คลัสเตอร์เรือนจำ – ไซต์ก่อสร้างเขตหลักสี่ ยังควบคุมได้ ไม่ต้องเพิ่มมาตรการ

อนุทิน ชี้ คลัสเตอร์เรือนจำ – ไซต์ก่อสร้างเขตหลักสี่ ยังควบคุมได้ ใช้มาตรการ Bubble and Seal ไม่ต้องเพิ่มมาตรการ

คลัสเตอร์เรือนจำ คลัสเตอร์ไซต์ก่อสร้างเขตหลัดสี่ อนุทิน บอกยังควบคุมได้!

วันนี้ (17 พ.ค. 64) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พูดถึง คลัสเตอร์เรือนจำ และ คลัสเตอร์ไซต์ก่อสร้างเขตหลักสี่ สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนั้น คลัสเตอร์หลักมาจากเรือนจำซึ่งเป็นพื้นที่ปิด และไซต์ก่อสร้างเขตหลักสี่ ที่สั่งปิดแล้วได้ทำเป็นโรงพยาบาลสนาม ทั้งหมดใช้มาตรการ Bubble and Seal ไม่ให้มีการแพร่เชื้อสู่ภายนอก คัดแยกประเภทผู้ป่วยเป็นกลุ่มเขียว เหลือง และแดง

โดยจะนำเฉพาะผู้ติดเชื้อมีอาการที่ต้องถึงมือแพทย์จริงๆออกมา ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อยังเป็นกลุ่มสีเขียว เมื่อครบ 14 วันก็จะหายดี เช่น เรือนจำติดเชื้อ 9 พันกว่าคน เป็นกลุ่มสีเขียวประมาณร้อยละ 70 เมื่อครบ 14 วันจะมีประมาณ 5 พันกว่าคนที่กลายเป็นจำนวนผู้รักษาหาย ทั้งนี้ ได้ให้การสนับสนุนยารักษาโรคและการฉีดวัคซีน สถานการณ์ถือว่ายังควบคุมได้ ไม่ถึงขั้นต้องเพิ่มมาตรการ ส่วนที่มีการผ่อนคลายการรับประทานอาหารในร้าน ขอให้ทุกคนยังคงมาตรการป้องกันควบคุมโรค ทั้งเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ หรือทำงานที่บ้าน

พร้อมเผยว่า วันนี้ได้เข้าพบหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนโควิด 19 ทั้งจำนวนวัคซีนที่มีและการกระจายการฉีดวัคซีนใน 3 ช่องทาง คือ ผ่านระบบหมอพร้อม ผ่าน อสม.

และการที่หน่วยงานองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนรวมทั้งสมาชิกในครอบครัว รวมกลุ่มกันทำหนังสือมายังกรมควบคุมโรคเพื่อขอรับวัคซีน ทั้งขอรับการฉีดที่สถานบริการและการจัดสถานที่และบุคลากรฉีดวัคซีนเอง รูปแบบนี้จะช่วยแบ่งเบาภารกิจของกระทรวงสาธารณสุขอย่างมาก เช่น กระทรวงคมนาคมใช้สถานีกลางบางซื่อฉีดบุคลากรขนส่งสาธารณะ หรือกองทัพที่มีพื้นที่และหน่วยพยาบาลดำเนินการฉีดเองได้ หรือกรณีสำนักงานประกันสังคมที่ระบุว่าจะฉีดให้ผู้ประกันตน เป็นต้น เมื่อฉีดแล้วจะตัดบัญชีจากจังหวัดต้นทาง