ลูกสาว โต้ ไม่เคยทิ้งพ่อ ! ยัน ไม่รู้มาก่อนว่า พ่อติดโควิด

ลูกสาว โต้ ไม่เคย พาพ่อทิ้งวัด โคราช ! รับเครียดจากกระแสข่าวโจมตี ลูกอกตัญญู ยืนยัน ไม่รู้มาก่อนว่า พ่อติดโควิด วอนคนนอกเข้าใจใหม่

คืบหน้ากรณีโลกโซเชียลแชร์ภาพชายสูงวัยถูกทิ้งในวัดแห่งหนึ่งในเขต อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา พร้อมระบุว่า ลูกสาวเป็นคนพาพ่อมาทิ้งที่วัดแล้วหนีไป ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้การช่วยเหลือและส่งต่อการรักษามาที่ รพ.ขอนแก่น เนื่องจากชายคนดังกล่าวเป็นชาว อ.พล จ.ขอนแก่น

ทำได้ยังไง ? หอบพ่อป่วยโควิดมาทิ้งวัด

ล่าสุด ด้าน น.ส.จรรยา ลูกสาว เปิดเผยทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า ยืนยันไม่ได้ทิ้งพ่อ ตนดูแลดีมาโดยตลอด พ่อต้องการจะไปอยู่กับหลวงน้าที่สนิทกันและรู้จักกัน ตนไม่ทราบว่าพ่อติดโควิด19 มาก่อน ซึ่งตนเองได้โทรศัพท์คุยกับหลวงน้าแล้ว เพราะพ่ออยากไปหา ซึ่งหลวงน้าก็รับรู้และยินดีให้มา เพราะอยู่รูปเดียว จึงพาพ่อไปหาหลวงน้าที่วัด

ตอนนี้เครียดและตกใจที่มีกระแสข่าวออกมาในแนวว่าทิ้งพ่อ ยืนยันว่าไม่เคยคิดทิ้งพ่อและดูแลพ่ออย่างดี แต่พ่ออยากจะไปหาหลวงน้าที่สนิทกัน จึงพาพ่อไปตามที่พ่อต้องการ กระทั่งมีกระแสข่าวออกมาและเพิ่งทราบว่าพ่อติดโควิด-19 หลังทราบตนเองไปตรวจก็ติดโควิด-19 เช่นกัน ทำให้ตอนนี้ตนยิ่งเครียดหนักไปกว่าเดิม แต่ยืนยันว่าไม่เคยทอดทิ้งพ่อ และดูแลพ่ออย่างดีมาโดยตลอด ขอให้คนนอกเข้าใจใหม่ด้วย

ด้าน นายกิตติโชติ เตรียมเวชวุฒิไกร นายกเทศมนตรีเมืองเมืองพล กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องได้มอบหมายให้ทีมสอบสวนโรคและฝ่ายพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่สอบสวนโรคทันที พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพให้กับครอบครัว เนื่องจากต้องกักตัว 14 วันตามแนวทางการสอบสวนโรค

ขณะที่นายสมบูรณ์ นั้นทราบว่าใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่กรุงเทพฯ และเมื่อไม่สามารถที่จะประกอบอาชีพได้เนื่องจากอายุมาก จึงให้ลูกสาวมาส่งที่วัดที่ อ.บัวลาย จ.นครราชีมา แต่ด้วยการที่อายุมาก ป่วย และเกิดเป็นลม จึงนอนอยู่ในจุดที่คนไปพบจนกลายเป็นกระแสโซเชียลเกิดขึ้น

โครงการคนเมืองพล เราไม่ทิ้งกัน ซึ่งหลังทราบเรื่องคณะทำงานร่วมทุกฝ่ายได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือครอบครัวนี้ทันที แต่ด้วยการที่เสี่ยงจะมีการสัมผัส เนื่องจากบุตรชายที่อยู่ที่ อ.พล ได้เดินทางไปหาพ่อ แม้จะไม่เจอตัวแต่ก็อยู่ในจุดที่คุณพ่อ นั้นอาศัยอยู่และเป็นจุดที่ทีมกู้ชีพได้เข้าไปช่วยเหลือ

ดังนั้น มาตรการป้องกันและควบคุมโรคตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขจึงจำเป็นจะต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดทีนที ด้วยการสั่งกักตัวทั้งครอบครัว โดยเทศบาลฯจะให้การสนับสนุนด้านอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งการประสานงานร่วม รพ.ขอนแก่น และ รพ.พล ในการแจ้งถึงความคืบหน้าอาการของคุณพ่อให้กับครอบครัวที่อยู่ที่ อ.พล ได้รับทราบอยู่เป็นระยะด้วยและหากการรักษาหายขาดจากโรค หรือพ้นระยะกักตัวของครอบครัว เทศบาลฯ ก็จะจัดรถรับและส่งให้กับครอบครัวนี้ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง