สธ. ชี้ ยอดโควิด อาจยัง สูงต่อเนื่อง 2-6 สัปดาห์ ก่อนเริ่ม ลดลง

สธ. คาด สถานการณ์ โควิด 19 ยังสูง ต่อเนื่อง อีก 2-6 สัปดาห์ ก่อนทรงตัวและเริ่ม ลดลง ยืนยันมีเตียงและยา เพียงพอ รองรับ กลุ่มอาการรุนแรง

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ร่วมแถลงสถานการณ์โควิด 19 แนวทางควบคุมป้องกันและการรักษาพยาบาล

โดย นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกภูมิภาค ทำให้ผู้ป่วยปอดอักเสบ ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิต มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย แต่ยังเป็นสัดส่วนที่ลดลง โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ มีโรคเรื้อรัง และยังไม่ได้ฉีดวัคซีน จึงขอให้ประชาชนยังต้องเข้มมาตรการป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา และฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะมีผู้ป่วยปอดอักเสบประมาณ 1 พันกว่าราย ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจประมาณ 400-500 ราย ต่ำกว่าช่วงสายพันธุ์เดลตาที่ผู้ป่วยปอดอักเสบประมาณ 6-7 พันราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 1,300 ราย ระบบสาธารณสุขจึงสามารถรองรับได้

โดยขณะนี้เตียงทั่วประเทศใช้ไปประมาณ 59% ส่วนใหญ่เป็นเตียงระดับ 1 สำหรับผู้มีอาการน้อย ส่วนเตียงระดับ 2 และ 3 ใช้ประมาณ 20% เท่านั้น ขณะที่ยาฟาวิพิราเวียร์ สำรองไว้ทั่วประเทศ 16.9 ล้านเม็ด ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน องค์การเภสัชกรรมสามารถผลิตได้อีก 63.8 ล้านเม็ด รวมถึงสั่งซื้อเพิ่มเติมด้วย รวมทั้งสิ้น 87.6 ล้านเม็ด วันนี้ส่งไปพื้นที่แล้ว 5 ล้านเม็ด และวันที่ 1 มีนาคม จะส่งเพิ่มอีก 15 ล้านเม็ด พร้อมทั้งเพิ่มบริการตรวจรักษาผู้ป่วยโควิด 19 แบบผู้ป่วยนอกสำหรับผู้สมัครใจ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และประชาชนเข้าถึงบริการมากขึ้น

ด้าน นพ.โอภาส กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในประเทศไทยขณะนี้เป็นสายพันธุ์โอมิครอนเกือบทั้งหมด ซึ่งในทวีปยุโรปและอเมริกาพบการระบาดมากในช่วง 1-2 เดือน จากนั้นจะเริ่มลดลง ดังนั้น จึงคาดว่าประเทศไทยจะยังมีผู้ป่วยสูงขึ้นในช่วง 2-6 สัปดาห์นี้ ซึ่งผู้ที่เสียชีวิตส่วนใหญ่พบว่าไม่ได้ฉีดเข็มกระตุ้น ดังนั้น ต้องเร่งการฉีดเข็มกระตุ้น รวมถึงเร่งฉีดในเด็กที่พบการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นกว่า 10% ด้วย

คลิปแนะนำอีจัน
รักข้ามรุ่น นายเเน่มาก