กระเบนราหู เต่าทะเล วาฬ บรูด้า อาศัยหากินอยู่บริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ถือเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้พบ หอยแม่นหมวกกันน็อค เป็นครั้งแรก ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่ฟื้นตัวกลับคืนมา สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการร่วมมือกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และ การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเหมาะสม

แม้ว่ามาตรการบางอย่างอาจจะส่งผลกระทบถึงรายได้ของผู้ประกอบการ แต่การร่วมกันอนุรักษ์หมู่เกาะสิมิลันให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า ที่จะปล่อยให้การท่องเที่ยวสร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รวมถึงสัตว์ทะเลในพื้นที่ ให้เกิดความเสียหาย เสื่อมโทรม