ราชกิจจาฯ ประกาศ แนวทางให้ ยาฟาวิพิราเวียร์ กลุ่มตรวจ ATK ผลบวก

อ่านชัดๆ ราชกิจจาฯ ประกาศ แนวทางให้ ยาฟาวิพิราเวียร์ กลุ่มตรวจ ATK ผลบวก โดยเภสัชกร มีส่วนช่วยเหลือประชาชน

หลังจากนี้ เภสัชกรชุมชน จะมีส่วมร่วมในการช่วยเหลือ ประเมินอาการ – จ่ายยา คนติดโควิด ที่ตรวจด้วยวิธี ATK ด้วยตัวเอง

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2564 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสภาเภสัชกรรม ที่ 56/2564 เรื่อง แนวทางการให้บริการยาฟาวิพิราเวียร์ และยาจำเป็นแก่ผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวก ด้วยชุดตรวจโควิด Antigen Test Kits แบบตรวจด้วยตัวเอง

โดยข้อความ ในประกาศ ระบุว่า ด้วยสถานการณ์โรคโควิด ระบาดอย่างรุนแรง รวดเร็ว ไปสู่ชุมชน ครอบครัวอย่างกว้างขวางไปทุกภูมิภาคของประเทศ กระทบต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชน ตลอดจนความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม นับเป็นภัยพิบัติร้ายแรงของประเทศชาติ

การค้นหาผู้ติดเชื้อโรคโควิด ได้อย่างรวดเร็วแยกจากชุมชนและครอบครัว เพื่อมิให้เป็นพาหะแพร่เชื้อ รักษาด้วยวิธี Home isolation หรือ Community isolation

รวมทั้งได้รับยา Favipiravir และยาจำเป็น ในเวลาที่เหมาะสม จะช่วยป้องกันผู้ติดเชื้อ ที่ยังไม่แสดงอาการ หรือมีอาการไม่รุนแรง ลดการเจ็บป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตได้ และช่วยบรรเทาภาวะวิกฤติ การบริการทางแพทย์และสาธารณสุข

ดังนั้น เพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการในร้านยา ตามกฎหมายว่าด้วยยาอยู่ทั่วประเทศ มีส่วนช่วยเหลือประชาชนในภาวะวิกฤต ให้สามารถเข้าถึงยาจำเป็นได้รวดเร็ว และเหมาะสม

สภาเภสัชกรรมจึงกำหนดแนวทาง การให้บริการยา Favipiravir และยาจำเป็นแก่ผู้ป่วยที่มีผลตรวจโควิด ATK เป็นบวก เพื่อประโยชน์และความปลอดภัย ของผู้ป่วยและการควบคุมโรคระบาด

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 (1) มาตรา 9 (7) มาตรา 23 (1) และมาตรา 24 (1) (ก) แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2537 นายกสภาเภสัชกรรมโดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการสภาเภสัชกรรม ในการประชุมครั้งที่ 313 (9/2564) เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศสภาเภสัชกรรม ที่ 56/2564 เรื่อง แนวทางการให้บริการยา favipiravir และยาจำเป็นแก่ผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวกด้วยชุดตรวจโควิด ATK ตรวจด้วยตัวเอง

ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ 3 เภสัชกรชุมชนประเมินความเสี่ยงของผู้ป่วยหรือผู้สงสัยติดเชื้อ เพื่อคัดกรองเบื้องต้นว่าควรได้รับการตรวจติดตามการติดเชื้อโควิด ด้วย Antigen Self-Test Kit

ข้อ 4 ในกรณีที่ผู้ป่วยหรือผู้สงสัยเข้าข่ายมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อ เภสัชกรชุมชน จ่าย Antigen Self-Test Kit ให้แก่ผู้ป่วยหรือผู้สงสัยติดเชื้อ พร้อมคำแนะนำวิธีการใช้ Antigen Self Test Kit วิธีการทิ้งและทำลายชุดตรวจเมื่อใช้เรียบร้อยแล้ว

ข้อ 5 เภสัชกรชุมชนอธิบายผลการตรวจ เมื่อผู้ป่วยหรือผู้สงสัยติดเชื้อ ได้ส่งภาพหรือรูปถ่ายผลการตรวจให้แก่เภสัชกรชุมชนได้รับทราบ

ข้อ 6 ในกรณีที่ Antigen Self-Test Kit แสดงผลเป็นลบ เภสัชกรชุมชนให้คำปรึกษาแก่ผู้สงสัยติดเชื้อให้ยังคงแยกกักตัวจากผู้อื่น สังเกตอาการตนเองในระหว่างการกักตัว และแนะนำให้ตรวจเชื้อโควิด ซ้ำหลังจากการตรวจครั้งแรกประมาณ 3 ถึง 7 วัน หรือตรวจอีกครั้งทันที

