ผู้ว่าฯเชียงใหม่ แถลง เผยสาเหตุ ผู้ต้องขังติดโควิด เกือบ 4,000 ราย

ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ตั้งโต๊ะแถลง ปมผู้ต้องขังติดโควิด เกือบ 4,000 ราย เผยสาเหตุการติดเชื้อ เกิดจากทำกิจกรรมร่วมกัน คาดอีก 2 วันหายป่วยเพิ่ม พร้อมคืนพื้นที่ปลอดโควิดให้เรือนจำ 28 พ.ค. นี้

(17 พ.ค.64) นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย พลตรีถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงถึงประเด็นเรือนจำกลางเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อเกือบ 4,000 รายที่กำลังเป็นที่น่าสนใจอยู่ขณะนี้ ว่า สำหรับตัวเลขผู้ต้องขังในขณะนี้มีอยู่ทั้งหมด 6,311 คน ตรวจพบติดเชื้อ 3,793 คน รักษาหายแล้วและมีภูมิคุ้มกันจำนวน 1,532 คน หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของผู้ต้องขังทั้งหมด เหลือผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อจำนวน 923 ราย

ปัจจุบันตัวเลขผู้ติดเชื้อในเรือนจำคิดเป็นประมาณ 60% แต่ในตัวเลขนี้อีก 2 วัน จะพ้นระยะกักตัวอีกประมาณ 1,700 คน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคที่ประสบผลสำเร็จตามระบบบับเบิลแอนซีลที่นำมาใช้ ส่วนข้อกังวลของเชื้อที่อาจแพร่ออกจากเรือนจำ ยืนยันว่าทางเรือนจำมีมาตรการป้องกันอย่างงเข้มงวด มั่นใจว่าจะไม่มีการแพร่ระบาดออกไปจากเรือนจำได้แม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่ไหลออกไปที่จะไม่มีการปนเปื้อน ส่วนผู้ที่พ้นโทษออกไปก็มีมาตรการกักตัวรองรับอีกชั้นหนึ่ง

นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ นำระบบบับเบิลแอนด์ซีลมาใช้ตั้งแต่ 26 เม.ย.64 ที่ผ่านมา โดยลักษณะพื้นที่ปิดของเรือนจำทำให้มีสมมุติฐานว่า เมื่อพบการแพร่ระบาดแสดงว่าทุกคนในพื้นที่มีโอกาสได้รับเชื้อแล้ว โดยระบบบับเบิลแอนด์ซีล มีมาตรการดำเนินการคือ

มีการจำกัดขอบเขตการแพร่ระบาดไว้ไม่ให้มีการกระจายจากแดนสู่แดนและกระจายออกสู่พื้นที่ภายนอก โดยมีการล็อคดาวน์ ปิดกั้นพื้นที่หรือซีลพื้นที่ ทั้งในระดับห้องขังและระดับแดนเป็นเวลา 14 วัน 2 รอบ คือเป็น 2 เท่าของระยะฟักตัวของโรค รวม 28 วัน

-ระหว่างการควบคุมโรค จะมีการค้นหาผู้ที่มีอาการเพื่อเข้าสู่การรักษาโดยเร่งด่วน

-มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำที่สามารถรักษาผู้ต้องขังตั้งแต่ระดับเขียว เหลือง ส้ม ส่วนสีแดงจะมีการส่งต่อ โดยสามสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ต้องขังสีแดงถูกส่งไปโรงพยาบาลภายนอกที่มีศักยภาพจำนวน 6 ราย

-จะมีการตรวจสอบภูมิคุ้มกันผู้ต้องจขังเมื่อครบ 14 วัน สองรอบ โดยในทางทฤษฎี เมื่อครบ 28 วันตามระยะโครงการ จะเหลือผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มนี้จะทำการหาเชื้อทุกคนอย่างละเอียด ดังนั้นจะสามารถแยกกลุ่มเพื่อควบคุมโรคได้ชัดเจน

ส่วนสาเหตุของการแพร่ระบาดในครั้งนี้นั้น นายสุรศักดิ์ เผื่อนคำ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นมาจากแดน 4 ซึ่งเป็นแดนแรกรับ แม้จะมีมาตรการกักตัวผู้ต้องขังแรกรับอย่างเข้มงวด แต่ด้วยหลายปัจจัย ประกอบกับผู้ต้องขังมีกิจกรรมหลายอย่างที่มีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องขังในแดนต่าง ๆ เช่น จากแดน 4 ไปเรียนหนังสือแดน 6 ไปฝึกวิชาชีพแดน 5 แดน 7 และ กิจกรรมต่าง ๆ จึงทำให้เกิดการติดเชื้ออย่างรวดเร็ว

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวให้ความมั่นใจกับประชาชนและญาติพี่น้องผู้ต้องขัง ขอให้มั่นใจในกระบวนการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในเรือนจำ ทุกภาคส่วนดำเนินการอย่างเต็มที่ในการคืนความปลอดภัยให้กับเรือนจำกลางเชียงใหม่