ถึงแม้ทางญาติๆ จะบอกว่าแม่วิมลได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่อีเต้ยก็จะขอหาหลักฐานมายืนยันก่อนให้ได้!
เบาะแสทั้งหมดที่ได้มาจากชาวบ้านเชียง จ.อุดรธานี อีเต้ยค่อยๆ จับต้นชนปลายและกลับไปสืบค้นคดีของแม่วิมลที่ สน.พระโขนง จ.กรุงเทพฯ ตามที่ตาเกียรติได้บอกไว้ว่าแม่พี่เอกเสียที่ย่านพระโขนง เป็นไปได้ว่า สน.พระโขนงอาจมีข้อมูลอยู่
แต่สุดท้ายแล้ว อีเต้ยก็ต้องกลับมามือเปล่า เพราะไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนโดยเฉพาะปีที่เกิดเหตุ และทางตำรวจก็จำไม่ได้เพราะมันนานมากแล้ว เอาไงต่อล่ะทีนี้?
ช้อยส์ต่อไป ค้นหาใบเกิดต้นขั้วของพี่เอกที่หายไปที่เทศบาลอำเภอเมืองปทุมธานี ในใบเกิดพี่เอกน่าจะระบุชื่อแม่ไว้ เราอาจได้ข้อมูลจากตรงนั้น!
เมื่ออีเต้ยอีจันติดต่อกับเจ้าหน้าที่เทศบาลเสร็จแล้ว ข่าวดีคือได้ใบเกิดต้นขั้วของพี่เอกมาครับ แต่ชื่อแม่…ระบุเพียงแค่ชื่อจริง ไร้นามสกุล ส่วนที่อยู่เป็นที่อยู่เดียวกับพ่อพี่เอก ซึ่งในทะเบียนบ้านพ่อก็ไม่มีชื่อของแม่วิมลปรากฏอยู่
แล้วจะไปหาใบมรณะบัตรแม่วิมลจากที่ไหนละเนี่ย?
อีเต้ยเริ่มกังวลใจ แต่ก็ต้องหาจนกว่าจะสุดทาง ตัดสินใจบินไป จ.อุดรธานีอีกครั้ง เพื่อหาคำตอบที่ยังค้างคา
การมาเยือนบ้านเชียงในครั้งนี้ ต้องได้อะไรกลับไปให้ได้!
1.ข้อมูลของตระกูลพรมศิลป์ที่มีอยู่ในสํามะโนครัว หมู่ 15 ในอดีต
2.ชื่อที่ถูกต้อง ของตระกูล พรมศิลป์
3.โฉนดที่ดิน บ้านที่สร้างทับ ที่ดินเก่าพ่อสมพงษ์ ด้านหลังโฉนดอาจระบุชื่อที่ถูกต้องของแกไว้
ตัวเลือก 3 ทางสุดท้ายที่อีเต้ยจะไปค้นหาคำตอบ โจทย์แรกไปหาข้อมูลสำมะโนครัว หมู่ 15 ในอดีตที่อำเภอหนองหาน อีเต้ยให้ปลัดอำเภอค้นหาข้อมูล “พรมศิลป์”
แต่สุดท้ายก็ไม่พบอะไรเลย อีเต้ยคาดว่าอาจไปผิดที่นามสกุล ปลัดอำเภอจึงบอกกับเราว่าทางเดียวที่จะหาหลักฐานได้คือต้องหาคนตระกูล “พรมศิลป์” ที่สะกดถูกต้องมาให้ได้
อันดับแรกอีเต้ยขอกลับไปหายายขันทองก่อน คุยถึงเบาะแสคนตระกูลพรมศิลป์อีกครั้ง เผื่อแกจะรู้จักใครอีก
เมื่อไปถึงอีเต้ยก็ยืนคุยกับยายขันทองที่หน้าบ้าน แกก็เอ่ยถึงญาติอีกคนในบ้านเชียง “ตาบุ” บ้านอยู่ถนนเส้นหลังโรงเรียน อีเต้ยจึงขอเลือกโจทย์นี้ เผื่อจะมีหวัง!
ระหว่างทางอีเต้ยขอแวะเพิ่มพลัง เติมอาหารเข้าท้องที่ตลาดบ้านเชียง พร้อมถามทางบ้านตาบุกับแม่ค้า คุยไปคุยมาอีเต้ยก็เลยลองเล่าเบาะแสแม่วิมลให้แม่ค้าฟัง แกเลยชี้เป้าให้เราไปถาม “แม่ไพร” เป็นกลุ่มแม่บ้านเก่าแก่ บางทีเราอาจได้เบาะแสถือเป็นเรื่องดี!
ถ้างั้นอีเต้ยขอเก็บตาบุไว้ในใจ แล้วไปหาแม่ไพรก่อนแล้วกัน
แต่พอไปถึงบ้านแม่ไพรกลับปิดเงียบ โชคดีที่มีเบอร์ของแกติดอยู่หน้าบ้าน อีเต้ยจึงยกหูหาทันที แนะนำตัวพร้อมเล่าที่ไปที่มา แม่ไพรเอ่ยขึ้น “ทำไมไม่ไปถามน้องคนสุดท้องล่ะ”
อีเต้ยงง ใครคือน้องคนสุดท้อง…?
แม่ไพรบอก “จิ๊โจ่ย พันศักดิ์” น้องคนสุดท้องของแม่วิมล เคยทำงานที่โรงสีข้าว ต.หนองเม็ก เมื่อ 2-3 ปีก่อน
โอ้ ไม่แน่เป้านี้อาจได้เบาะแส
แต่เพื่อยืนยันว่าเป้านี้มีตัวตนจริง อีเต้ยกลับไปหาผู้ใหญ่บ้านโยธิน หมู่ 15 ต.บ้านเชียง ถามถึง “จิ๊โจ่ย”
พ่อผู้ใหญ่บอกว่ามีตัวตนจริง แต่เสียชีวิตไปนานแล้ว
เอ้า หักมุม! อีเต้ยดีใจยังไม่ทันสุดก็เคว้งอีกแล้ว
ไม่เป็นไร อย่างน้อยเราได้ทางเดินเล็กๆ ไปต่อได้ ถึงแม้จิ๊โจ่ยจะเสียไปแล้ว ลองสืบจากครอบครัวจิ๊โจ่ยแทน ผู้ใหญ่บ้านบอกทางไปโรงสี ต.หนองเม็กเสร็จ อีเต้ยก็บึ่งรถไปเลยจ้า
เมื่อไปถึง “พี่สูง” เจ้าของโรงสีไม่อยู่ แต่เราได้เบอร์มาโทรคุย ทันทีที่ปลายสายรับ อีเต้ยก็ถามถึงจิ๊โจ่ยว่ารู้จักหรือเคยทำงานที่นี่ไหม?
“ไม่มีครับ ยังไงก็ไม่มี” อ้าว…คราวนี้อีเต้ยถึงทางตันของจริงแล้วครับ
ภารกิจอีเต้ยตามหาแม่ให้พี่เอกจะไปยังไงต่อ? เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะ