สถานการณ์ โควิด ที่มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยที่พบว่ามีการระบาดของ โควิด เป็นรอบที่ 3 โดยขณะนี้รัฐบาลได้เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนโควิดให้แก่ประชาชน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 64 นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) เผยว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด ฉบับที่ 1 และ 2 โดยให้ผู้ป่วย สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม
แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้แก่ประชาชนชาวไทยผ่านการ ฉีดวัคซีนโควิด จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่ด้วยสุขภาพร่างกายของแต่ละบุคคลย่อมแตกต่างกัน อีกทั้งการฉีด วัคซีนโควิด ในครั้งนี้มีผู้เข้ารับบริการนับล้านราย และมีบางรายที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีน
ดังนั้นทาง กรม สบส.จึงดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติม โดยออกเป็นประกาศฉบับที่ 3 กำหนดให้สถานพยาบาลเอกชน ให้บริการแก่บุคคลที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนโควิด โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย
นายแพทย์ธเรศ กล่าวต่อว่า สำหรับ ประกาศดังกล่าวให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. 63 เว้นแต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากอาการแพ้วัคซีน หรืออาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการฉีดวัคซีน ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 64 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้ ประชาชนที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนโควิด จากสถานพยาบาลเอกชนที่รัฐกำหนด สามารถเข้ารับการดูแลรักษาได้ฟรีจากสถานพยาบาลเอกชน
ซึ่งนอกจากการเพิ่มสิทธิเบิกจ่ายในข้างต้นแล้ว ประกาศล่าสุด ยังได้เพิ่มสิทธิในการเบิกจ่ายค่าพาหนะขนส่งผู้ป่วยทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ของบุคลากรทางการแพทย์ด้วย