หลังจากที่หลายคนกังวลเรื่อง ผลข้างเคียงของวัคซีนโควิด หลังต่างประเทศผู้ที่ได้รับวัคซีนบางราย มีอาการแพ้อย่างรุนแรง และประกาศเลิกใช้ เช่น สาธารณสุขเดนมาร์กตัดสินใจที่จะดำเนินโครงการให้วัคซีนโควิด-19 โดยไม่ใช้วัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้า ตอนนี้มีคนในเดนมาร์กได้รับวัคซีนไปแล้วเกือบล้านคน โดยราว 1.5 แสนรายได้วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า เดนมาร์กเป็นประเทศแรกที่ออกมาสั่งระงับการใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าชั่วคราวเมื่อเดือน มี.ค. ก่อนที่อีกหลายประเทศในยุโรปจะทำตาม
แน่นอนว่า วัคซีนยี่ห้อดังกล่าวของเดนมาร์คคือแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งตรงกับที่ประเทศไทยใช้ฉีดตอนนี้ ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขของไทย ออกมาประกาศแล้วว่า ยืนยันว่าวัคซีนโควิด-19 ที่ไทยใช้มีประสิทธิภาพสูง และความปลอดภัย ประชาชนสามารถฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันและเพิ่มภูมิคุ้มกันของตัวเองได้
โดยข้อมูลทางระบาดวิทยาและข้อมูลทางวิชาการยืนยันว่า วัคซีนโควิด-19 ที่ไทยนำมาใช้ในทั้งแอสตราเซเนกา และซิโนแวค เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ มีการฉีดวัคซีนสะสมรวม 579,305 โดสหรือเข็ม มีผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 505,744 คน ในทุกจังหวัดตามเป้าหมายและกำหนดเวลา ขณะนี้ยังมีการจัดหาวัคซีนซิโนแวคอีก 1 ล้านโดส ซึ่งอยู่ในประเทศไทยแล้ว รอการตรวจทางห้องปฏิบัติการและเอกสาร จะมีการส่งมอบให้กรมควบคุมโรคต่อไป
โดยในระยะถัดไปจะฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยเฉพาะบุคลากรด่านหน้าให้ได้ 100% สำหรับวัคซีนหลักที่จะมาถึงไทยในเดือน มิ.ย. ประมาณเดือนละ 6 – 10 ล้านโดส สามารถจะฉีดให้กับประชาชนได้อย่างครบถ้วน
แน่นอนว่าหลังจากฉีดวัคซีนแล้วเข็มแรก ก็ยังสามารถติดเชื้อได้ ซึ่ง สธ.ชี้แจงว่า วัคซีนไม่ได้มีประสิทธิภาพในการป้องกัน แต่ช่วยลดเรื่องความรุนแรงของอาการ
ซึ่งก่อนหน้านี้ คนไทยที่ได้รับวัคซีน มีทั้งคนที่แพ้ด้วยอาการรุนแรงและไม่รุนแรง
อ่านข่าว สธ.เผย บุคลากรทางการแพทย์ รายแรกของไทย แพ้วัคซีนโควิดรุนแรง
ซึ่งก่อนจะได้รับวัคซีน ก็มีการสอบประวัติอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการแพ้ และอันตรายที่เกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีน
ส่วนกลุ่มเสี่ยงสูง ที่จะได้รับวัคซีน อย่าลืมแจ้งเจ้าหน้าที่และให้ข้อมูลให้ละเอียดทุกครั้งนะคะ จันเป็นห่วง