นายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงความคืบหน้าการติดเชื้อโควิด-19 ของศูนย์พัฒนาเด็กศรีสุข อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น หรือ คลัสเตอร์ฟันน้ำนม ขอนแก่น ว่า หลังจากเมื่อวานนี้ (1 กรกฎาคม 2564) ได้รับเด็กจำนวน 34 คน และครูอีก 8 คน เพื่อเข้ารักษาตัวที่จังหวัดขอนแก่น โดยนักเรียน 11 คน และครู 2 คน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ส่วนเด็กอีก 23 คน และครู 6 คน รักษาตัวที่โรงพยาบาลขอนแก่น
โดยหลังจากที่ผ่านไป 1 คืน พบว่าเด็กทั้งหมดยังคงมีสภาพจิตใจที่ดี ร่าเริงตามวัย ซึ่งโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง ได้จัดสถานที่ เพื่อรองรับเด็กๆ เป็นอย่างดี ซึ่งทั้งหมดจะต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล จนครบกำหนด 14 วัน จะไม่มีการย้ายไปยังโรงพยาบาลสนามแต่อย่างใด หลังจากนี้อีก 48 ชั่วโมง ทีมแพทย์ จะเฝ้าดูอาการของเด็กทั้งหมดอีกครั้ง ในส่วนที่เหลือเด็กอีก 5 คน ที่ได้มีการตรวจซ้ำนั้น ผลคาดจะออกในช่วงเย็นวันนี้ ส่วนเรื่องของสายพันธุ์ที่มีการติดเชื้อภายในศูนย์เด็กเล็กดังกล่าว ผลตรวจเบื้องต้นของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น พบว่าเป็นเชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษ
ด้านการรองรับประชาชนที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่นั้น คาดการณ์ว่าวันนี้ ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นจะมีคนเดินทางจำนวนมาก เพราะเป็นวันสุดสัปดาห์ขอประชาชนได้สแกน QR Code หรือหากไม่ได้สแกน ให้แวะโรงพยาบาลประจำอำเภอทุกแห่ง เพื่อเข้าไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ทันที หลังตรวจจะต้องกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้มีประชาชนที่ได้สแกน QR Code ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีประชาชนลงทะเบียนประมาณ 2,300 คน พบติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 32 คน
ขณะที่ธารน้ำใจจากทั่วประเทศต่างหลั่งไหล ให้ความช่วยเหลือคลัสเตอร์ฟันน้ำนม อย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ใจบุญนำขนม นม ของเล่น แพมเพลิส และของใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็กมามอบให้กับ ทั้ง 2 โรงพยาบาลที่รับการรักษาผู้ติดเชื้อจากกลุ่มคลัสเตอร์ฟันน้ำนม
รวมทั้งสนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ในการดำเนินงานด้านโควิดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ป่วย และคณะทำงานได้เป็นอย่างดี
ส่วนความคืบหน้าอาการของน้องๆ และผู้ป่วยจากคลัสเตอร์ฟันน้ำนม อาการโดยรวมทรงตัว ทีมแพทย์ทำการรักษาตามอาการ แต่ที่น่าห่วงวันนี้ คือ เด็กๆ ห่างจากบ้านและครอบครัวเข้าสู่วันที่ 2 ซึ่งจะต้องคิดถึงบ้าน คิดถึงผู้ปกครองและอาจเริ่มงอแงได้ ทีมแพทย์และผู้ดูแลจึงเตรียมพิจารณาอนุญาตให้ผู้ปกครองของเด็กๆ เข้าพบได้ แต่ต้องดำเนินการอย่างรัดกุม เนื่องจากผู้ปกครองบางคนจัดอยู่ในกลุ่มผู้ป่วย บางคนจัดอยู่ในกลุ่มเฝ้าระวัง และบางกลุ่มอยู่ในกลุ่มกักตัว จึงจะต้องวิเคราะห์สถานการณ์และบริหารจัดการเหตุการณ์ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอน
