นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยกรณีพบผู้ป่วยโควิด-19 ในเด็กเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กที่ได้รับเชื้อโควิด-19 จากคนในครอบครัว จึงขอให้ผู้ปกครอง หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก เพื่อลดโอกาสในการรับเชื้อ ขณะเดียวกันแนะนำให้ผู้ปกครอง ซึ่งต้องอยู่ใกล้ชิดเด็ก ขอให้เข้ารับวัคซีนให้ครบโดส เพื่อลดโอกาสที่จะนำเชื้อมาสู่เด็กเล็กด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังแนะนำว่า การป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ให้กับเด็กนั้น ควรทำควบคู่กับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงโดย วัคซีนไฟเซอร์ สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ที่จะเข้ามาถึงประเทศไทย วันที่ 26 ม.ค.นี้ จำนวน 3 ล้านโดสจาก 10 ล้านโดส จะเริ่มให้บริการฉีดแห่งแรก ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี หรือ รพ.เด็ก ก่อนเป็นแห่งแรก เพื่อเดินหน้าฉีดให้กับเด็กที่มีโรคประจำตัว ซึ่งถือเป็นเด็กกลุ่มเสี่ยง ก่อนจะกระจายไปยังรพ.ต่าง ๆ จึงได้ประสานไปยังกระทรวงศึกษาธิการ
ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับเด็กแล้ว โดย สธ. ตั้งเป้าจะเริ่มฉีดวัคซีน “ไฟเซอร์” เด็ก ในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ปกครองให้พาบุตรหลานมารับการฉีดวัคซีนด้วยความสมัครใจ เพื่อความปลอดภัย ที่สำคัญ คือ วัคซีนใจ ด้วยการอธิบายให้เด็กมีความเข้าใจอาการของโรค การเจ็บป่วยโควิด -19 สามารถรักษาได้ รวมทั้งลดอคติกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือหายแล้ว