เข้าใจว่าคนอยากกิน มันเบื่ออาหาร เครียดด้วย ที่อยู่เเต่ในห้อง
เมื่อวันที่ 28 ส.ค.64 เกิดเหตุทะเลาะวิวาทที่ศูนย์กักกันเพื่อสังเกตอาการโรคติดเชื้อไวรัสโควิด บุรีรัมย์
ที่เกิดเหตุเป็นศูนย์กักกันเพื่อสังเกตอาการโรคติดเชื้อไวรัสโควิด ของต.ปราสาท อ.บ้านด่าน
เบื้องต้นพบ น.ส.ธิดารัตน์ เจ้าหน้าที่ศูนย์กักกันเล่าว่า
ช่วงเช้าได้มีภรรยาของนายวิชาญ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาว ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน นำอาหารปรุงสำเร็จมาให้ภายในศูนย์
ตนเองจึงขอตรวจสอบพบภายในถุง พบว่ามีน้ำพริก ผักลวก แกง และผลไม้ ตนจึงบอกภรรยาของนายวิชาญ ว่าไม่อนุญาตให้นำอาหารเข้าไปยกเว้นผลไม้เท่านั้น ที่สามาถนำเข้าไปได้ พร้อมทั้งอธิบายว่าที่ศูนย์ มีอาหารให้ 3 มื้อและแจ้งถึงสาเหตุว่าเนื่องจากก่อนหน้านี้มีญาตินำอาหารมาส่งให้กับผู้ที่โดนกักกันแล้วเกิดอาหารท้องเสีย อาหารเป็นพิษ โดยเฉพาะน้ำพริก ถึงขั้นนำส่งโรงพยาบาลบ้านด่านมาแล้ว
ให้นายวิชาญ ไม่พอใจเกิดการโต้เถียงกันลั่นศูนย์กักกัน โดยระหว่างนั้น น.ส.ธิดารัตน์ อ้างว่านายวิชาญ ปรี่ที่จะมาทำร้ายตนตนเองตกใจจึงวิ่งหนีก่อนแจ้งตำรวจเข้ามาตรวจสอบ
ด้านนายวิชาญ เล่าว่าตนเองเดินทางมาจากจ.กาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค ที่ผ่านมา แล้วมากักตัวอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้ให้ครบ 14 วัน แต่ละวันกินแต่ข้าวกล่อง รสชาติไม่ถูกปาก จึงโทรศัพท์ ไปบอกภรรยาที่บ้านว่าอยากกินน้ำพริก ให้ตำน้ำพริก พร้อมกับผักลวกมาส่งให้ที่ศูนย์ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต ให้นำน้ำพริกเข้ามายอมรับว่าเครียดเพราะตั้งความหวังไว้ว่าจะได้กินน้ำพริกผักลวกอร่อยๆ
เหตุผลของเจ้าหน้าที่อ้างว่ากินแล้วจะท้องเสียนั้นส่วนตัวคิดว่าเป็นไปไม่ได้เพราะคนอีสานกินแต่น้ำพริกมาตั้งแต่เกิด ส่วนหนึ่งรู้สึกผิดที่แสดงการียาไม่ดีกับเจ้าหน้าที่แต่ก็อยากให้เจ้าหน้าที่เห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของคนกินข้าวกล่องเป็นประจำถ้าเป็นไปได้อยากให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนเมนูอาหารให้กับผู้ประกันเพราะนอกจากจะเครียดจากการถูกกักตัวแล้วยังต้องมาเครียดที่ไม่ได้กินอาหารถูกใจบ้าง
เข้าใจทั้งผู้กักตัว เเละเจ้าหน้าที่นะคะ