การสวมแมสก์ยังจำเป็น ? ระวังตัวเลี่ยงเสี่ยง เมื่อ โควิด-19 พุ่ง!

การสวมแมสก์ยังจำเป็น ? เพื่อไม่ให้กลับมาเป็นหรือเสี่ยงซ้ำคิดจะ ถอดแมสก์ ควรระวังตัวเลี่ยงเสี่ยง เมื่อ ยอดผู้ติดเชื่อ โควิด-19 พุ่ง!

พร้อมแค่ไหนถามใจถามสุขภาพกันดู มั่นใจกันไหม ? กลัวอยู่ไหม ? พร้อมถอดแมสก์กันรึยัง ? หลังจากมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 65 โดย ศบค.เห็นชอบสวมหน้ากากอนามัย ตามความสมัครใจ แต่เหมือนยิ่งทำให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น ทำให้หลายคนเริ่มกังวลและลังเล

ด้านกระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์โควิดพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เนื่องจากผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ทำให้พบผู้ติดเชื้อที่อาการไม่มากและรักษาตัวที่บ้านมากขึ้น โดยพบผู้รักษาในระบบ HI เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 1.5 หมื่นราย ลงทะเบียนรับยาผ่านระบบ สปสช. แบบผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นจาก 1.91 แสนราย เป็น 2.07 แสนราย แต่ผู้ป่วยที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลยังเพิ่มขึ้นไม่มาก อยู่ในเกณฑ์รองรับได้ในระบบสาธารณสุข แต่ถ้าผ่อนคลายมาตรการทั้งหมดไม่สวมหน้ากาก ก็อาจจะมีผู้ป่วยมากขึ้นอีก และหากกลุ่ม 608 ป่วยมากขึ้น ก็อาจจะเป็นระลอกใหญ่ขึ้นได้ ดังนั้น อย่าเพิ่งรีบผ่อนหน้ากากอนามัย ขอให้ใส่ไว้ก่อนเมื่ออยู่ในสถานที่ปิด สถานที่แออัด ขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะกลุ่ม 608 และรีบไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพิ่มเติม

อีกทั้ง ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ที่ยอดผู้ติดเชื้อเริ่มขยับสูงขึ้น ว่า “ระบบการคัดกรองผู้ป่วยที่ติดเชื้อ การรักษาพยาบาล การดูแล ป้องกัน ยังมีประสิทธิภาพที่สูง มาตรการต่างๆ ได้ผ่อนคลายเพื่อให้เกิดความสะดวกสูงสุด แล้วยังได้ สั่งการ สาธารณสุขเตรียมพร้อมเรื่อง เตียง ยา แพทย์ พยาบาล พร้อมแนะ ประชาชน รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อลดความเสี่ยงป่วยหนักและเสียชีวิต

ล่าสุด เฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC โพสต์ว่า คนที่ติดโรคโควิดระลอกใหม่นี้ เท่าที่ผมสังเกตส่วนใหญ่ เป็นคนที่ระมัดระวังตัวป้องกันตัวเองเต็มที่ และเป็นคนที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิดที่มีประสิทธิภาพสูงครบโดส รวมทั้งได้เข็มกระตุ้น เช่นได้รับวัคซีนไฟเซอร์ 3 เข็ม วัคซีนแอสตร้าเซเนกา 2 เข็มตามด้วยวัคซีน mRNA 2 เข็ม หรือวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ตามด้วยแอสตร้าเซเนกา 1 เข็มและโมเดอร์นาอีก 2 เข็ม แต่ก็ยังติดเชื้อ แสดงว่าเชื้อนี้แพร่กระจายเร็ว และหลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการฉีด

วัคซีนได้มากกว่าสายพันธุ์เดิมก่อนหน้านี้ แต่โชคดีคนกลุ่มที่ได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพดี และได้รับเข็มกระตุ้น จะมีอาการน้อยมาก หายได้เอง และส่วนใหญ่ไม่มีอาการของลองโควิด

เราไม่สามารถพึ่งวัคซีนรุ่นปัจจุบันในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด จำเป็นต้องพึ่งมาตรการส่วนบุคคลโดยเฉพาะหน้ากากอนามัย

ถ้าคนติดเชื้อไม่ใส่หน้ากากอนามัย คนปกติใส่หน้ากาก จะลดการรับเชื้อได้ร้อยละ 30

ถ้าคนติดเชื้อใส่หน้ากากอนามัย คนปกติไม่ได้ใส่หน้ากาก จะลดการรับเชื้อได้ร้อยละ 95

ถ้าทั้งคนติดเชื้อ และคนปกติ ต่างใส่หน้ากากอนามัย จะลดการรับเชื้อได้ร้อยละ 98.5

ขณะนี้เป็นเรื่องจำเป็นที่ทุกคนควรใส่หน้ากากอนามัยเวลาอยู่ในที่สาธารณะผู้คนแออัด อากาศปิด ถ่ายเทไม่ดี ในอนาคตอันใกล้เมื่อเรามีวัคซีนรุ่นใหม่ที่สามารถครอบคลุมไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4, BA.5 เราอาจจะพึ่งวัคซีนรุ่นใหม่ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19