เมื่อผู้กักตัวสังเกตว่ามีอาการคล้ายการติดเชื้อ เภสัชกรชุมชนติดตามอาการผู้กักตัว เป็นระยะ ๆ จนหมดระยะเวลากักตัว

ข้อ 7 ในกรณีที่ Antigen Self-Test Kit แสดงผลว่าติดเชื้อโควิด เภสัชกรชุมชนชักถามอาการเพิ่มเติม เพื่อประเมินระดับความรุนแรงของผู้ป่วยว่าเป็นสีเขียว เหลือง หรือแดง

และให้คำปรึกษาในการดูแลตนเอง ให้แยกกักตัวจากผู้อื่น และเภสัชกรชุมชนจัดเตรียมยาเพื่อใช้สำหรับ Home Isolation จัดส่งให้แก่ผู้ป่วยที่บ้าน เภสัชกรชุมชนคอยติดตามอาการและผลการใช้ยาของผู้ป่วยเป็นระยะ ๆ ตามมาตรฐานการบริบาลทางเภสัชกรรม

ข้อ 8 รายการยาสำหรับ Home Isolation

ประกอบด้วยรายการยาจำเป็นสำหรับ การรักษาตนเองตามอาการ และยาต้านโควิด-19 ตามแนวทางที่กรมการแพทย์กำหนด ตัวอย่าง รายการยา Home Isolation สำหรับการกักตัว 14 วัน

1. ยาพาราเซตามอล 500 มิลลิกรัม สำหรับลดไข้ แก้ปวด จำนวน 30 เม็ด รับประทาน ครั้งละ 1 เม็ด ทุก 4 – 6 ชั่วโมง เวลามีไข้

2. ยาเด็กซ์โทรเมทอร์แฟน สำหรับแก้ไอแห้ง จำนวน 30 เม็ด รับประทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง หลังอาหารเช้า กลางวัน และเย็น

3. ยาอะเซทิลซีสทีน สำหรับละลายเสมหะ จำนวน 20 เม็ดหรือ 20 ซอง ละลายยา 1 เม็ด หรือ 1 ซอง ในน้ำ 1 แก้ว รับประทาน วันละ 1 ครั้ง หลังอาหารเช้า หรือ เย็น

4. ยาคลอเฟนนิรามีน 4 มิลลิกรัม สำหรับลดน้ำมูก รับประทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง หลังอาหารเช้า

5. ผงเกลือแร่ ORS สำหรับท้องเสีย ละลายผงเกลือแร่ 1 ซองในน้ำ 1 แก้ว จิบแทนน้ำ เมื่อท้องเสียน้ำเกลือแร่ไม่ควรเก็บเกิน 24 ชั่วโมง

6. ยาฟ้าทะลายโจร สำหรับลดไข้ แก้เจ็บคอและต้านเชื้อโควิด-19 รับประทาน ครั้งละ 3 – 4 เม็ด วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน (โดยให้มีปริมาณของ Andrographolide 180 มิลลิกรัมต่อวัน)

7. ยาฟาวิพิราเวียร์ 200 มิลลิกรัม สำหรับต้านเชื้อโควิด-19 จำนวน 50-64 เม็ด วันแรก รับประทาน ครั้งละ 9 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น จำนวน 30 เม็ด จำนวน 5 ซอง จำนวน 60 เม็ด วันที่ 2 – 5 รับประทาน ครั้งละ 4 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็นกรณีน้ำหนักตัว มากกว่า 90 กิโลกรัม วันแรก รับประทาน ครั้งละ 12 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น วันที่ 2 – 5 รับประทาน ครั้งละ 5 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น

8. รายการยาอื่น ๆ ตามแนวทางการรักษาโรคโควิด-19 ของกรมการแพทย์

9. ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากขึ้นถึงขั้นที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้ เภสัชกรชุมชนจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งต่อผู้ป่วยไปรักษายังสถานพยาบาลต่อไป

10. ให้นายกสภาเภสัชกรรมเป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้ ในกรณีที่มีปัญหาในการตีความหรือในกรณีที่มีปัญหาในการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้นายกสภาเภสัชกรรมเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด ในกรณีที่นายกสภาเภสัชกรรมเห็นสมควรอาจเสนอให้คณะกรรมการสภาเภสัชกรรมเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดคำวินิจฉัยของนายกสภาภสัชกรรมหรือของคณะกรรมการสภาเภสัชกรรม แล้วแต่กรณีให้ถือว่าเป็นที่สุด

คลิปอีจันแนะนำ
{“src”: “b4f3414e-40b2-486b-8fa4-00c7b7124792”}