โดยนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน(CAS) โรงพยาบาลวิทยาลัยสหแพทย์ปักกิ่ง สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารจีน และสถาบันควบคุมอาหารและยาแห่งชาติ (NIFDC) ได้ตรวจสอบตัวอย่างซีรัมของผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค หรือวัคซีนเชื้อตายซึ่งผลิตโดยบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค จำนวน 2 หรือ 3 โดส
ผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ (Nature) เมื่อวันศุกร์ (28 ม.ค.) ระบุว่านักวิทยาศาสตร์จีนพบว่าอัตราการเกิดสารภูมิต้านทาน (seroconversion) ของแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ในผู้ที่ฉีดวัคซีนดังกล่าวจำนวน 2 โดสอยู่ที่ร้อยละ 3.3 ส่วนในผู้ที่ฉีด 3 โดส ตัวเลขนี้แตะที่ร้อยละ 95
นักวิจัยยังได้ทำการแยกโมโนโคลนอลแอนติบอดี (mAbs) ของมนุษย์จำนวน 323 ตัวที่ได้จากบีเซลล์ (B cells) ซึ่งเป็นเซลล์ความจำ ในผู้ที่ฉีดวัคซีน 3 โดส โดยพบว่าครึ่งหนึ่งของโมโนโคลนอลแอนติบอดีจดจำตัวรับบนผิวเซลล์ (RBD) ที่อยู่บนสไปก์โปรตีน (spike protein) ได้
การศึกษาระบุว่า การรักษาโดยโมโนโคลนอลแอนติบอดีภูมิคุ้มกันลบล้างฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพกว้าง และสามารถใช้เป็นตัวแทนได้นั้น สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์เบตาและโอไมครอนในหนูได้ในระดับสูง
นักวิจัยประเมิณว่าการฉีดวัคซีนโดสกระตุ้นจะช่วยป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีอาการป่วยรุนแรงได้ แม้ว่าค่าความเข้มข้นของแอนติบอดีที่สามารถลบล้างฤทธิ์ของเชื้อไวรัสฯ โอไมครอน ในผู้ฉีดวัคซีน 3 โดสนั้นจะต่ำกว่าเชื้อไวรัสฯ ตัวเดิมก็ตาม
หวังเสียงสี่ นักวิจัยจากสถาบันชีวฟิสิกส์ สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน ซึ่งเป็นผู้เขียนร่วมของบทความกล่าวว่า ผลการศึกษานี้บ่งชี้ว่าเหตุใดการใช้แผนการฉีดวัคซีน 3 โดสจึงเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล
ไม่ว่าผลวิจัยต่อหลายสำนักจะออกมายืนยันอย่างไร แต่ผลที่แน่นอนคือการเสริมภูมิคุมกันในตัวเองให้สูงขึ้นนั้นค่อนข้างจะจริง การรักษาสุขภาพเป็นเบื้องต้นที่สำคัญมั่นตรวจเชคร่างกายออกกำลังกายกันอย่างสม่ำเสมอ นะคะ