อ่านข้อมูลนี้แล้ว น่าเห็นใจนะคะ ในสถานการณ์วิกฤต โควิด ที่บุคลากรทางบการแพทย์ต้องทุ่มเททำงานอย่างหนัก และมีความเสี่ยงสูงที่จะต้องสัมผัสกับผู้ติดเชื้อในทุกวัน ข้อมูลในเพจ ‘ศูนย์นเรนทรนครศรีธรรมราช- ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669’ ออกมาโพสต์ข้อความเพื่อขอความเห็นใจ และสะท้อนปัญหาที่ตามมาหลังจากเจอผู้ป่วย โควิด ปกปิดข้อมูลว่า
“ผลของการที่ปกปิดข้อมูล ทั้งที่ทราบว่าตนเองเดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง ทำให้เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน ต้องโดนกักตัวหลายท่าน หน่วยงานขาดบุคลากร ซึ่งปกติก็ขาดอยู่แล้ว หลายคนมีลูกรออยู่ที่บ้าน บางคนทำงานตั้งแต่สงกรานต์ ยังไม่ได้กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้าน ทุกคนมีครอบครัวรออยู่ที่บ้าน แต่เมื่อวานพวกเขาไม่ได้กลับบ้าน ต้องเดินน้ำตาตกเข้าไปกักตัวในโรงพยาบาล เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม จากสิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วย #ปกปิดประวัติ”
นอกจากกลุ่มพยาบาลที่ต้องกักตัวแล้ว ยังมีกู้ภัยที่ต้องกักตัวด้วย เพราะไปรับผู้ป่วย โควิด รายนี้จากบ้านพักมาส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อคืนวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา กลุ่มพยาบาลและบุคคลากรของโรงพยาบาลที่เข้าเวรวันนั้น ก็ให้การดูแลรักษา ต่อมาผลการตรวจออกมาว่า ผู้ป่วยรายนั้นติดเชื้อ โควิด จึงมีการซักถาม สืบสวนประวัติอย่างละเอียด ผู้ป่วยยอมรับว่า เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง และไข้ขึ้นสูงมา 3 วันแล้ว แต่ปกปิดข้อมูล ซึ่งเพจ ‘ศูนย์นเรนทรนครศรีธรรมราช- ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669’ ยังโพสต์ข้อความ ขอความเห็นใจอีกว่า
“ขอความกรุณาเห็นใจเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยกู้ชีพ-กู้ภัย ที่เขาเข้าไปช่วยเหลือคุณ อย่าเห็นแก่ตัว อย่าปกปิดประวัติ ให้ความร่วมมือในการสอบสวนโรค รพ.สนาม สถานที่รองรับผู้ป่วยสร้างเพิ่มได้ใน 1 วัน แต่บุคลากรทางการแพทย์ถ้าจะเพิ่มก็ต้องรอเด็กจบใหม่อีก 1 ปี ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปลอดภัย”
