สธ. ยืนยัน หน้ากากอนามัย กระทบ พัฒนาการ เด็กเล็ก

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ยืนยัน การใส่หน้ากากอนามัย เป็นเวลานาน ส่งผลร้าย ต่อสมอง และ พัฒนาการ เด็กตํ่ากว่า 12 ปี

วันนี้ 13 ม.ค.65 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า กรณีที่มีการส่งต่อข้อมูล เรื่องการใส่หน้ากากอนามัย จะส่งผลร้ายต่อการทำงานของสมอง ในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี นั้น ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เพราะ เชื้อโควิด19 ได้มีการกลายพันธุ์ จนถึงสายพันธุ์ล่าสุดคือ โอมิครอน ซึ่งพบว่า มีเด็กที่ติดเชื้อเยอะขึ้น ขณะที่ในปัจจุบัน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ

ดังนั้น การสวมหน้ากากอนามัยในยุคปัจจุบัน อาจจะขัดขวางพัฒนาการทางสังคม และการแสดงออกทางอารมณ์ในเด็กเล็ก นอกจากนี้ ระบบหายใจในเด็ก ยังไม่ได้พัฒนาอย่างเต็มที่ การใส่หน้ากากอนามัย จะทำให้เกิดการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้ได้รับปริมาณออกซิเจนน้อยลง โดยปกติร่างกายจะมีความพยายามให้เราหายใจเร็วขึ้น แรงขึ้น เพื่อให้ได้ออกซิเจนเพียงพอ ช่วงเวลานี้ก็จะมีอาการมึนหัว เวียนหัว เป็นลม หมดสติได้ ส่งผลกระทบในระยะยาว ทำให้สมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ระบบประสาท, สมอง, และร่างกาย ก็จะเจริญเติบโตไม่เต็มที่ จึงควรให้เด็กสวมหน้ากากอนามัยเท่าที่จำเป็น และมุ่งเน้นการป้องกันด้วยวิธีอื่น ควบคู่กันไป เช่น ปลูกฝังการล้างมือให้กับเด็กจนเป็นนิสัย เป็นต้น

คลิปแนะนำอีจัน
สาวงง ติดโควิด มาจากไหน ?