เกิดอะไรขึ้น? ปลาตายเกลื่อนหาด นักวิทย์ฯ เผยอาจเกิดจาก “แพลงก์ตอนบลูม”

ดร.ธรณ์ เผยสาเหตุ ปลาตายเกลื่อนหาดบางพระ อาจเกิดจาก “แพลงก์ตอนบลูม” ชี้ ส่งผลกระทบต่อชาวประมงโดยตรง

จากกรณีที่วานนี้ (8 ก.ย. 2566) บริเวณชายหาดบางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พบปลาหลากหลายชนิดถูกคลื่นซัดมาตายเกลื่อนชายหาด ส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวล

ส่วนสาเหตุปลาตายเกลื่อนครั้งนี้ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่า

สาเหตุปลาน่าจะตายเพราะปรากฏการณ์ “แพลงก์ตอนบลูม” น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีเขียวปี๋จากบางแสนถึงศรีราชา ตามที่คณะประมงสำรวจไว้เมื่อ 2-3 วันก่อน รุนแรงจนออกซิเจนในน้ำเหลือไม่พอให้ปลาหายใจ

“แพลงก์ตอนบลูม” จะหมดไปเมื่อเข้าหน้าหนาว ทว่า…มันจะกลับมาใหม่ในหน้าฝนปีหน้า และอาจมากขึ้นถี่ขึ้น

ซึ่งมันเป็นปัญหาที่สะสมมานาน ทางออกจึงไม่ง่าย แต่เรายังพอทำอะไรได้บ้าง ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ แนะนำดังนี้

1. เร่งสนับสนุนการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจและหาแนวทางเตือนภัย / แก้ไขระยะสั้น-กลาง-ยาว จำแนกผลกระทบที่ซับซ้อนในพื้นที่

2. ยกระดับประเด็นปัญหา ตั้งคณะอะไรสักอย่างมารับมือผลักดัน โดยอิงกับหลักวิชาการ เพราะความรุนแรงไม่เหมือนก่อน มันเกินกว่ากลไกปรกติจะทำงานไหว

3. ภาคส่วนต่างๆ ในระดับท้องถิ่นจนถึงระดับประเทศ ช่วยผลักดันและสนับสนุนนโยบาย / งบประมาณ เพราะความเดือดร้อนมันจริงจังและรุนแรง

ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อข้าวปลาอาหาร ต่อรายได้จุนเจือครอบครัว มันเยอะกว่าเงินที่ใช้ลงทุนมหาศาล

อีกทั้ง ทะเลคือแหล่งกระจายรายได้ดีที่สุด สร้างอาชีพสร้างงาน ขอเพียงรักษาทะเลที่สมบูรณ์ไว้ คนริมทะเลก็ยังหาเช้ากินค่ำต่อไปได้ แต่หากทะเลกลายเป็นเช่นนี้ จะหาเช้าหาค่ำก็คงไม่พอกิน และหนี้สินก็จะตามมา

“ธรรมชาติที่ดีคือเศรษฐกิจที่ดี ธรรมชาติที่ดีคือทุกคนที่อยู่รอบๆ มีความสุข มีอาชีพมีรายได้เพียงพอ”
“แต่ถ้าทะเลกำลังตาย จะกระตุ้นเศรษฐกิจอัดฉีดเม็ดเงินลงไปเท่าไหร่ สุดท้ายจานข้าวก็ว่างเปล่าครับ”